"ไพบูลย์"เมินกระแสโซเชียลต่อต้าน"ปารีณา-สิระ" ชี้ทั้งคู่มาจากการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ ติง"เสรีพิศุทธ์"ใช้กมธ.ป.ป.ช.ไปเล่นการเมือง ไม่ฟังเสียงข้างมาก ต้องปลดจากประธานกมธ.
เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2563 ที่รัฐสภา นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงเหตุความวุ่นวายในห้องประชุมกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร เมื่อวานนี้ ว่า พฤติกรรมของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ในฐานะประธานกรรมาธิการ มุ่งเล่นงาน น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ และนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ อย่างเอาเป็นเอาตาย ในขณะที่เรื่องของตัวประธานเองถูกร้องเรียน โดยเฉพาะเรื่องของการทุจริตต่างๆ กลับไม่ยอมบรรจุเรื่องดังกล่าวเป็นวาระการประชุม พยายามป่วนและใช้อำนาจของประธาน กมธ.ซึ่งจะเห็นได้จากการที่ยุติการดำเนินการ กรณี น.ส.พรรณิการ์ วานิช ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ หลังถูกนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของกรรมการ ป.ป.ช.แต่ในกรณีของ น.ส.ปารีณา กลับใช้กรรมาธิการตรวจสอบต่อทั้งที่เรื่องเข้าสู่ ป.ป.ช.แล้วเช่นกัน ถือว่าเป็นการนำกรรมาธิการไปเล่นการเมือง จึงทำให้เกิดความวุ่นวาย
นายไพบูลย์ กล่าวต่อว่า น.ส.ปารีณา และนายสิระ ถูกตั้งข้อสังเกตว่า เมื่อได้รับมอบหมายภารกิจกลับไม่ปฏิบัติตาม ส่วนตัวยืนยันว่า น.ส.ปารีณา และนายสิระ ก็รับงานมาทำ พร้อมถามกลับถึงการที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ นำเรื่องที่ไม่สมควรมาพิจารณาในที่ประชุมกรรมาธิการหลายเรื่อง โดยไม่มีการบริหารจัดการใดๆ ทั้งสิ้น เป็นการไม่คำนึงถึงกรรมาธิการคนอื่นๆ
เมื่อถามว่า หลังจากนี้จะทำงานด้วยกันในกรรมาธิการได้หรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ไม่ฟังมติเสียงข้างมาก จึงไม่มีทางเลือกอย่างอื่น ที่จะเสนอปลด พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ออกจากตำแหน่งประธานกรรมาธิการ ในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร
เมื่อถามถึงกรณีกระแสต่อต้านในโลกโซเชียลหลังราชกิจจาประกาศให้ น.ส.ปารีณา และนายสิระ ดำรงตำแหน่งกรรมาธิการ ป.ป.ช. นายไพบูลย์ มองว่า กรรมาธิการเมื่อเป็นแล้วก็จะถูกประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา ยอมรับว่าทั้งสองคนมีทั้งผู้ที่ชื่นชอบและไม่ชื่นชอบ เช่นเดียวกับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ที่มีทั้งผู้ที่ชื่นชอบและผู้ไม่ชอบ เมื่อมีกระแสเช่นนี้ ก็จะนำไปเรียกร้องต่อ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ได้เหมือนกันหรือไม่ ขณะนี้ก็มีเสียงต่อว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ มากมาย แต่ทำไมไม่ไปดำเนินการ ดังนั้น จะต้องแยกให้ออก ว่าการประกาศบนราชกิจจานุเบกษานั้นเป็นไปตามกระบวนการ
"ความเห็นบนโลกโซเชียลก็ยินดีรับฟัง ย้ำว่าทุกคนนั้นก็ผ่านกระบวนการเลือกตั้งมา ไม่ได้เลือกมาจากโลกโซเชียล ซึ่งเป็นฝ่ายใดก็ไม่รู้ ถ้าฟังโซเชียล ก็ไม่ต้องมีการเลือกตั้งก็ได้ ใช้โซเชียลเลยดีหรือไม่ เพราะสังคมที่อยู่นั้นมีรัฐธรรมนูญ มีประชาชนที่เลือกโดยตรง ถ้าประชาชนที่ไม่ได้ใช้โซเชียลมีเดียจะไม่มีสิทธิ์มีเสียงเลยหรือ ดังนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นจำเป็นจะต้องมีการแก้ไขโดยใช้ข้อบังคับและกฎหมาย แต่ส่วนใดที่อยู่นอกเหนือจากอำนาจของสภาผู้แทนราษฎร ก็จะสามารถใช้กระบวนการยุติธรรม ได้ทุกฝ่าย ใครจะฟ้องร้องกันก็ได้ แต่อย่านำกรรมาธิการมาเป็นเครื่องมือทางการเมือง เพราะจะทำให้สภาผู้แทนราษฎรเสียชื่อเสียง" นายไพบูลย์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี