มท.1สั่งเข้มกม.
เอาจริงจับควันดำ-เผา
ฝุ่นในกทม.ลาม38เขต
เกินมาตรฐานระดับส้ม
“บิ๊กป๊อก”สั่ง กทม.-ปริมณฑลดำเนินมาตรการป้องกันแก้ฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน เน้นตรวจจับควันดำ-เผาที่โล่ง–โรงงานปล่อยมลพิษ รณรงค์ลดใช้รถส่วนตัว ด้านกรมควบคุมมลพิษรายงานสถานการณ์ PM 2.5 ยังพุ่งต่อเนื่องลาม 38 เขต วัดได้สูงสุด 75มคก. คุณภาพอากาศระดับส้ม เตือนปชช.ระวังสุขภาพ ลดทำกิจกรรมกลางแจ้งนาน แนะสวมหน้ากากอนามัย ด้านนายกฯทวิตเตือนฝุ่นพิษกลับมา อย่าลืมสวมหน้ากาก
เมื่อวันที่ 8 มกราคม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยกล่าวถึงสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอนหรือ PM 2.5 เพิ่มขึ้นต่อเนื่องตลอดสัปดาห์ ทั้งในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลว่า ได้กำชับให้กรุงเทพมหานคร (กทม.) และจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก กวดขันดำเนินมาตรการต่างๆเพื่อป้องกันแก้ปัญหาฝุ่นละออง โดยเฉพาะมาตรการลดมลพิษจากต้นกำเนิด ได้แก่ มาตรการด้านการขนส่งและจราจร เช่น การตรวจจับรถควันดำ การรณรงค์ให้ประชาชนลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล มาตรการควบคุมการเผาในที่โล่งแจ้งและพื้นที่เกษตรกรรมอย่างเคร่งครัด เข้มงวด การตรวจสอบควบคุมการปล่อยมลพิษจากโรงงานอุตสาหกรรม และการควบคุมฝุ่นละอองจากการก่อสร้างและระบบสาธารณูปโภคให้ถูกต้องการหลักวิชาการ
นอกจากนี้ ให้มีมาตรการติดตาม เฝ้าระวัง ประเมิน วิเคราะห์สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก และปรับแผนเผชิญเหตุให้ทันต่อสถานการณ์ พร้อมทั้งสร้างการรับรู้กับประชาชนให้ทราบสถานการณ์ที่ถูกต้อง
“สำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก ขอให้ประชาชนดูแลสุขภาพร่างกาย เช่น หลีกเลี่ยงกิจกรรมและการออกกำลังกายในที่โล่งเป็นเวลานาน ใช้ผ้าเช็ดหน้าหรือสวมหน้ากากอนามัย ป้องกันฝุ่นขนาดเล็กเข้าสู่ร่างกาย”รมว.มหาดไทยกล่าว
สำหรับกลุ่มเสี่ยงได้แก่ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ ผู้ป่วย ควรหมั่นสังเกตความผิดปกติของร่างกาย และหากผิดปกติรีบพบแพทย์ทันที ส่วนในเขตกรุงเทพมหานคร ประชาชนสามารถรับหน้ากากอนามัย คนละ 1 ชิ้น ได้ที่ศูนย์บริการสาธารณสุข 68 แห่ง และสำนักงานเขต 50 เขต หากพบว่าพื้นใดค่าฝุ่น PM.2.5 เกิน 75 มคก./ลบ.ม. 3 วันติดต่อกัน สำนักอนามัยจะออกหน่วยเคลื่อนที่ ให้บริการตรวจสุขภาพในพื้นที่ที่พบฝุ่นละองมีค่าเกินมาตรฐาน
ด้านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ทวีตข้อความบนทวิตเตอร์ส่วนตัว “@prayutofficial” ระบุ ช่วงนี้ ฝุ่น PM 25 กลับมาและมีผลกระทบต่อสุขภาพ ตรวจสอบสภาพอากาศ อย่าลืมสวมหน้ากากอนามัย หลีกเลี่ยงพื้นที่โล่งแจ้ง ขอความร่วมมือผู้ใช้รถตรวจสภาพรถ เจ้าหน้าต้องเร่งกวดขันจับกุมรถที่ปล่อยควันดำ ตรวจปริมาณควันจากโรงงานให้มากขึ้น ร่วมมือกันคนละนิด เพื่อช่วยอากาศพิษให้ลดลง
วันเดียวกัน เว็บไซต์ กรมควบคุมมลพิษ รายงานผลตรวจสอบคุณภาพอากาศในกรุงเทพฯและปริมณฑลทั้ง 50 สถานี เมื่อเวลา 12.00 น. พบว่า ปริมาณฝุ่นตรวจวัดค่าได้ 40–75 มคก./ลบ.ม. เกินค่ามาตรฐานที่ 50 มคก./ลบ.ม. โดยปริมาณฝุ่นละอองมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเช้า โดยพบพื้นที่มีปริมาณฝุ่นเกินค่ามาตรฐานและเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ 38 พื้นที่ เป็นระดับสีส้ม ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวควรลดเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้งและติดตามสถานการณ์ฝุ่นอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ คพ.ยังรายงานสถานการณ์และแจ้งข้อมูลให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควบคุม กำกับ ดูแล ภารกิจตามมาตรการ “ภายใต้แผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ” อย่างเร่งด่วน เพื่อบรรเทาสถานการณ์ฝุ่นละอองให้กลับสู่ปกติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผลการติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศในกทม.และปริมณฑล โดยกรมควบคุมมลพิษร่วมกับกรุงเทพมหานคร 49 สถานี เวลา 07.00 น. ตรวจวัดค่าฝุ่นได้ 39-71 มคก./ลบ.ม. โดยปริมาณฝุ่นมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของวันที่ 7 มกราคม พบพื้นที่มีปริมาณฝุ่นเกินค่ามาตรฐานและเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ 38 พื้นที่ เป็นระดับสีส้ม ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวควรลดเวลาทำกิจกรรมกลางแจ้งและติดตามสถานการณ์ฝุ่นละอองใกล้ชิด
นายชวินทร์ ศิรินาค ผู้อำนวยการสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร (กทม.)เปิดเผยว่า สำนักอนามัยเตรียมรณรงค์สร้างความตระหนักให้ประชาชนป้องกันตนเองจากฝุ่น PM 2.5 รวมทั้งเตรียมพร้อมด้านการแพทย์และสาธารณสุข เพื่อให้บริการประชาชนที่ได้รับผลกระทบทางสุขภาพจากปัญหาฝุ่น PM 2.5 โดยขอความร่วมมือศูนย์บริการสาธารณสุขทั้ง 68 แห่งปฎิบัติการตามแนวทางดังนี้ ในสถานการณ์ปกติ ค่าฝุ่น PM 2.5 ไม่เกินมาตรฐานที่ 50 มคก./ลบ.ม.ให้ความรู้ป้องกันดูแลตนเอง และเฝ้าระวังพิเศษในกลุ่มผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดบ้านติดเตียง เด็ก ผู้ป่วยระบบทางเดินหายใจ โรคหัวใจหลอดเลือด และหญิงตั้งครรภ์
นายชวินทร์กล่าวต่อว่า ในสถานการณ์ที่ฝุ่น PM 2.5 เกินมาตรฐานมากกว่า 50 มคก./ลบ.ม. ให้ความรู้และเฝ้าระวังแก่ประชาชนกลุ่มเสี่ยงโดยบุคลากรของศูนย์บริการสาธารณสุขและอาสาสมัครสาธารณสุข เมื่อค่าฝุ่น PM 2.5 อยู่ในระดับ 50-75 มคก./ลบ.ม. ออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ จัดกิจกรรมรณรงค์ประชาสัมพันธ์ ติดตามเยี่ยมผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง เมื่อค่าฝุ่น PM 2.5 อยู่ในระดับ 76 - 100 มคก./ลบ.ม. ติดต่อกัน 3 วัน
ด้านนายชาตรี วัฒนเขจร ผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม กทม. เปิดเผยว่า สำนักสิ่งแวดล้อมบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ แก้ปัญหามลพิษด้านฝุ่น รวมทั้งเตรียมความพร้อมตามแผนปฏิบัติการ เพื่อรับมือฝุ่น PM 2.5 ช่วงวิกฤตต่อเนื่อง ทั้งบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด เพื่อควบคุมแหล่งกำเนิดมลพิษ ได้แก่ เข้มงวดการตรวจจับ ห้ามใช้รถยนต์ควันดำทุกประเภท และประสานสถานีตำรวจในพื้นที่อำนวยความสะดวกให้การจราจรคล่องตัว ทั้งนี้ ได้กำชับสำนักงานเขตพื้นที่เพิ่มความเข้มงวดในการควบคุม กำกับดูแลและแก้ปัญหาแหล่งกำเนิดฝุ่น PM 2.5 ในกรุงเทพฯ โดยเฉพาะแหล่งกำเนิดฝุ่นละอองจากยานพาหนะ เช่น รณรงค์ไม่ขับ ช่วยดับเครื่อง และบำรุงรักษาเครื่องยนต์รถราชการในสังกัดไม่ให้ปล่อยมลพิษเกินมาตรฐาน และห้ามเผาขยะและเผาในที่โล่งทุกชนิดตามประกาศ กทม.เรื่องกำหนดพื้นที่ควบคุมเหตุรำคาญ ตลอดจนการคุมเข้มปัญหาฝุ่นจากการก่อสร้างรถไฟฟ้าและการก่อสร้างอาคาร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี