‘วัชระ’แฉพิรุธสอดไส้คนกันเองเป็นกมธ.วิสามัญศึกษาสร้างสภาใหม่
24 ธันวาคม 2562 นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ตั้งข้อสังเกตเรื่องการเสนอชื่อกรรมาธิการในคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ในสัดส่วนของคณะรัฐมนตรี 12 คนที่เสนอมานั้น เป็นที่น่าสงสัยมาก เพราะมีการตั้งผู้ที่จะถูกสอบสวนหรือลูกน้องผู้ถูกสอบสวนมานั่งเป็นกรรมาธิการด้วย ซึ่งไม่เคยปรากฎมาก่อนในประวัติศาสตร์ของสภาไทย
นายวัชระ ยังยกรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 มาตรา 129 วรรคสองบัญญัติให้คณะกรรมาธิการ มีหน้าที่ในการกระทำกิจการ สอบหาข้อเท็จจริง หรือศึกษาเรื่องใดๆ ตามหน้าที่และอำนาจ แล้วรายงานให้สภาทราบ โดยหลักของการสอบหาข้อเท็จจริง ผู้สอบข้อเท็จจริงกับผู้ถูกสอบข้อเท็จจริง ต้องไม่มีความเกี่ยวข้องกัน หรือ ในภาษากฎหมายเรียกว่า การขัดกันแห่งผลประโยชน์ และที่ร้ายแรงที่สุดที่ไม่ควรเกิดขึ้นในการสอบข้อเท็จจริงคือ ผู้สอบข้อเท็จจริงกับผู้ถูกสอบข้อเท็จจริงเป็นคนๆเดียวกัน เพราะจะทำให้ผลการสอบข้อเท็จจริงจะไม่เกิดความชอบธรรมหรือความจริงแน่นอน
ทั้งนี้ ในการแต่งตั้งกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ มีผู้ที่ควรจะถูกสอบข้อเท็จจริง แต่กลับเป็นผู้ที่ได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมาธิการ เสียเอง คือ 1.นายสุชาติ โรจน์ทองคำ รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และในอีกฐานะหนึ่งคือประธานคณะกรรมการตรวจการจ้าง (ตรวจรับ) งานก่อสร้างอาคารรัฐสภาฯ ซึ่งมีหน้าที่โดยตรง ในการพิจารณาตรวจรับงานการก่อสร้าง และให้ความเห็นชอบในการขยายระยะเวลาการก่อสร้างฯ และงาน ICT งานสาธารณูปโภคฯ ตลอดจนงานอื่นๆ ของการก่อสร้างอาคารรัฐสภาฯ และเป็นกรรมการเร่งรัดการก่อสร้างอาคารรัฐสภาฯ และเป็นกรรมการบริหารการก่อสร้างอาคารรัฐสภาฯ ซึ่งมีหน้าที่ในการอำนวยการก่อสร้างในภาครวม และต้องรับผิดชอบโดยตรง หากปรากฏว่าการขยายเวลาก่อสร้างเป็นไปโดยมิชอบ
2.นายพินิจ พูลเกิด ที่ปรึกษาบริหารโครงการก่อสร้างฯ CAMA เป็นผู้ที่ได้รับค่าตอบแทนจากสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในการให้คำปรึกษา ประสานงาน รวมทั้งให้ความเห็นในการพิจารณาการขยายระยะเวลาการก่อสร้างฯ รวมถึงงาน ICT งานสาธารณูปโภค และงานอื่นๆ ของการก่อสร้างอาคารรัฐสภาฯ และเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรงหากปรากฏว่า การขยายระยะเวลาการก่อสร้างเป็นไปโดยมิชอบ
3.นายพงศ์กิตต์ อรุณภักดีสกุล และนางปัณณิตา สะท้านไตรภพ ข้าราชการระดับสูงของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ซึ่งเป็นผู้แทนของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา โดยมีนายนัท ผาสุข เลขาธิการวุฒิสภา เป็นผู้บังคับบัญชาของนายพงศ์กิตต์และนางปัณณิตา ซึ่งสามารถให้คุณให้โทษแก่บุคคลทั้งสองได้โดยตรง ทั้งนี้ สถานะของนายนัท ผาสุข ย่อมส่งผลโดยตรงกับความเห็นของบุคคลทั้งสองอย่างชัดเจน โดยนายนัท เป็นกรรมการและเลขานุการของคณะกรรมการเร่งรัดการก่อสร้างฯ และเป็นกรรมการบริหารการก่อสร้างฯ ซึ่งได้รับทราบและไม่คัดค้านผลของการขยายระยะเวลาการก่อสร้าง และเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรง หากข้อเท็จจริงปรากฏว่า การขยายระยะเวลาการก่อสร้างเป็นไปโดยมิชอบ ดังนั้น ความเห็นของบุคคลทั้งสองในฐานะกรรมาธิการตรวจสอบข้อเท็จจริงย่อมไม่เกิดความเป็นธรรมอย่างแน่นอน
“ด้วยเหตุผลโดยประจักษ์ดังกล่าวนี้ ย่อมเป็นที่แน่นอนว่า ความเห็นของบุคคลทั้ง 4 ในฐานะกรรมาธิการตรวจสอบข้อเท็จจริงในการก่อสร้างอาคารรัฐสภา จึงมีลักษณะเป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์อย่างชัดเจน และมีลักษณะอันไม่เป็นธรรม เนื่องจาก ผู้สอบข้อเท็จจริงกับผู้ถูกสอบข้อเท็จจริง เป็นบุคคลคนเดียวกันนั่นเอง” นายวัชระ กล่าว
นายวัชระ กล่าวตั้งข้อสังเกตอีกว่า นอกจากนี้ยังมีกรณีที่นายพินิจ พูลเกิด ที่ปรึกษาโครงการก่อสร้างในกลุ่มบริษัทCAMA เพิ่งชี้แจงเห็นด้วยกับการขยายเวลาก่อสร้างอาคารรัฐสภาครั้งที่ 4 จำนวน 382 วันคู่กับนายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 11 ธันวาคมที่ผ่านมาแล้วคณะรัฐมนตรีกลับมาเสนอชื่อให้เป็นคณะกรรมาธิการได้อย่างไร และยังน่าสงสัยด้วยว่านายสรศักดิ์เซ็นอนุมัติการขยายเวลาย้อนหลังว่าขยายเวลาวันที่ 4 ธันวาคมตอนค่ำๆ แต่นายสรศักดิ์มาแถลงกับสื่อมวลชนในวันที่ 10 ธันวาคม ขนาดนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ยังให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนในวันที่ 9 ธันวาคมว่ายังไม่ได้รับรายงานเรื่องการขยายสัญญาครั้งที่ 4
นายวัชระ ตั้งข้อสังเกตว่า หากนายสรศักดิ์เซ็นขยายสัญญาครั้งที่ 4 ในวันที่ 4 ธันวาคมตอนค่ำจริง เหตุใดจึงไม่รีบรายงานให้ประธานสภาฯทราบและทำไมไม่เปิดเผยต่อสื่อมวลชนในวันนั้นกลับมาแถลงย้อนหลังในวันที่ 10 ธันวาคมหลังจากที่มีการคัดค้านการขยายเวลาก่อสร้างจากนายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีตประธาน ปปช.สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดปกติอย่างยิ่ง และรีบอนุมัติขยายสัญญาก่อนหมดอายุในวันที่ 15 ธันวาคมถึง 11 วันโดยสำนักกฎหมาย เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรไม่ได้ให้ความเห็นชอบตามข้อเสนอของฝ่ายพัสดุ สำนักการคลังแต่ประการใด ช่างแปลกประหลาดจริงๆ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี