ไม่มีแน่‘แพแตก-เรือล่ม’
‘บิ๊กตู่’การันตี
ลุยทำงานเพื่อชาติ-ปชช.
ร้องเพลงคู่‘จุรินทร์-เสี่ยหนู’
ตอกย้ำพรรคร่วมยังแน่นปึ้ก
4งูเห่าหันซบชทพ.ภท.พปชร.
“บิ๊กตู่”ควง รองนายกฯ แกนนำ กินเลี้ยงปีใหม่กับ นักข่าว ย้ำไม่ต้องการอำนาจ-ผลประโยชน์ หวังเพียงประเทศเดินหน้าไปได้ มุ่งทำงานเพื่อชาติ-ประชาชน ไม่มีเรือล่ม-แพแตก-ตูดขาด โชว์หวานครวญเพลงพร้อม“เสี่ยหนู-จุรินทร์” ขอสื่อนำเสนอข่าวแง่บวก ไม่สร้างความเสียหาย ยันรบ.เป็นเรือแข็งแรง ไม่มีแพแตกแน่นอน ด้าน“ศรีสุวรรณ”ร้องกกต.สอบอนค.ปลุกปั่นถึงยุบพรรค ขณะที่ 4 สส.งูเห่าหันซบ“ชทพ.-ภท.-พปชร.”
เมื่อวันที่ 18ธันวาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พร้อม นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข พร้อมข้าราชการระดับสูงและทีมโฆษกประจำสำนักนายกฯร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับสื่อมวลชนในกิจกรรมพบปะสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาลในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ พ.ศ. 2563 ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีโดยในปี เพื่อพบปะพูดคุยหลังทำงานร่วมกันมาตลอดทั้งปี บรรยากาศเป็นไปด้วยชื่นมื่น
โดยทันทีที่นายกฯเดินทางมาถึงได้กล่าวทักทายด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส พร้อมถามว่า ใครเป็นคนทำรูปให้ตนเอง ซึ่งเป็นหน้านายกฯสวมชุดซานต้าคอส ก่อนร่วมรับประทานอาหารและบอกว่า อาหารวันนี้อร่อย ซึ่งมีการจัดอาหารบุฟเฟต์ อาทิ ก๋วยเตี๋ยวน้ำตก ไก่ย่าง ส้มตำ เป็ดย่างและเครื่องดื่มอื่นๆ ยังมีกิจกรรมจับสลากเพื่อลุ้นรางวัลอีกในช่วงท้ายอีกด้วย
‘บิ๊กตู่’ย้ำทำงานเพื่อชาติ-ประชาชน
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า วันนี้เป็นโอกาสพิเศษอีกครั้ง ประเทศไทยมีความหลากหลายก็เหมือนกับวันนี้ รัฐบาลก็มาหลายรัฐบาล เป็นรัฐบาลแรกที่มีพรรคการเมืองร่วมถึง 18พรรค และประเทศไทยไม่เคยมีเท่านี้มาก่อน ต่างประเทศก็ถามตนเองว่า มี 18พรรคแล้วไม่ยุ่งตายหรือ ซึ่งตนตอบว่าไม่เป็นไร คนไทยด้วยกันทำงานได้ เพราะมีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือ ทำเพื่อประเทศชาติและประชาชนเป็นหลัก
นายกฯ กล่าวต่อว่า โอกาสดีวันคริสต์มาสที่จะมาถึง อยากให้ทุกคนช่วยกันนำเสนอข่าวที่เป็นบวก ทุกคนก็ทราบดีในอดีตที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้น ทำให้ตนต้องมาอยู่ตรงนี้ แต่ไม่ใช่ว่าจะเกิดขึ้นอีก ตนรู้ว่าสื่อทุกคนตั้งใจทำงานตามหน้าที่ของตน ที่ต้องเป็นสื่อที่มีจรรยาบรรณและเป็นสื่อสารที่ดี แต่ต้องมองเหมือนตนมองโดยเอาประเทศชาติเป็นหลัก อะไรก็ตามที่ประเทศชาติจะเสียหาย ก็ให้เบาสักนิดนึง เพราะวันนี้เราอยู่ในขั้นที่เรียกว่าการเตรียมการเศรษฐกิจในปีหน้า ซึ่งสถานการณ์ใดสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้นมากนัก ซึ่งตนกำลังให้ปรับการสื่อสารทำให้ยังไงทุกคนจะรู้ว่า รัฐบาลทำอะไรไปแล้วบ้างบางทีพูดไปแล้วก็จำไม่ได้ ไม่ฟัง ก็จะกำชับให้มีการนำเสนอข่าวให้เป็นเรื่องไป ขณะเดียวกัน ต้องสอนให้คนเข้มแข็งและรู้จักเปลี่ยนแปลงตนเองไปด้วย ถ้าหากเข้มแข็งโดยโดยรอรัฐบาลอย่างเดียว ไม่มีวันเข้มแข็ง ตนฝากไว้ด้วย
ไม่หวังอำนาจ-ผลประโยชน์-ไม่ใจร้าย
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ช่วงเทศกาลปีใหม่เป็นห่วงทุกคน คนก็ไปพักผ่อนไปต่างจังหวัดขอให้มีความสุขเดินทางปลอดภัยใส่หมวกกันน็อคให้ดี สิ่งใดที่ตนทำให้ทุกคนไม่สบายใจหรือพูดจาไม่ไพเราะก็ขออโหสิกรรมให้ด้วย ต้องเคารพสื่อฯอะไรที่ขัดเยอะมากๆบางเรื่องเรื่องขี้หมูราขี้หมาแห้ง ก็อย่าไปขยายให้มาก ขอให้มองข้อเท็จจริงว่าเกิดอะไรขึ้น ยืนยันว่าตนไม่ต้องการอำนาจหรือผลประโยชน์ใดๆ ทั้งสิ้น เพื่อทำให้ประเทศไทยเดินไปข้างหน้าให้ได้ด้วยฝีมือของพวกเรา ตนเป็นคนละเอียดในการทำงานและจุกจิกในการทำงานบ้าง ทำงานมาตลอดชีวิตแบบนี้ ลงในรายละเอียดทั้งหมด จนบางครั้งก็ปวดหัว เมื่อคืนก็ปวดหัวมากต้องกินยานอนหลับ แต่ตนเป็นคนใจเย็น ไม่ใช่คนใจร้ายแบบเดิม แต่ก็ยังดุดันเหมือนเดิม อะไรที่ไม่ถูกต้องตนก็ให้ไม่ได้ แต่อะไรที่ถูกต้องยอมรับกันทั้งหมดตนก็ให้ได้นะ ต้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน
ไม่มีเรือล่ม-แพแตก-เดินหน้าต่อ
“สิ่งสำคัญที่สุดการเกื้อหนุนเศรษฐกิจคือ ความมั่นคงเสถียรภาพทางการเมือง ใครพูดกันไปกันมาตีกันอยู่อย่างนี้ มองว่าไม่เกิดประโยชน์ ข่าวตีไปมาเด้งไปเด้งมาอยู่อย่างนี้ไม่เกิดประโยชน์อะไร ผมก็มองว่าวันนี้เข้ามาแก้ปัญหาอะไรแล้วบ้าง อะไรที่แก้แล้วก็ทำต่อไป อย่ามามองว่าแพจะแตก หรือเรือจะล่ม ยืนยันว่าไม่มีล่ม ผมอยู่ตรงนี้ไม่มีล่ม ต้องอยู่ให้ได้ ขอถือโอกาสนี้เป็นผู้แทนของรัฐบาล ผู้แทนครม.กล่าวคำอวยพรให้สื่อมวลชนมีความสุข ความเจริญ คิดสิ่งใดหวังสิ่งใดที่ถูกต้องสมควรขอให้ประสบความสำเร็จทุกคน ใครที่ทำให้ประเทศชาติประชาชนมากๆ ขอให้กุศลหนุนนำไปสู่ความสุขในวันข้างหน้าและความอวยพรคนไทยทุกคนเราไม่รักกันแล้วใครจะรัก ทุกอย่างอยู่ที่สองมือของเรา อย่างที่ตนบอก2มือ 1หัวใจ ทำอะไรได้ตั้งมากมาย หากไม่รวมพลังก็จะทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง’
รบ.ไม่ตูดขาด-พรรคร่วมยังหนึ่บ
“ยืนยันว่าการทำงานตลอด 5 ปีที่ผ่านมา เราคิดถึงประชาชนเป็นที่ตั้ง ไม่เคยคิดถึงอย่างอื่น แล้วอย่ามองว่าที่เรามีมาตรการในด้านภาษีนั้น เป็นเพราะรัฐบาลตูดขาด แต่รัฐบาลไม่ได้ตูดขาดอย่างที่คิด การทำงานต่างๆในด้านเศรษฐกิจทุกอย่างมีขั้นมีตอน ผมต้องขอบคุณท่านรองสมคิด และรัฐมนตรีทุกคนที่ร่วมมือกันอย่างเต็มที่ ทุกอย่างเราต้องคำนึงถึงเหตุและผล” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวยังยืนยันถึงความเหนียวแน่นในการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลว่า ก็ไม่รู้ทำไมถึงมีคนชอบไปพูด ส่วนคนที่พูดก็เป็นบรรดานักการเมืองด้วยกันเองที่ชอบไปพูด ไม่ใช่สื่อ ยืนยันไม่มีปัญหาอะไร สื่อก็เห็นกันอยู่ แต่การเมืองก็เป็นแบบนี้ เราเองก็ปรับเปลี่ยนไปได้มากพอสมควร และเรายืนยันว่าไม่ได้ปล่อยปละละเลย ในพรรคร่วมรัฐบาลมีอะไรก็พูดจากันตลอด ทุกคนให้เกียรติซึ่งกันและกัน
ทำงานบริสุทธิ์ใจ-ไม่กลัวซักฟอก
เมื่อถามว่า วิตกหรือไม่ที่ฝ่ายค้านเตรียมอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า จะวิตกเรื่องอะไร ตนก็เตรียมการในการชี้แจง เชื่อว่าไม่มีอะไร ทุกอย่างสามารถชี้แจงได้ เพราะบริสุทธิ์ใจทุกอย่างในการทำงาน แต่วันนี้อยากเห็นการเมืองที่เป็นการเมืองสร้างสรรค์ ถ้าวันนี้พวกเราไม่ร่วมมือกันปฎิรูป แล้วใครจะมาปฏิรูป ทุกคนต้องช่วยกันปฏิรูป
ร้องเพลงคู่’เสี่ยหนู-จุรินทร์’ชื่นมื่น
หลังนายกฯกล่าวคำอวยพรเสร็จ นายกฯได้ร้องเพลง”ศรัทธา”ของศิลปิน”หิน-เหล็ก-ไฟ” ตามด้วยเพลง”คนดีไม่มีวันตาย”ของศิลปิน ธีร์ ไชยเดช โดยนายกฯ ได้เรียกนายอนุทิน และนายจุรินทร์ มาได้ร่วมร้องเพลงด้วย จากนั้นนายอนุทินและนายจุรินทร์ ร้องเพลง”รางวัลแด่คนช่างฝัน’ของศิลปิน จรัล มโนเพ็ชร โดยนายอนุทิน กล่าวว่า”ผมสองคนขอมอบเพลงนี้ให้นายกฯ”ช่วงนี้นายกฯหัวเราะ ก่อนกล่าวว่า “หวานซะไม่มี”จากนั้นนายกฯได้ร่วมร้องพร้อมโอบหลัง นายอนทิน และนายจุรินทร์ เมื่อถึงท่อนที่ว่า”เพียงตัวเธอไม่หนีไปเสียก่อน”นายจุรินทร์ และนายอนุทินชี้ไปที่นายกฯ ซึ่งนายกฯ มีอาการเขินเล็กน้อย จากนั้นได้ร่วมร้องเพลง”จับมือกันไว้”ของเบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์ โดยท่อนที่ว่า”จับมือไว้แล้วไปด้วยกัน เหมือนมันไม่มีวันพรากไป”นายกฯ พร้อมด้วยนายจุรินทร์และนายอนุทินได้หันมาจับมือกัน โดยภายหลังจบเพลงนายกฯ กล่าวว่า”ไม่ใช่แค่เราที่จับมือ อยู่ที่พวกเราทุกคนด้วยต้องร่วมมือไปด้วยกันเป้าหมายถึงจะสำเร็จ”
ศรีสุวรรณร้องสอบ’อบค.’จี้ยุบพรรค
ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เข้ายื่นคำร้องต่อ กกต.ขอให้ตรวจสอบพรรคอนาคตใหม่(อนค.) นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคต ซึ่งทั้งหมดเป็นกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ที่ร่วมจัดกิจกรรมชุมนุมที่หน้าหอศิลป์กรุงเทพ เมื่อวันที่ 14ธันวาคม ว่า เข้าข่ายก่อกวน คุกคามความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน ขัดมาตรา45 ของพ.ร.ป.พรรคการเมืองเป็นเหตุให้กกต.เสนอศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาสั่งยุบพรรคได้หรือไม่
โดย นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า การชุมนุมดังกล่าวผิดกฎหมายหลายฉบับ ไม่มีการขออนุญาตใช้พื้นที่ รวมทั้งเข้าข่ายก่อความวุ่นวาย ทำให้เกิดปัญหาการจราจรติดขัดเดือดร้อนกับผู้ใช้ทางเท้าและสกายวอล์ค ซึ่งเข้าข่ายผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา116 อีกทั้งสถานที่จัดกิจกรรมก็อยู่ในรัศมี150 เมตรจากวังสระปทุม ซึ่งพรบ.การชุมนุมสาธารณะห้ามมิให้ดำเนินการ ปัญหาตนเห็นว่า มีการแก้ไขไม่ถูกต้อง ไปเสนอต่อที่ประชุมสภาได้ แต่กลับไปใช้สิทธิในการชุมนุม ไม่ปฏิบัติตามที่กฎหมายกำหนด จึงเห็นว่าเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง หากทำเช่นนี้ต่อไปสส.หรือคนที่ไม่เห็นด้วยก็จะออกมาก่อม็อบทำให้บ้านเมืองเกิดความไม่สงบ กระทบเศรษฐกิจบ้านเมือง
‘วิษณุ’ใช้ความสุจริตสู้ศึกซักฟอก
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีมีชื่อถูกฝ่ายค้านยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า ตนทราบคร่าวๆว่าเขาจะพูดเรื่องอะไร แต่ไม่ทราบรายละเอียด เขาคงค่อยๆ เปิดเผยออกมา ซึ่งต้องเตรียมการชี้แจง แต่ขณะนี้ยังไม่ได้เตรียมการอะไร เพราะยังมีเวลา ผู้สื่อข่าวถามว่า หนักใจประเด็นที่เขาจะอภิปรายหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ถ้าเป็นไปตามที่เขาเปิดเผยออกมา ไม่หนักใจอะไร เพราะเชื่อในหลัก 4ข้อ ทำอะไรก็ตาม ข้อ 1.ต้องใช้ความรู้ 2.ใช้ความสุจริต 3.ใช้ปัญญา และ4.ใช้สติ เขาถึงบอกว่า ความรู้คู่เปรียบด้วย กำลัง กายเฮย สุจริตคือเกราะบัง ศาสตร์พ้อง ปัญญาประดุจดัง อาวุธ กุมสติต่างโล่ห์ป้อง อาจแกล้ว กลางสนาม ก็หวังว่า จะแกล้วกลางสนามตามพระราชนิพนธ์
เมื่อถามว่า การถูกยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกในชีวิตใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ก็น่าจะใช่ แล้วที่ผ่านมาตนก็ไม่ได้คาดการณ์อะไรทั้งนั้น ก็เฉยๆ อยู่ตรงนี้มันธรรมดา อยู่กลางฝนมันก็เปียก อยู่กลางแดดมันก็ร้อน ฤดูหนาวมาก็เป็นหวัดบ้าง บางคนภูมิต้านทานดี อาจไม่เป็นหวัด
ด้าน นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีมีชื่อถูกฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยย้อนถามผู้สื่อข่าวว่า”แล้วเราเห็นอย่างไรล่ะ ผู้สื่อข่าวถามว่า จะต้องเตรียมข้อมูลเพื่อชี้แจงหรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า ไม่ต้องเตรียมอะไร เมื่อถามย้ำว่า ถือเป็นโอกาสดีหรือไม่เพราะจะได้มีโอกาส ชี้แจงในหลายๆ เรื่อง นายสมคิด ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดการถาม นายสมคิด มีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส โดยเลี่ยงตอบเรื่องดังกล่าว ก่อนชี้ชวนผู้สื่อข่าวชมนกชมไม้ ก่อนระบุว่า ที่นี่อากาศดี อบอุ่นดี
‘บิ๊กป้อม-เฉลิมชัย’กั๊กรับงูเห่าอนค.
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ 4สส.พรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ที่ถูกขับออกจากพรรคจะทาบทามเข้ามาสังกัดพรรคพปชร.หรือไม่ ว่า ตนไม่ทราบ ต้องไปถามทั้ง 4สส.เอง เมื่อถามว่า แล้วพรรคพปชร.ได้ไปจีบพวกเขาหรือไม่ พล.อ.ประวิตร บอกว่า ไม่จีบ จะไปจีบเขาเพื่ออะไร
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว. เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธฺปัตย์(ปชป.) กล่าวถึงกรณีที่หลายฝ่ายตีคำพูดที่ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว. เกษตรและสหกรณ์ และเลขาธิการพรรคประขาธิปัตย์ว่า แบะท่าพร้อมรับ4งูเห่าที่ถูกขับจากพรรค อนค.ว่า สื่อก็วิเคราะห์วิจารณ์ไป แต่คำพูดที่ตนที่ให้สัมภาษณ์คือ ต้องวิเคราะห์ให้ดีเพราะตนพูดว่า ถ้ามีอุดมการณ์เดียวกันกับพรรคปชป.ก็ร่วมงานได้ แต่ไม่ใช่ว่าพรรคปชป.จะวิ่งไปคว้า ไปรับทุกคน เพราะต้องเข้าใจอุดมการณ์พรรคปชป.ให้ชัดเจน ถ่องแท้ก่อน ที่สำคัญคือต้องยึดและทำตามมติที่ประชุมพรรคเป็นหลัก เพราะการทำงานการเมืองต้องมีวินัย
‘เสรีพิสุทธิ์’ครวญเพิ่มเสียงให้รัฐบาล
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เตมียเวช สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวถึงกรณีพรรคอนาคตใหม่ มีมติขับ 4สส.ออกจากพรรคว่า ตนเคยเสนอพรรคเพื่อไทย (พท.) ว่า ให้ใจเย็นๆถ้าผลักสส.ออกไปเขาก็จะไปอยู่กับฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้านก็จะเสียไปเต็มๆ เสียงปริ่มน้ำก็จะไม่ปริ่มน้ำ ถ้าขับออกไป 5-6คน ฝ่ายค้านก็แพ้ ซึ่งเราต้องพยายามชั่งใจมองภาพรวมให้ขัดเจนว่า ควรจะทำอย่างไร ถ้าผลักไปอย่างนี้เขาก็ไปอยู่ฝ่ายตรงข้าม เราก็ยิ่งแพ้ใหญ่ ดังนั้นขอให้มองภาพรวมยุทธศาสตร์บ้าง
‘ศุภชัย’ต้อนรับ’ศรีนวล’ซบภท.
นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะนายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกรณีที่น.ส.ศรีนวล บุญลือ สส.เชียงใหม่ พรรค อนค.ต้องการย้ายมาสังกัดพรรค ภท.ว่า น.ส.ศรีนวล ได้แสดงท่าทีชัดเจนว่ามีความสนใจที่จะมาอยู่กับพรรคภท.โดยเคืนวันที่ 17ธันวาคมที่ผ่านมา น.ส.ศรีนวล ได้เข้าพบ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภท.และได้แสดงความจำนงที่จะมาร่วมงานกับพรรคภท.ซึ่ง นายอนุทิน แจ้งว่า พรรคภูภท.ยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องนี้ เพราะอยู่ในขั้นตอนการพ้นสภาพเป็นสส.สังกัดเดิมก่อน แต่ยืนยันว่า น.ส.ศรีนวล เป็นเพื่อนของเราในสภาฯ เมื่อถูกขับออกจากพรรคก็เหมือนกับหนีร้อนมาพึ่งเย็น เราแสดงให้เห็นว่า พรรคภท.มีน้ำใจและพร้อมจะเป็นเพื่อนกับน.ส.ศรีนวล เมื่อมีความชัดเจนทางข้อกฎหมายก็จะประชุมกก.บห.เพื่อพิจารณาเรื่องนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันที่ 18ธันวาคม ที่จะเริ่มเวลา 13.00น.น.ส.ศรีนวล ได้เดินทางมาถึงรัฐสภา ตั้งแต่เวลา 10.00น.โดยมีแกนนำพรรคภท.อาทิ นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย และรองหัวหน้าพรรค นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานีและรองหัวหน้าพรรค นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายทะเบียนพรรค นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ ส.ส.สงขลาและนายฉลอง เทอดวีระพงศ์ ส.ส.พัทลุง เข้าต้อนรับพร้อมกับถ่ายภาพร่วมกันเป็นที่ระลึก ก่อนพาขึ้นไปรับประทานอาหารที่ห้องรับรองของพรรคภท.
4งูเห่าหันซบ’ภท.-ชทพ.-พปชร.’
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับอนาคตทางการเมืองของ พ.ต.ท.ฐนภัทร กิตติวงศาและนายจารึก ศรีอ่อน 2 อดีต สส.จันทบุรี พรรคอนาคตใหม่ ที่ตอนนี้เป็น สส.ไร้สังกัด แต่ยังสามารถเข้าประชุมสภาได้ ล่าสุดมีกระแสข่าว ระบุว่า ทั้ง 2คนเตรียมร่วมงานกับพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ด้านน.ส.ศรีนวล บุญลือ ส.ส.เชียงใหม่ มีแนวโน้มสูงว่าจะไปร่วมงานภูมิใจไทย (ภท.) ขณะที่ น.ส.กวินนาถ ตาคีย์ สส.ชลบุรี อยู่ระหว่างการถูกทาบทาม โดยมีโอกาสจะไปร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี