“บิ๊กตู่” ชวน “วิ่งเพื่อแผ่นดิน” เมืองกาญจน์ ชมนิทรรศการแสงสีเสียงสื่อผสม “วีรกรรมสงครามเก้าทัพ” เย้ย “วิ่งไล่ลุง” ไร้สาระ ไม่เกิดประโยชน์ แนะไล่ความคิดอ่านดีกว่า จะได้ความรู้ตั้งกระทู้ซักฟอก
เมื่อเวลา 13.20 น.วันที่ 11 ธันวาคม 2562 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ถึงการจัดงาน Trail Running “วิ่งเพื่อแผ่นดิน” ตามรอยสงครามเก้าทัพ ในอุทยานประวัติศาสตร์ สงคราม 9 ทัพ จ.กาญจนบุรี ภายใต้ชื่อ SIAM TRAIL 2019 ระหว่าง 13-15 ธันวาคม 2562 ว่า เรื่องสำคัญที่อยากให้ทุกคนสนใจ คือ นโยบายเพื่อสร้างเสริมสุขภาพ ซึ่งมีการจัดงานวิ่งเพื่อแผ่นดิน ตามรอยสงครามเก้าทัพ เป็นการสร้างการตื่นตัวให้ออกกำลังกาย กระตุ้นเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว สร้างความรักธรรมชาติ เสริมความเข้าใจ ปลูกฝังอุดมการณ์ความรักชาติ
โดยจะจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ มีกิจกรรมวิ่งทั้งหมด 6 ระยะ คือระยะที่หนึ่ง 52 กม. สำหรับนักวิ่งมืออาชีพ นักวิ่งจากต่างประเทศที่ให้ความสนใจกันมาก ที่ผ่านมา เอกชนจัดวิ่ง 100 กม. ขึ้นเขาลงเขา ประชาชนยังเข้าร่วม ระยะที่สอง 36 กม. สำหรับพวกที่ชอบความท้าทาย เคยวิ่งเทรลมาแล้วหลายสนาม ระยะที่สาม 17 กม. สำหรับผู้ที่วิ่งเทรลมาแล้วและวิ่งบนถนน ระยะที่สี่ 13 กม. สำหรับมือใหม่ อยากทดลองวิ่ง ระยะที่ห้า 5 กม. สำหรับผู้ที่เริ่มต้นออกกำลังกาย และระยะที่หก 3 กม. สำหรับครอบครัว เด็ก ผู้สูงอายุที่สนใจเข้าร่วม
“นายกฯ น่าจะอยู่ในกลุ่มนี้ เพราะ 60 กว่าแล้ว พอวิ่งได้ วิ่งเสร็จก็ทำงานไม่ไหว มันไม่ได้ ต้องฟิตร่างกายมากกว่านี้อีกหน่อย ก็อย่าหาเรื่องรกสมองมาให้ฉันเยอะนัก อะไรก็จะให้นายกฯ หมดทุกอัน” นายกฯ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า นอกจากการวิ่งแล้ว ยังมีกิจกรรมในงาน เพราะจัดถึง 3 วัน ผู้ร่วมงานฟรี จะมีนิทรรศการมัลติมีเดียสมบูรณ์แบบของอุทยานประวัติศาสตร์ สงครามเก้าทัพ วันละ 3 รอบ รอบละ 100 คน ขณะเดียวกัน ยังมีกิจกรรมสร้างฝายกั้นน้ำ ให้จิตอาสาสร้างฝายขึ้นใหม่จำนวน 20 ฝาย ในวันที่ 14 ธันวาคม 2562 และยังมีการจัดตลาดประชารัฐให้ผู้ค้าในท้องถิ่นมาร่วมค้าขายในบรรยากาศย้อนอดีต จำลองบรรยากาศเมืองโบราณ หมู่บ้านวัฒนธรรมไทยทรงดำ ซึ่งเป็นกลุ่มชาวพื้นเมือง ที่อาศัยมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา โดยไฮไลท์คือการแสดงแสง สี เสียง สื่อผสม วีรกรรมศึกสงครามเก้าทัพ โดยผู้ร่วมงานจะได้ชมความอลังการด้วยสเปเชียลเอฟเฟ็กจากทีมงานสร้างผู้เชี่ยวชาญ
นายกฯ กล่าวอีกว่า ที่ตนให้จัดและให้นโยบายไป เพราะได้ติดตามมาจากภาคเอกชนที่มีการจัดกันเยอะ ดังนั้น จึงอยากให้กำหนดมาตรฐานให้ดีในเรื่องความปลอดภัย จะต้องมีการตรวจสภาพร่างกาย เพราะบางทีเป็นห่วงเกรงจะช็อค หรือน็อคไปโดยไม่รู้ตัว และเป็นการส่งเสริมด้านกีฬา ซึ่งเอกชนจัดมาหลายครั้งแล้ว คราวนี้รัฐบาลจัดให้เพื่อที่เราจะได้ไปวิ่งแข่งกับเขาบ้าง อย่างประเทศแถวแอฟริกา ส่วนใหญ่เขาจะชนะเลิศในการวิ่งระยะไกล เขามีโรงเรียนสอนวิ่งมาราธอน ของเราก็ต้องไปศึกษาว่าจะอย่างไร การวิ่งไม่ใช่วิ่งพื้นราบอย่างเดียว ยังมีขึ้นเขา เข้าป่า ลงทุ่งนา ดูธรรมชาติ ถึงอย่างไรต้องไม่ให้เกิดความคับคั่ง ทั้งนี้รัฐบาลได้ให้ฝ่ายความมั่นคงเป็นแกนนำในการจัด โดยมีทหาร และบุคลากรแพทย์ พยาบาล ช่วยดูแล ร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
“ขอให้ทุกคนช่วยกันวิ่งเพื่อแผ่นดิน เรื่องวิ่งไล่ตาม วิ่งตาม วิ่งไล่ลุง ไร้สาระ เยอะ ไม่เกิดประโยชน์อะไร” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
เมื่อถามว่า เป็นห่วงกิจกรรม “วิ่ง ไล่ ลุง” จะก่อให้เกิดความขัดแย้งทางการเมืองขึ้นมาหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า “ไม่ห่วง การวิ่งไล่ผม มันไม่ได้อะไรเท่าไรหรอก
เมื่อถามว่า การวิ่งไล่ลุง ไม่ได้ใช้ชื่อวิ่งไล่นายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การวิ่งไล่ลุงมันคือใคร เขาคงมุ่งหมายอย่างนั้น
“ในส่วนของผม คือ ไล่ความคิดของผมแล้วกันว่า ทำอะไรอยู่ในตอนนี้ คิดอะไรทำอย่างไร เอาตัวอย่างเอาแบบบทเรียนมาจากไหน จากใคร แล้วผมนำมาประยุกต์อย่างไร ไล่ผมแบบนี้ให้ทัน เข้าใจหรือไม่ ผมอ่านหนังสืออะไรมาบ้าง คือตามให้ทันก็แล้วกัน เอาอย่างนี้ก่อน โอเคไหม จะได้เป็นความรู้ในการที่จะมาซักฟอกกัน แล้วมาสอบถามตั้งกระทู้ บางทีมันต้องมีความมุ่งหมาย ไม่ใช่เพื่อจะมุ่งให้ไม่ไว้เนื้อเชื่อใจกันเสียมากเกินไป หลายอย่างมันต้องเดินหน้าประเทศ และวันนี้เศรษฐกิจก็มีปัญหาทุกคนก็ทราบดี สิ่งสำคัญที่สุดคือความมีเสถียรภาพของรัฐบาล อันนี้ผมฝากสื่อทุกคนด้วย ถ้าเราขยายความขัดแย้งไปเรื่อยๆ ความมั่นคง เสถียรภาพหายไปแล้วจะอยู่กันอย่างไร วันหน้ามีรัฐบาลใหม่ก็เป็นเหมือนเดิมอีก กลับที่เก่าทุกครั้ง ผมไม่เคยเห็นหลุดพ้นเรื่องเก่าๆ เลย ช่วยกันดูหน่อยอะไรมันดี อะไรไม่ดีก็ว่ามา ผมช่วยแก้ไขให้” นายกฯ กล่าว
เมื่อถามว่า ฝ่ายความมั่นคงต้องพิจารณากิจกรรมวิ่งไล่ลุงหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เขาต้องมีแผนงานอยู่แล้วในการที่จะบังคับใช้กฎหมาย ก็จบแค่นั้น กฎหมายก็คือกฎหมาย ถ้าเราไม่ยึดถือกฎหมายเลยสักตัว ก็ทำอะไรไม่ได้ เจ้าหน้าที่ก็ลำบากใจ ถึงเวลาเขาก็มีคดีด้วย เขาก็คงไม่มีใครอยากทำ เมื่อถึงเวลานั้น ประเทศชาติจะไร้ขื่อแปรแล้วจะทำอย่างไร เข้าใจหรือไม่ พวกสื่อก็เดือดร้อน ไม่ปลอดภัยขึ้นมาอีกจะทำอย่างไร
เมื่อถามว่า นายกฯ จะไปร่วมกิจกรรมวิ่งเพื่อแผ่นดินหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า อยู่ในช่วงผู้สูงอายุ ขอเวลาวอร์มก่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี