ไม่มีใบสั่งทางการเมือง
กกต.ซัด‘อนค.’
แจงทำตามขั้นตอนกม.
ถกปม‘ธนาธร’ปล่อยกู้11ธค.
‘จุรินทร์’ย้ำไม่มีปัญหาในรบ.
ร่วมมือกับใครต้องไปต่อให้จบ
‘ชวน’ชื่นชมคนไม่ย้ายพรรค
กกต.ยืนยันไม่มีธง-ใบสั่งทางการเมือง เชือด “ธนาธร”คดีอนค.กู้เงิน โต้“ช่อ-พรรณิการ์”ย้ำทำตามระเบียบกฎหมายทุกขั้นตอน ไร้มูลเหตุทางการเมือง ชี้ให้โอกาสส่งเอกสารแจงตั้งแต่ชั้นอนุฯถึงชั้น กกต.แล้ว แต่พรรคไม่ส่งเอง ถือว่าไม่ติดใจแจง ด้านสภาผู้แทนฯเตรียมพิจารณาญัตติตั้งกมธ.ศึกษาแก้ไขรธน. “ศุภชัย”เชื่ออภิปรายไร้ปัญหา “จุรินทร์”กร้าวถ้าจะปรับปชป.พ้นรัฐบาล ขอให้แจ้งมาพร้อมตัดสินใจ ย้ำจุดยืนแก้รธน.เป็นเงื่อนไขร่วม รบ. “เทพไท”จ่อแจงจุดยืนในสภา จับตาพปชร.ส่งคนนั่งปธ. กมธ.สะท้อนอยากแก้จริงหรือไม่ ‘วิษณุ’แจงไม่ส่งระดับ“หนุมาน”ร่วม หวั่นโดนข้อครหา ส่ง’ลิง18มงกุฎ’ไปร่วมวงแทน
เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เผยแพร่เอกสารชี้แจงกรณี น.ส.พรรณิการ์วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ ได้แถลงข่าวว่ากกต.พิจารณาการกู้เงินของพรรคอนาคตใหม่ เป็นไปโดยมีธงทางการเมือง หรือมีใบสั่งทางการเมืองหรือไม่ เนื่องจากมีเอกสารความเห็นของบุคคลระดับสูงของสำนักงาน กกต.ได้ชี้นำในสำนวนไว้แล้วว่านายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กระทำความความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบ รัฐธรรมนูญ(พ.ร.ป.)ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 นั้นว่าการแถลงข่าวข้างต้นคลาดเคลื่อน ไม่ตรงกับความเป็นจริง
กกต.แจงละเอียดยิบชัดทุกประเด็น
ทั้งนี้ การดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว มีขั้นตอนการพิจารณาตามกฎหมายมาเป็นลำดับ คือ1.ตามระเบียบ กกต.ว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาดพ.ศ.2561 เลขาธิการ กกต.ต้องมีความเห็นในสำนวนการสืบสวนเพื่อเสนอความเห็น ต่อคณะกรรมการ กกต.ซึ่งกรณีนี้เลขาธิการ กกต.ได้มีความเห็น เมื่อวันที่ 20 ก.ย.ตามที่ปรากฏเป็นข่าวโดยการเสนอความเห็นในสำนวนเป็นไปตามขั้นตอนของระเบียบไม่ใช่การชี้นำในสำนวนการสืบสวนแต่อย่างใด 2.เมื่อวันที่ 25 ก.ย.ที่ผ่านมา เลขาธิการ กกต.ได้แจ้งต่อสื่อมวลชนว่ากรณีพรรคอนาคตใหม่กู้ยืมเงินอยู่ในขั้นตอนของคณะอนุกรรมการวินิจฉัยคำร้องและปัญหา หรือข้อโต้แย้ง เพื่อพิจารณาและมีความเห็นเสนอต่อคณะกรรมการ กกต.ตามระเบียบต่อไป
ยึดตามกม.ทุกขั้นตอน-ให้โอกาส
3.ในการตอบคำถามผู้สื่อข่าวเมื่อวันที่11ต.ค.และ23 ต.ค.ที่ผ่านมา ประธาน กกต.ได้ให้ข้อเท็จจริงว่าเรื่องดังกล่าวอยู่ในระหว่างการพิจารณาของคณะอนุกรรมการวินิจฉัยคำร้องและปัญหาหรือข้อโต้แย้งซึ่งเป็นไปตามขั้นตอนของระเบียบและไม่ได้มีการเร่งรัดแต่อย่างใดโดยคณะอนุกรรมการฯได้ขอเอกสารจากพรรคอนาคตใหม่เพื่อประกอบการพิจารณาแต่พรรคอนาคตใหม่ไม่ได้จัดส่งเอกสารตามที่ขอคณะอนุกรรมการฯจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเท่าที่มีอยู่เพื่อจัดทำความเห็นเสนอต่อคณะกรรมการ กกต.พิจารณาตามระเบียบต่อไป
4.ภายหลังจากที่คณะอนุกรรมการฯได้พิจารณาและเสนอความเห็นต่อคณะกรรมการ กกต.แล้ว กกต.ได้มีมติเมื่อวันที่ 18 พ.ย.ที่ผ่านมาให้หมายเรียกขอเอกสารที่คณะอนุกรรมการฯเคยขอจากพรรคอนาคตใหม่ แต่พรรคอนาคตใหม่ ได้จัดส่งเอกสารที่ขอให้บางส่วนและขอขยายเวลาการจัดส่งเอกสารที่ยังไม่ได้จัดส่งออกไปอีก 120 วัน และ 5.กกต.ได้มีมติเมื่อวันที่ 26 พ.ย.ให้หมายเรียกขอเอกสารที่พรรคอนาคตใหม่ยังไม่ได้จัดส่งอีกครั้ง โดยให้พรรคอนาคตใหม่ จัดส่งเอกสารภายในวันที่ 2 ธ.ค.ที่ผ่านมา หากพรรคอนาคตใหม่ ไม่จัดส่งเอกสารภายในกำหนดเวลาดังกล่าว ถือว่าพรรคอนาคตใหม่ไม่ติดใจที่จะส่งเอกสารตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้งร้องขอและจะพิจารณาเอกสารเท่าที่มีอยู่
ดังนั้น การดำเนินการของ กกต.เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องทุกขั้นตอน และให้โอกาสผู้ที่เกี่ยวข้องตามควรแก่กรณี ซึ่ง กกต.ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินการในเรื่องนี้มาเป็นลำดับ ไม่ได้มีความเห็นตั้งแต่วันที่ 20 ก.ย. ตามที่มีการกล่าวอ้าง และ กกต.ไม่ได้มีเหตุจูงใจทางการเมืองแต่อย่างใด
ศุภชัยเชื่อถกกมธ.แก้รธน.ไร้ปัญหา
ขณะที่นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่2กล่าวถึงการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 11ธันวาคมเพื่อมีการพิจารณาญัตติด่วนขอให้ตั้งคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า เชื่อว่าจะไม่มีปัญหาหรือมีประเด็นที่ต้องวิตก เพราะการควบคุมและกำกับการทำหน้าที่ในการประชุมต้องยึดข้อบังคับการประชุมสภาฯ เป็นหลัก ทั้งนี้ยอมรับว่าจะมีส.ส.ที่อภิปรายเป็นจำนวนมาก หากวันที่ 11 ธันวาคม อภิปรายไม่แล้วเสร็จจะต่อการประชุมวันถัดไป ส่วนระยะเวลาการอภิปรายของสมาชิกนั้นจะเป็นไปตามความเหมาะสม ตนพร้อมทำหน้าที่ไปจนถึงเวลาเที่ยงคืน
“ผมเชื่อว่าการประชุมและการอภิปราย ไม่มีอะไรที่ต้องวิตกหรือกังวล หากจะมีการพูดคุยก่อนการประชุม อาจเชิญ ส.ส.ที่เป็นผู้เสนอญัตติที่มีทั้งสิ้น 6 ญัตติ มาพูดคุยกันเท่านั้น ส่วนที่หลายฝ่ายประเมินว่าอาจมีการอภิปรายพาดพิงบุคคลภายนอกหรือรัฐบาลนั้น สภามีข้อบังคับที่กำกับไว้แล้วโดยเรื่องอภิปรายใดที่ไม่เกี่ยวข้องกับญัตติต้อง ตักเตือนสมาชิกให้พูดอยู่ในประเด็น”นายศุภชัย กล่าว
นายศุภชัย ยังกล่าวถึงการเข้าร่วมประชุมสภาฯของพ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ ส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐที่ถูกออกหมายจับของศาลว่า พ.ต.ท.ไวพจน์ยังมีสถานะเป็นส.ส. ส่วนจะเข้าร่วมประชุมหรือไม่ ตนไม่ทราบ ขณะที่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่าสถานะของพ.ต.ท.ไวพจน์ คือ นักโทษและไม่เหมาะสมที่จะมาร่วมประชุมสภานั้น ตนมองว่าขึ้นอยู่กับจิตสำนึกของบุคคล
จุรินทร์ลั่นถ้าจะปรับออกแจ้งได้เลย
นายจุรินทร์ ลักษณ์วิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรีให้พรรคประชาธิปัตย์ออกจากครม.บางตำแหน่งหรือไม่นั้น ไม่ขอชี้แจงอะไร เพราะข่าวไม่ได้มาจากตน เล่นการเมืองมานาน อยู่มาหลายรัฐบาล ทั้งแกนนำ ทั้งฝ่ายค้าน ทำมาทุกหน้าที่ เข้าใจกระบวนการทางการเมือง การปรับคณะรัฐมนตรีขึ้นอยู่กับนายกฯ หากมีการปรับ ก็ขอให้แจ้งมาเพราะพรรค ปชป.ไม่มีปัญหา พร้อมตัดสินใจ บางครั้งการเกิดกระแสข่าวรายวันไม่เป็นผลดีต่อเสถียรภาพของรัฐบาลและตอบล่วงหน้าไม่ได้ว่าจะมีผลต่อเสถียรภาพรัฐบาลอย่างไร พรรค ปชป.ก็แค่พรรคลำดับ2พูดไป ยิ่งเป็นการทำลายสถานการณ์ ยิ่งสร้างปัญหาให้กับพรรคแกนนำหลัก
“ยืนยันว่าความสัมพันธ์ระหว่างพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคร่วมรัฐบาลไม่มีปัญหา โดยเฉพาะในฐานะหัวหน้าพรรคพรรคประชาธิปัตย์ ที่ได้ประกาศชัดเจนแล้วว่าหากตัดสินใจทำงานร่วมกับใครแล้ว ก็ร่วมรัฐบาลด้วยความจริงใจ จับมือเดินไปด้วยกัน ในที่ประชุมพรรค ก็จะพูดอีกครั้งหนึ่ง เน้นย้ำให้สมาชิกได้ทราบถึงการปฏิบัติตนอีกครั้ง วันนี้การปรับยังไม่เกิด หากการปรับเกี่ยงข้องกับพรรค ปชป.ก็ขอให้แจ้งมา พรรคไม่มีปัญหาใดๆ ส่วนตัวพร้อมตัดสินใจได้ทันที มีหลักการในการตัดสินใจอยู่แล้ว” นายจุรินทร์ ย้ำ
ชี้จุดยืนชัดแก้รธน.เงื่อนไขร่วมรบ.
เมื่อถามถึงจุดยืนเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญของพรรคปชป. นายจุรินทร์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ยังมีจุดยืนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง พรรคเข้าร่วมรัฐบาลมีเงื่อนไขหนึ่ง คือ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รวมไปถึงพรรคพลังประชารัฐ ก็ยอมรับเงื่อนไขนี้ตั้งแต่ต้นคู่กับนโยบายประกันราคา ดังนั้น เมื่อเข้าสู่การพิจารณาของสภา และได้ข้อสรุปอย่างไรก็เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องนำมาประกอบการพิจารณาตัดสินใจต่อไป พรรคประชาธิปัตย์ชัดแล้วว่าจะแก้ไขมาตราอะไร ลงลึกศึกษามาครบแล้ว อย่างน้อยที่สุดหมวดว่าด้วยการแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องได้รับการแก้ไข เพราะถ้าไม่แก้ไขหมวดนี้ก่อน สุดท้าย รัฐธรรมนูญแก้ไขไม่ได้เลย ต้องสะเดาะกุญแจดอกนี้ออกก่อน ประตูประชาธิปไตยถึงจะเปิดได้ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ จึงจะเริ่มต้นได้ ประชาธิปัตย์ชัดเจนมาตั้งแต่ต้น ชัดตั้งแต่ก่อนตัดสินใจร่วมรัฐบาล
เมื่อถามว่าการศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ควรจบลง แค่การทำรายงานและส่งรัฐบาลเท่านั้นใช่หรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า “ต้องนำไปสู่ภาคปฏิบัติต่อไป นี่ก็ชัดแล้วนะครับ”
อวยพร’พีระพันธุ์’ขอให้โชคดี
นายจุรินทร์ กล่าวถึงการลาออกจากของนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ และกรรม การบริหารพรรคประชาธิปัตย์ว่าส่วนตัวได้พูดคุยกับนายพีระพันธุ์ แล้วยืนยันว่าการลาออกเป็นการตัดสินใจในเรื่องส่วนตัว ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับตนยังให้ความเคารพกัน สตนอวยพรขอให้โชคดี เพราะทำงานกันมายาวนาน ซึ่งการเข้าออกภายในพรรค ปชป.เป็นเรื่องปกติ และการลาออกของสมาชิก ก็มีอยู่ทุกสมัย อย่าด่วนสรุปว่าพรรคกำลังมีปัญหา ยืนยันว่าการลาออกของสมาชิก ไม่เกี่ยวข้องกับการไม่มีบทบาทภายในพรรค เพราะทุกคนที่มีหน้าที่ ต่างทำงานเต็มที่ภายใต้อุดมการณ์ของพรรค ตนไม่อยากให้เวลามีสมาชิกลาออกคนหนึ่งก็โทษพรรคทีหนึ่ง เพราะไม่ยุติธรรมกับพรรค และคนทำงานที่กำลังพาพรรคไปข้างหน้าส่วนนายพีระพันธุ์ ลาออกจากพรรค ปชป.เพื่อจะไปเป็นรัฐมนตรีในพรรคอื่นนั้น ไม่สามารถตอบได้ อนาคตจะเป็นผู้ให้คำตอบเอง ตนตอบแทนใครไม่ได้
เทพไทถือฤกษ์10ธค.ลุยแก้รธน.
ด้านนายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเสนอญัตติตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญศึกษาปัญหาและแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญว่าขอถือฤกษ์เอาวันรัฐธรรมนูญเป็นจุดเริ่มต้นของการรณรงค์การศึกษาแก้ไขและเปลี่ยนแปลงให้รัฐธรรมนูญของไทย มีความเป็นประชาธิปไตยตามมาตรฐานสากลและในวันที่11ธ.ค.จะเป็นวันประชุมสภาฯจะพิจารณาญัตติดังกล่าว
เตรียมนำเสนอจุดยืนกลางสภา
โดยก่อนการประชุม นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯได้เชิญส.ส.ผู้เสนอญัตติทุกคนเข้าร่วมประชุมเพื่อหารือถึงแนวทางการอภิปรายและกำหนดระยะเวลาการอภิปรายของผู้เสนอญัตติด้วย ตนในฐานะผู้เสนอญัตติคนหนึ่งร่วมอภิปรายด้วย โดยจะนำเสนอใน3ประเด็น คือ 1.จุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์ต่อรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 2.ทำไมต้องมีเงื่อนไขเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญในการเข้าร่วมรัฐบาลกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา 3.ทำไมพรรคประชาธิปัตย์เสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 เพียงมาตราเดียว
ชี้ปธ.กมธ.สะท้อนอยากแก้จริงใจ
นายเทพไท กล่าวว่าส่วนตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญชุดนี้ค่อนข้างชัดเจนว่าเป็นคนของพรรคพลังประชารัฐ เพราะเป็นข้อเรียกร้องของการใช้สิทธิ์พรรคใหญ่ในฐานะพรรคแกนนำรัฐบาล ซึ่งตนไม่ขัดข้อง และยอมรับเงื่อนไขนี้ได้ แต่ถ้าวันข้างหน้า พรรคประชาธิปัตย์จะขอใช้สิทธิ์ของพรรคการเมืองขนาดเล็กบ้างก็ต้องเป็นสิทธิ์เช่นเดียวกัน ทั้งนี้จะต้องจับตาดูว่าพรรคพลังประชารัฐส่งใครมาเป็นประธานกมธ.วิสามัญชุดนี้ ซึ่งการกำหนดตัวบุคคลในตำแหน่งนี้ เป็นการบ่งบอกถึงเจตนาของพรรคพลังประชารัฐว่ามีความจริงใจในการศึกษาปัญหาและแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญในครั้งนี้มากน้อยแค่ไหน ต้องการให้นโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลข้อ 12 สำเร็จหรือไม่
ปชป.ถกทำเข้าใจ4สส.ก่อนโหวต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บ่ายวันเดียวกัน พรรคประชาธิปัตย์ได้ประชุม ส.ส.ของพรรคเพื่อซักซ้อมทำความเข้าใจเกี่ยวกับญัตติตั้งคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางและหลักเกณฑ์การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่จะมีการพิจารณาในการประชุมสภาผู้แทนฯวันที่11ธ.ค เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเหมือนครั้งที่ผ่านมา ที่ประชุมหารือพูดถึงแนวทางการทำงานร่วมกันของพรรคกับรัฐบาลในทุกมิติ รวมถึงปัญหาของ ส.ส.ทั้ง4คนที่มีการโหวตสวนมติของพรรคในการลงมติตั้ง กมธ.ที่ผ่านมา โดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคฯได้ให้นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคฯพูดคุยและทำความเข้าใจกับทั้ง 4 สส.แล้ว
สำหรับการประชุม ส.ส. ครั้งนี้ น.ส.พิมพ์รพี พันธุ์วิชาติกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 24 ของพรรค ได้เข้ามาทำหน้าที่ ในสภาผู้แทนราษฎร แทน นายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค ได้เข้ามาร่วมประชุมซึ่งส.ส.ของพรรค ต่างร่วมแสดงความยินดีกับน.ส.พิมพ์รพี
ชพน.พร้อมหนุนตั้งกมธ.แก้รธน.
ด้านนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา (ชพน.) กล่าวถึงการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 11 ธ.ค.ซึ่งจะมีการพิจารณาญัตติตั้งคณะกรรมาธิการศึกษาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า พรรคชาติพัฒานามีจุดยืนตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้งแล้วว่าเมื่อใช้รัฐธรรมนูญไประยะเวลาหนึ่ง หากทุกฝ่ายเห็นตรงว่าประเด็นไหนควรแก้แล้วเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม พรรคก็ยินดีให้การสนับสนุน ดังนั้น ในญัตติดังกล่าวพรรคพร้อมให้การสนับสนุน
“อยากเห็นความคิดเห็นร่วมกันของคณะกรรมาธิการประเด็นไหนที่ดี ก็ดำเนินการไปตามรัฐธรรมนูญ ประเด็นไหน ที่คิดว่าเห็นตรงกันควรแก้ไขก็จะศึกษาไว้เป็นแนวทางว่าวิธีการและระยะเวลาแก้ไขจะเป็นอย่างไร เรื่องนี้มีความสำคัญและเป็นนโยบายของรัฐบาลด้วย ประชาชนให้ความสนใจ ทุกพรรคก็มีแนวทางจะให้การสนับสนุนอยู่แล้วขึ้นอยู่กับมติของสภา” นายสุวัจน์ ย้ำ
สุวัจน์ชี้ปรับครม.เพิ่มเสียงรบ.
ทั้งนี้ นายสุวัจน์ ยังกล่าวถึงแนวโน้มการปรับคณะรัฐมนตรีว่า เป็นดุลพินิจของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แต่ต้องยอมรับกันว่า รัฐบาลชุดนี้จัดตั้งขึ้นด้วยความลำบากเพราะว่าเวลานั้นการเมืองเราค่อนข้างตึง มีการแบ่งค่ายชัดเจน ก่อให้เกิดความยากลำบากในการตั้งรัฐบาลให้เกิดเสถียรภาพและเป็นที่มาของรัฐบาลที่มีเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งการเป็นรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำเกิดผลกระทบหลายอย่าง ทั้งๆที่รัฐบาลชุดนี้ เมื่อดูจากนโยบายต่างๆก็เป็นนโยบายที่สอดคล้องกับสถานการณ์โลก แต่การขับเคลื่อนให้ประสบความสำเร็จ เสถียรภาพรัฐบาล ก็เป็นพื้นฐานสำคัญ หลายๆครั้งที่เกิดเหตุการณ์ในสภา เวลาเสียงครบ หรือไม่ครบ หรือรัฐบาลแพ้ในการลงมติ ก่อให้เกิดผลกระทบต่อความเชื่อมั่น การโหวตในสภาเป็นเรื่องมีความสำคัญ
“รัฐบาลมี 2 ทางเลือก คือ 1.ถ้าปัจจุบันมีเสียง 253-254 เสียงก็ต้องมีการทำความเข้าใจกันเพื่อให้เกิดเอกภาพ และการมีความรู้สึกเป็นพรรครัฐบาลร่วมกัน ถ้าควบคุมตรงนี้ได้ก็ไม่มีปัญหา 2.หากโหวตมาแล้ว เสียงไม่ครบเรื่อยๆก็มีความจำเป็นที่ จะต้องหาเสียงมาเพิ่มจะด้วยวิธีการอะไรก็แล้วแต่ที่อยู่ในกรอบของรัฐธรรมนูญ การปรับคณะรัฐมนตรีเป็นแนวทางหนึ่งที่จะเพิ่มเสียงให้รัฐบาลมีเสถียรภาพและเพิ่มความเชื่อมั่นในการทำงาน การจะปรับครม.หรือไม่เป็นเรื่องของนายกฯ แต่ชาติพัฒนาไม่ได้มีอะไรที่บอกว่าควรทำหรือไม่ควรทำ แต่ถ้ามีเสียงมาเพิ่มให้กับเสถียรภาพก็จะเกิดประสิทธิภาพในการทำงาน”นายสุวัจน์ ย้ำ
พท.จัดทีมอภิปรายญัตติแก้รธน.
วันเดียวกัน ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) มีการเรียกประชุมวิปพรรคเพื่อไทย นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรค และประธานที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าประชุมว่าเป็นการประชุมวิปพรรคเพื่อไทยเพื่อเตรียมพร้อมในการประชุมสภาในวันที่ 11 ธันวาคมนี้เนื่องจากมีวาระสำคัญคือ เรื่องการพิจารณาญัตติการศึกษาแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญจึงต้องหารือกันเพื่อกำหนดท่าทีการอภิปราย รวมถึงการตั้งคณะกรรมาธิการฯซึ่งต้องมีการคัดเลือกกันว่ามีใครจะเป็น กมธ.บ้าง
เชื่อถกมากเสนอให้อภิปราย2วัน
นายชูศักดิ์ เชื่อว่าที่ประชุมสภา น่าจะตั้ง กมธ.ได้สำเร็จแต่ในที่ประชุมสภา คงมีการอภิปรายกันหลายคน แต่ละพรรคการเมืองเตรียมผู้อภิปรายไว้หลายคน เนื่องจากเรื่องนี้เป็นที่น่าสนใจ แต่ท้ายที่สุด ก็ต้องไปดูเรื่องความเหมาะสมว่าจะอภิปรายกันกี่วัน ซึ่งตนเห็นว่าเต็มที่ ควรจะอภิปราย 2 วัน จากนั้น วันพฤหัสบดีที่ 12 ธันวาคม คงจะตั้ง กมธ.กันได้
เมื่อถามว่ามั่นใจในความจริงใจของรัฐบาลในการขับเคลื่อนแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่นายชูศักดิ์ กล่าวว่าจะยืนยันว่าจะมั่นใจหรือไม่มั่นใจ คงพูดชัดเจนไม่ได้ แต่ดูจากท่าที เหมือนกับว่าเขาอยากให้ศึกษาไปก่อน ศึกษาไปโดยใช้เวลา 180วัน แต่จะจริงใจถึงขนาดต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่นั้นไม่มั่นใจ
‘อนุดิษฐ์’ขวาง’เฉลิม’หน.ซักฟอกรบ.
น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์กรณีมีรายงานข่าวว่า พรรคเพื่อไทยเตรียมตั้ง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เป็นประธานคณะกรรมการเฉพาะกิจพรรคเพื่อไทย ดูแลภารกิจติดตามตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลโดยเฉพาะการเตรียมข้อมูลอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ว่า ทราบข่าวดังกล่าวจากสื่อมวลชนที่เป็นข่าวออกมาเช่นกัน ได้สอบถามหัวหน้าพรรคเพื่อไทย หัวหน้าก็บอกว่าไม่ได้ให้สัมภาษณ์ในเรื่องนี้ รวมถึงผู้ใหญ่หลายคนภายในพรรค รองหัวหน้า ประธานวิป และอีกหลายๆคน ก็บอกว่ายังไม่ได้มีการพูดถึงเรื่องดังกล่าว ข่าวที่ออกมาก็เป็นข่าวที่ออกมาจากแหล่งข่าวซึ่งพิสูจน์ตัวตนไม่ได้ ไม่ทราบว่าผู้ปล่อยข่าวมีเจตนาเพื่อให้เกิดการเปรียบเทียบระหว่างบุคคลสำคัญในพรรคเพื่อให้เกิดประเด็นขึ้นมาหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม เป็นบุคลากรสำคัญของพรรค ด้วยความเป็นผู้ใหญ่และความรู้ประสบการณ์มีความหวังดีต่อพรรคและมีความพร้อมทำหน้าที่สนับสนุนการทำงานของทุกคนในพรรคเพื่อไทยมาตลอด ดังนั้นคณะกรรมการยุทธศาสตร์หรือคณะกรรมการบริหารพรรคเมื่อมีเรื่องใดก็แล้วแต่เราได้ยกหูโทรศัพท์หา ร.ต.อ.เฉลิม เพื่อขอคำปรึกษาได้ตลอด ซึ่งก็ได้รับความเมตตาและได้รับคำปรึกษาที่ดีตลอด
‘เรายังไม่ได้เดินไปถึงยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ยังอยู่ในช่วงการเตรียมการ ผู้ที่ได้รับมอบหมายเรื่องดังกล่าวของพรรคคือ ประธานวิปฝ่ายค้านให้ทำหน้าที่ประสานกับวิป 7พรรคร่วมฝ่ายค้านและดำเนินการกำหนดกรอบแนวทาง สำหรับเนื้อหาที่จะนำไปสู่การอภิปราย ผู้ที่สนับสนุนก็จะเป็นคณะที่ปรึกษาให้ประธานวิป คือคณะกรรมการยุทธศาสตร์ที่ได้ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด’น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าว
วิษณุแจงไม่ส่งระดับหนุมานนั่งกมธ
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการแต่งตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญเพื่อศึกษาปัญหาและแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่าหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติตั้ง กมธ.เสร็จเรียบร้อยแล้ว สามารถดำเนินการได้เลย โดยหลักแล้ว เมื่อตั้ง กมธ.วิสามัญขึ้นมาไม่ว่าชุดไหน ถือเป็นเฉพาะกิจ มีวันสิ้นสุด ทางสภาฯจะต้องบอก ตั้งแต่ตอนตั้งว่ามีกำหนดเวลาเท่าไร เมื่อครบกำหนด ยังสามารถขยายเวลาต่อได้
ส่วนก่อนหน้านี้มีการมองว่ารัฐบาลไม่จริงใจ เพราะไม่ส่งคนระดับบิ๊กๆเข้าเป็นกมธ. นายวิษณุ กล่าวว่า ถ้าส่งคนแบบบิ๊กๆไป คุณก็จะไปมองอีกแบบหนึ่ง ส่งคนพวกนี้ไป อาจจะมองว่าส่งคนไปห้ำหั่นโรมรันพันตู สมมติส่งตน,นายมีชัย ฤชุพันธุ์,นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ อย่างนี้ บิ๊กหรือไม่ แล้วคุณว่าเสียงวิจารณ์จะออกมาอย่างไร เริ่มต้น เขาก็ตีกันไว้ก่อนแล้วว่าไม่เอานายมีชัย นายบวรศักดิ์ นายวิษณุฉะนั้นก็ไม่ส่งระดับหนุมาน แต่ส่งระดับ 18 มงกุฎไป เป็นลูกน้องของหนุมาน ในรามเกียรติ์คำว่า ระดับบิ๊ก คือหนุมาน พาลี สุครีพ ชมพูนท แต่ถ้าระดับอื่น เขาเรียกว่า เป็น 18 มงกุฎ เป็นลิง 18 ตัวสวมมงกุฎ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี