เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2563 นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการศึกษาการปฏิรูป ทบทวน และแก้ไขปรับปรุงกฎหมาย ในคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฏร เปิดเผยว่า ในวันจันทร์ที่ 6 มกราคม 2563 นี้ ตนได้นำ พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ.2562 ซึ่งผ่านเป็นกฎหมายในสมัยสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เข้าพิจารณาในคณะอนุกรรมาธิการฯ ที่มีตนเป็นประธาน เพราะมีข้อร้องเรียนมากมาย ทั้งจากประชาชนผู้เสียภาษี ทั้งจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในฐานะหน่วยปฏิบัติในการจัดเก็บภาษี ในเบื้องต้น ได้พบข้อบกพร่องหลายประการ อาทิ
1.ความไม่พร้อมในการออกกฎหมายลำดับรอง ซึ่งเลยระยะเวลามาถึง 5 เดือนเศษ (10 กรกฏาคม 2562) ทำให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นซึ่งเป็นหน่วยปฏิบัติในการจัดเก็บภาษีไม่ทราบรายละเอียด หลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติที่ชัดเจน ส่งผลให้กระทรวงมหาดไทยต้องประกาศขยายเวลาดำเนินการตามกฎหมาย จากเดิมมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 ออกไปก่อน ตามหนังสือสั่งการ ด่วนที่สุด ที่ มท 0808.3/ว 7475 ลงวันที่ 11 ธันวาคม 2562
2.สาระของ พ.ร.บ.มีปัญหาในการตีความ ตั้งแต่คำนิยาม "สิ่งปลูกสร้าง" "ผู้เสียภาษี" และประเด็นอื่นๆ อีกมากมาย โดยเฉพาะหลักคิดที่ว่า กฎหมายฉบับนี้จะสร้างความเป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำระหว่างคนรวยกับคนจน หรือจะยิ่งเพิ่มความเหลื่อมล้ำมากขึ้น หากกฎหมายฉบับนี้มีผลใช้บังคับ
3.การมีกฎหมายการเก็บภาษีใหม่ ทั้งภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 ท่ามกลางปัญหาเศรษฐกิจที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่อาจแก้ปัญหานี้ได้มาเป็นเวลากว่า 5 ปีแล้ว ทั้งมีแนวโน้มว่าปัญหาเศรษฐกิจจะยิ่งจมลึกไปเรื่อยๆ ภายใต้การบริหารของ พล.อ.ประยุทธ์ เห็นได้จาก คนจนเพิ่มขึ้นๆ จนเกือบจะถึง 20 ล้านคน หนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้น คนตกงานเพิ่มขึ้น บริษัท ห้างร้านปิดกิจการเพิ่มขึ้น หนี้ NPL ขยายตัว ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น ในขณะที่เกิดปัญหาสังคมมากมาย โดยเฉพาะปัญหายาเสพติดที่แพร่ระบาดไปทั่วประเทศ
ดังนั้น การออกกฎหมายเก็บภาษีประชาชนท่ามกลางความเดือดร้อนในปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จึงไม่สมควรอย่างยิ่ง เพราะจะยิ่งสร้างความระส่ำระสายในหมู่ประชาชนที่เดือดร้อนในปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้องของตนเองอยู่อย่างหนักอยู่แล้ว ยังจะมาซ้ำเติมด้วยการเก็บภาษีอีก นับว่าก่อให้เกิดความเสียหายทางด้านจิตวิทยาในหมู่ประชาชนอย่างยิ่ง
คณะอนุกรรมาธิการฯ จะพิจารณากฎหมายฉบับนี้อย่างรอบคอบ รอบด้าน ทั้งการรับฟังความเห็นจากรัฐบาลโดยกระทรวงการคลังผู้เสนอออกกฎหมาย ทั้งจากประชาชนผู้เสียภาษี และการรับฟังความเห็นจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นซึ่งเป็นหน่วยปฏิบัติ แล้วนำผลที่ได้จากการศึกษารายงานขอความเห็นชอบจากคณะกรรมาธิการสามัญฯ เพื่อรายงานต่อสภาผู้แทนราษฎร เพื่อมีข้อสังเกตไปยังรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปปฏิบัติตามข้อสังเกตต่อไป
ทั้งนี้ หากพบว่ากฎหมายฉบับนี้มีข้อบกพร่อง โดยเฉพาะเกิดความไม่เป็นธรรมกับประชาชนโดยส่วนรวม และกระทบกับรายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอย่างมีนัยสำคัญ ก็อาจถึงขั้นเสนอให้ยกเลิกกฎหมายฉบับนี้เพื่อนำไปปรับปรุงใหม่ทั้งฉบับต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี