โฆษกรัฐบาลเปิดผลงานเด่นรัฐบาล 5 เดือนแรก เน้นดูแลประชาชนให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
30 ธันวาคม 2562 นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลงานเด่นของรัฐบาลในช่วง 5 เดือนแรก เพื่อให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ครอบคลุม 3 ด้านสำคัญ คือ คมนาคม รายได้เกษตรกร และผู้มีรายได้น้อย ดังนี้
1.การขยายโครงสร้างคมนาคม
ดูแลประชาชนในการเดินทางและลดมลพิษ ด้วยการขยายโครงสร้างพื้นฐานคมนาคม ซึ่งนับเป็นผลงานต่อเนื่องมาจากรัฐบาลที่แล้ว เฉพาะในกรุงเทพมหานคร ได้มีการขยายโครงข่ายรถไฟฟ้าครอบคลุมทั่ว กทม. อาทิเช่น สายสีน้ำเงิน (หัวลำโพง-บางแค, บางซื่อ-ท่าพระ) 14 กม. , สายสีเขียว (หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต) 19 กม. , สายสีส้ม (ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี) 22 กม. , สายสีแดงอ่อน (บางซื่อ-ตลิ่งชัน) 15 กม. , สายสีแดง (บางซื่อ-รังสิต) 26.3 กม. , สายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) 34.5 กม. และสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) 30 กม.
เมื่อรถไฟฟ้าเปิดใช้บริการครบทั้งหมด จะช่วยลดระยะเวลาในการเดินทางของคนกรุง ลดปริมาณการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล นำไปสู่การลดมลพิษทางอากาศในที่สุด นอกจากนี้ รัฐบาลได้เปิดทำการอาคารพักผู้โดยสารหลังที่ 2 ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา ระยอง พัทยา ซึ่งสามารถรองรับผู้โดยสารจากทั้งในและต่างประเทศได้ 3 -5 ล้านคนต่อปี โครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา จะยกระดับส่งเสริมการเชื่อมโยงการเดินทางสู่พื้นที่ EEC เพื่อส่งเสริมทั้งภาคการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมในพื้นที่ ทำให้เกิดการจ้างงานและการกระจายความเจริญสู่เศรษฐกิจฐานรากในพื้นที่โดยรอบ EEC
2.รายได้เกษตรกร
ดูแลพี่น้องเกษตรกร ทั้งโครงการประกันรายได้สำหรับพืชเศรษฐกิจหลักหลายชนิด ซึ่งได้เริ่มจ่ายเงินชดเชยส่วนต่างตรงเข้าบัญชีเกษตรกรไปแล้ว และยังมีมาตรการคู่ขนานเพื่อรักษาเสถียรภาพราคาของสินค้าเกษตร เช่น การอุดหนุนปัจจัยการผลิตสำหรับชาวนาผู้ปลูกข้าว ช่วยเหลือค่าปลูก 500 บาทต่อไร่ ไม่เกิน 20 ไร่ต่อครัวเรือน ช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยว 500 บาทต่อไร่ ไม่เกิน 20 ไร่ต่อครัวเรือน รวมตลอดถึงมาตรการสินเชื่อชะลอการขาย สินเชื่อรวบรวมผลผลิต นอกจากนี้ นโยบายรักษาเสถียรภาพราคาปาล์มน้ำมัน ด้วยการกำหนดให้น้ำมันไบโอดีเซลบี 10 เป็นน้ำมันดีเซลหมุนเร็วพื้นฐาน ได้ส่งผลให้ราคาปาล์มสูงขึ้น เกิดประโยชน์โดยตรงกับเกษตรกร โดยไม่ต้องใช้งบประมาณของรัฐบาลเข้าไปพยุงราคา
3.มาตรการดูแลผู้มีรายได้น้อย
ดูแลผู้มีรายได้น้อย ด้วยมาตรการลดค่าครองชีพผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เช่น ขยายระยะเวลามาตรการช่วยเหลือค่าไฟฟ้าไม่เกินครัวเรือนละ 50 หน่วย และมาตรการช่วยเหลือค่าน้ำไม่เกินครัวเรือนละ 100 บาท ไปจนถึง ก.ย. 63 และยังคงมาตรช่วยเหลือค่าใช้จ่ายด้านอื่นๆ เช่น ค่าเดินทางเดือนละไม่เกิน 500 บาท ค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคเดือนละ 200/300 บาท คืนภาษีมูลค่าเพิ่ม 5% เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรสวัสดิการ อีก 1% โอนเข้ากองทุนการออมแห่งชาติในนามเจ้าของบัตรสวัสดิการ เป็นต้น
รัฐบาลยังคงให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้มีรายได้น้อย ผ่านการพัฒนาทักษะอาชีพ การหางานให้ทำ และการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ โดยมาตรการดูแลผู้มีรายได้น้อย กำลังอยู่ในขั้นตอนการทบทวนปรับปรุงตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีให้สามารถช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยให้สามารถหลุดพ้นจากความยากจนได้อย่างยั่งยืน
“รัฐบาลขับเคลื่อนนโยบายที่ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง เพื่อยกระดับมาตรฐานชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน พร้อมกับพัฒนาประเทศไปข้างหน้า ซึ่งยังมีผลงานที่ปรากฏผลเป็นรูปธรรม และที่กำลังดำเนินงานอีกมาก ซึ่งรัฐบาลจะได้บอกเล่าสู่ประชาชนให้ได้รับรู้และติดตามอย่างต่อเนื่องต่อไปด้วย” นางนฤมล กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี