‘ช่อ’ปลื้มวิ่งไล่ลุงมีทุกวัย สาดน้ำมันซัดรบ.‘สุมไฟ’ปลุกม็อบไม่ใช่อนค.
13 มกราคม 2563 น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า เวลาที่มีการพูดว่างานเดินเชียร์ลุงมีแต่คนที่มีอายุไป งานวิ่งไล่ลุงมีแต่คนรุ่นใหม่นั้น เป็นการทำให้เกิดการแตกแยกทางช่วงวัย เราเห็นอยู่แล้ว อย่างในงานวิ่งไล่ลุงคนที่ไปก็รู้ว่าตอนที่วิ่งเป็นคนหนุ่มสาวเยอะ เพราะจะให้คนอายุ 50-60 ปีไปวิ่งก็คงมีไม่เยอะที่วิ่งไหว แต่ถ้าดูคนที่ไปร่วมงานที่มาพบปะคุยกัน จะเห็นว่ามีทุกช่วงวัย อย่างที่คนมาต่อแถวถ่ายรูป ตนก็คิดว่าคล้ายกับตอนสกายวอล์ค เพราะมีคนทุกช่วงอายุ มีทั้งรุ่นคุณป้า คุณลุง คนทำงาน ไปยันเด็กมัธยมต้น ถ้าให้ประเมินคนที่มาร่วมกัน ซึ่งอาจจะไม่ถูกต้องนัก คิดว่ากลุ่มที่เป็นวัยรุ่นมีสัก 60% ที่เหลือเป็นคนที่มีอายุหน่อย อาจจะ 30-40% ซึ่งไม่ได้ต่างกันเยอะ เรียกว่าเป็นภาพของสังคมที่มีคนทุกวัยมาร่วม
เมื่อถามว่าการเกิดขึ้นมาของฝ่ายที่เห็นต่างกันทั้ง 2 ขั้ว มีกิจกรรมพร้อมๆกัน ในอนาคตอาจนำไปสู่การปะทะกันของมวลชน น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า อย่างน้อยเมื่อวันที่ 12 มกราคม ที่ผ่านมา เราก็ได้เห็นเรื่องที่ดีอย่างหนึ่ง คือ ไม่ได้มีฝ่ายใดพยายามจัดงานให้ชนในสถานที่เดียวกัน แม้จะชนวัน แต่คนทั้ง 2 กลุ่มไม่มีทางมาปะทะกันแน่นอน ภาพที่เกิดขึ้นอาจจะดูเป็นการวัดจำนวนมวลชนกันก็จริง อย่างน้อยก็เป็นสัญญาณที่ดีว่ามันคงจะหมดสมัยแล้วที่จะนำมวลชนต่อมวลชนมาปะทะกัน เพราะทุกคนคงไม่อยากให้เกิดความรุนแรงขึ้น
“ความเห็นที่แตกต่างเป็นเรื่องปกติ และเป็นเรื่องที่ควรจะเป็น แต่สิ่งที่เราอยากเห็นคืออย่าเอาคนมาปะทะกันให้เกิดความรุนแรง และอย่าไปใช้วาจาดูถูก ดูหมิ่น ยุยง กันไปมา ทำให้ทั้ง 2 ฝ่ายเกลียดกันมากขึ้น เพราะคนที่ความเห็นต่างกันมีแนวโน้มที่จะเกลียดกันง่ายอยู่แล้ว อีกอย่างคือรัฐบาลเอง ควรจะอำนวยความสะดวกการแสดงออกของประชาชนให้เท่าเทียมกันทั้ง 2 ฝ่าย พูดตรงๆคือ เราเห็นว่าลุ้นอยู่ทุกวันว่างานวิ่งไล่ลุงจะได้จัดไหม แต่งานเดินเชียร์ลุงราบรื่นมาก เราไม่ได้บอกว่าคุณควรจะห้ามจัดงานเดินเชียร์ลุง เราแค่มีปัญหาว่าทำไมต้องพยามยามห้ามจัดงานวิ่งไล่ลุง ทั้งที่มีการจัดงานกันอย่างเรียบร้อย ขยะก็ไม่มีด้วยซ้ำ รถอาจจะติดขัดบ้างเพราะคนเยอะ แต่เช้าวันอาทิตย์คงไม่มีใครเดือดร้อนกับการจราจรมากนัก เราหวังว่ารัฐเองจะปล่อยให้การแสดงออกแบบนี้เป็นไปอย่างเสรี” น.ส.พรรณิการ์ ระบุ
เมื่อถามว่า หลายคนตั้งข้อสังเกตว่า ในปี 2563 พรรคอนาคตใหม่พยายามจะเร่งปฏิกิริยาให้เกิดการชุมนุม น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า “คนที่เร่งปฏิกิริยาน่าจะเป็นรัฐบาลมากกว่า เพราะต่อให้ใครจะกระตุ้นประชาชนขนาดไหน มันกระตุ้นไม่ขึ้นหรอก หากไม่มีปัจจัยที่ทำให้เขารู้สึกว่าตนเองเดือดร้อนจริงๆ คุณดูสิ น้ำประปาก็เค็ม ฝุ่น pm 2.5ก็เยอะ คนตกงานเป็นว่าเล่น มีคนฆ่าตัวตายรายวัน ซึ่งเราไม่เห็นข่าวแบบนี้มาตั้งแต่ปี 2540 ซึ่งตอนนี้กลับมาอีก ปัญหาเหล่านี้รุมล้อมและทำให้คนรู้สึกว่าเราต้องการรัฐบาลที่มีประสิทธิภาพกว่านี้ เพราะฉะนั้นคนที่จะเร่งปฏิกิริยากระแสของประชาชนคือรัฐบาลเอง”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี