‘บิ๊กตู่’ขอแรงเด็กช่วยเชียร์
รับมือซักฟอก
ลั่นประเทศไทยเป็นหนึ่งเดียว
ปกครองด้วยประชาธิปไตย
‘ธนาธร-อนค.’รอลุ้นระทึก
ศาลรธน.วินัจฉัยยุบพรรค
“พรรณิการ์”เผยนัดสส.รวมตัวที่พรรค ไม่ไปฟังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ปมล้มล้างการปกครอง21 มกราคม หากถูกยุบจริง ทำลายความหวังปชช.นับล้าน ด้าน“รองผบช.น.”ระดมตำรวจ 1 กองร้อยรับมือรอบศาล การข่าวไม่พบจะเกิดเหตุรุนแรง ศาลตรึงแผงเหล็กจัดระเบียบมวลชน ถ่ายสดผ่านวงจรปิดให้ผู้สนใจรับฟัง“พท.”ขู่ซักฟอกเอาตาย ไม่ใช่แค่พิธีกรรม! ตั้งศูนย์มอนิเตอร์คำถามสำคัญ พร้อมเปิดเผยหลังซักฟอกเสร็จขู่จะไม่จบในสภาฯปชช.นอกสภาเป็นผู้พิพากษาว่า รบ.จะไปต่อได้หรือไม่ ชง’ปปช.’เอาผิด’บิ๊กตู่’3ข้อหา
เมื่อวันที่ 20มกราคม น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) เปิดเผยว่า วันที่ 21มกราคม ศาลรัฐธรรมนูญจะอ่านคำวินิจฉัยคดีล้มล้างการปกครอง หรือคดีอิลลูมินาติ แกนนำพรรค และ ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ทั้งหมดจะมาร่วมฟังคำตัดสินพร้อมกันที่ที่ทำการพรรคอนาคตใหม่ โดยไม่เดินทางไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ หากสมาชิกพรรคหรือผู้สนับสนุนพรรคอนาคตใหม่ต้องการมาร่วมฟังคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญไปพร้อมๆ กัน ก็สามารถเดินทางมาแสดงพลังได้ที่สำนักงานใหญ่พรรค อาคารไทยซัมมิท ทาวเวอร์ ชั้น5 การยุบพรรคการเมืองในประเทศที่เป็นประชาธิปไตยไม่ใช่สิ่งปกติและไม่ควรเกิดขึ้นจนกลายเป็นเรื่องปกติเพียงเพราะพรรคทำไม่ถูกใจคนบางกลุ่มเท่านั้น เพราะพรรคการเมืองเป็นตัวแทนเสียงของประชาชนนับล้านๆคน การทำลายพรรคจึงเท่ากับการทำลายเจตจำนงทางการเมืองของประชาชน และผลักให้คนจำนวนมากรู้สึกไม่พอใจในระบบการเมืองที่เป็นอยู่
‘ธนาธร’แถลงหลังศาลวินิจฉัย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 21มกราคม ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญจะอ่านคำวินิจฉัยคดียุบพรรคอนาคตใหม่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ พร้อมด้วยแกนนำและสส.พรรคอนค.นัดหมายรวมตัวกันที่พรรคอนาคตใหม่ ถนนเพชรบุรี เพื่อลุ้นผลคำวินิจฉัยศาล โดยไม่ได้มีการนัดหมายที่ศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งจะมีเพียงทนายความในคดีดังกล่าวของพรรคเดินทางไปรับฟังคำตัดสินคดีที่ศาลรัฐธรรมนูญเท่านั้น ทั้งนี้เมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยอย่างใดอย่างหนึ่งออกมาแล้ว นายธนาธร จะแถลงถึงผลคำวินิจฉัยต่อไป
ตร.จัด1กองร้อยคุมเข้มศาลรธน.
ด้าน พล.ต.ต.สมประสงค์ เย็นท้วม รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.)รับผิดชอบดูงานด้านความมั่นคง เปิดเผยการนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกองควบคุมฝูงชนเข้าดูแลความปลอดภัย กรณีวันที่ 21 มกราคม ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยกรณียุบพรรค อนค.หรือไม่ ว่า กองบังคับการตำรวจนครบาล 2( บก.น.2) จัดวางกำลังตำรวจจำนวน 1กองร้อย หรือประมาณ 150 คน คอยรักษาความปลอดภัยและดูแลความสงบเรียบร้อยบริเวณโดยรอบศาล โดยตนเป็นผู้ควบคุมในภาพรวมและพล.ต.ต.พัฒนา เพศยนาวิน ผบก.น.2 เป็นดูแลความเรียบร้อยในพื้นที่ ส่วนพื้นที่ด้านในศาล จะมีเจ้าหน้าที่ของศาลเป็นผู้ดูแลทั้งหมด สำหรับการข่าวยังไม่มีสิ่งบอกเหตุความรุนแรงใดๆ และเชื่อว่าไม่มีอะไรที่น่ากังวล
กั้นแผงเหล็ก-ถ่ายสดผ่านวงจรปิด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญเริ่มนำรั้วเหล็กมาตั้งเพื่อกันพื้นที่บริเวณลานกิจกรรมอาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ (ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ อาคารเอ) ป้องกันไม่ให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามาในบริเวณศาลรัฐธรรมนูญ นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้นำจอภาพขนาดใหญ่และลำโพงมาติดตั้งโถงด้านหน้าศาล เพื่อถ่ายทอดการอ่านคำวินิจ ฉัยผ่านระบบวงจรปิดมาให้สื่อมวลชนและประชาชนที่สนใจ เข้ารับฟังการอ่านคำวินิจฉัยคดีดังกล่าว ทั้งนี้ สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญได้แจ้งมายังสื่อมวลชนถึงแนวทางปฏิบัติในวันดังกล่าว โดยทางศาลจะทำการถ่ายทอดวงจรปิดลงงมาบริเวณโถงชั้น 2 และห้องสื่อมวลชน หากมีการสัมภาษณ์ขอความร่วมมือสัมภาษณ์ผู้เกี่ยวข้องในคดีดังกล่าวนอกเขตที่ทำการศาลเท่านั้น
‘พท.’ขู่ซักฟอกรัฐบาลเอาถึงตาย
ที่พรรคเพื่อไทย นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) แถลงข่าวประจำสัปดาห์ ว่าการอภิปรายครั้งนี้เราเอาตาย ไม่ใช่เพียงพิธีกรรม โดยตั้งศูนย์ติดตามการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลขึ้นมา จะทำหน้าที่มอร์นิเตอร์คำถามสำคัญๆว่า ถามอะไรบ้าง เราจะเปิดเผยให้ประชาชนทราบหลังอภิปรายเสร็จว่า รัฐมนตรีคนใดตอบไม่ตรง ตอบไม่ผ่าน เราจะเปิดแผลให้ประชาชนทราบและงานนี้จะไม่จบในสภาฯ จะไม่ใช่แค่พิธีกรรมจะให้ประชาชนที่อยู่นอกสภาเป็นผู้พิพากษาว่า รัฐบาลจะไปต่อได้หรือไม่ งานนี้ยืนยันว่าไม่มีมวยล้มต้มคนดูอย่างแน่นอน”นายอนุสรณ์ กล่าว
ฝ่ายค้านชงปปช.เชือดบิ๊กตู่3ข้อหา
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ (ปช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (ฝ่ายค้านเพื่อประชาชน) แถลงว่า หัวหน้า 7พรรคฝ่ายค้านได้รวบรวมรายชื่อ สส.ในพรรคเพื่อยื่นดำเนินการ 3เรื่อง คือ 1.เอาผิด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กรณีการแถลงนโยบายไม่ชี้แจงแหล่งที่มาของรายได้ที่จะนำมาใช้จ่ายในการดำเนินนโยบาย ซึ่งเป็นการกระทำที่ขัดต่อกฎหมาย 2.การถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญของ พล.อ.ประยุทธ์ โดยเห็นว่าเป็นการทำหน้าที่ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา5 ซึ่งความเห็นของศาลรัฐธรรมนูญที่ให้ไว้เป็นเพียงความเห็นประกอบ ไม่ใช่คำตัดสิน จึงมีมติให้ยื่นเรื่องดังกล่าวให้มีการตัดสินต่อไปและ3.การสรรหาสว.ที่มีกรรมการสรรหา 10คน ซึ่งบางคนเป็นสมาชิก คสช.เห็นว่าเป็นการสรรหาที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ มีผลประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อมเพื่อให้มีการสืบทอดอำนาจ โดยทั้ง 3เรื่อง จะยื่นร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ให้ดำเนินการสอบสวนตามกฎหมายต่อไป ยืนยันว่าเรื่องที่ยื่นร้องไม่เกี่ยวกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่เป็นเรื่องที่ 7พรรคได้พูดคุยและมีมติไว้นานแล้ว เพียงแต่ที่ผ่านมาเพื่อให้เกิดความรอบคอบ จึงให้ฝ่ายกฎหมายไปศึกษาไว้ก่อน
‘นิพิฎฐ์’ปูด’ภท.’เสียบบัตรแทนกัน
ที่รัฐสภา นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตสส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) แถลงว่า จากการตรวจสอบเกี่ยวกับการพิจารณาร่างพรบ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ของสภาผู้แทนราษฎรในวาระที่2และวาระที่3 พบว่า อาจมีสส.กดบัตรแทนกันในที่ประชุมสภา โดยตรวจสอบพบว่า นายฉลอง เทอดวีระพงศ์ สส.พัทลุง พรรคภูมิใจไทย(ภท.) ขึ้นเครื่องบินไปสนามบินหาดใหญ่เวลา 20.50 น.ของวันที่ 10มกราคม แต่มีการลงมติเห็นชอบมาตรา31 เวลา 20.55น.ของวันเดียวกันและร่วมลงมติตลอดจนถึงมาตรา39 และปิดประชุมในเวลา 01.08น.ก่อนจะร่วมลงมติต่อเนื่องในวันที่ 11มกราคม ตั้งแต่มาตรา 40 เวลา 11.10น.ไปจนถึงลงมติวาระที่3เห็นชอบร่างทั้งฉบับเวลา 17.32น.และเห็นชอบกับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการฯ เวลา 17.38น.ขณะที่มีหลักฐานปรากฏใน Facebook ของ ทต.อ่างทอง จ.พัทลุง ว่า วันที่ 11 มกราคม 2563 นายฉลอง ลงพื้นที่เป็นประธานเปิดงานวันเด็กทั้งวัน ทั้งเทศบาลตำบลอ่างทอง อำเภอศรีนครินทร์ และองค์การบริหารส่วนตำบลชะมวง อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง และขึ้นเครื่องจากสนามบินนครศรีธรรมราช มาสนามบินดอนเมืองอีกครั้งในวันที่ 13มกราคม เวลา 11.55น.
หวั่นพรบ.งบลงมติไปแล้วจะโมฆะ
ผู้สื่อข่าวถามว่า การออกมาพูดเรื่องนี้จะไม่ส่งผลต่อความสัมพันธ์ในการร่วมรัฐบาลหรือ นายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า ตนตรวจสอบแล้วไม่พูดเลยก็ไม่ได้ ส่วนสส.คนอื่นเท่าที่รู้ก็มี แต่ไม่ตรวจสอบเพิ่มเติม และหากสภาจะเริ่มต้นตรวจสอบและเรียกตนไปให้ข้อมูลก็ยินดีให้ความร่วมมือ ยืนยันว่าเอกสารทั้งหมดที่นำมาแถลงเป็นเอกสารเปิดเผยทั้งหมด สื่อมวลชนสามารถตรวจสอบได้ เมื่อถามว่า ในฐานะเป็นนักกฎหมายมองว่าหากร่างพรบ.งบประมาณเป็นโมฆะจะส่งผลอย่างไร นายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า ความเห็นของตนอาจไม่ตรงกับนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ก็ได้ ต้องไปถามท่าน แต่ส่วนตัวเห็นว่า ต้องทำให้ไม่เป็นโมฆะ โดยต้องกลับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่เคยวินิจฉัยว่า กระบวนการร่างกฎหมายเงินกู้ 2ล้านล้านบาทเป็นโมฆะ แต่เรื่องงบต้องทำให้ข้อเท็จจริงต่างจากเรื่องเงินกู้ ตนคิดอย่างนี้ แต่ไม่อยากจะพูด เพราะอาจจะขัดแย้งกับนักกฎหมายคนอื่น คือต้องทำให้ชอบ ถ้าทำอย่างนี้ก็ต้องมีปัญหา
‘ฉลอง’บริสุทธิ์ใจพร้อมถูกสอบ
นายฉลอง เทอดวีระพงศ์ สส.พัทลุง พรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์โดยยอมรับว่า ไม่ได้อยู่ในห้องประชุมสภาบางช่วงของการลงมติร่างพรบ.งบประมาณฯปี63 ระหว่างวันที่ 10-11มกราคม2563 จริง เนื่องจากต้องเตรียมรับศพญาติหลังประสบอุบัติเหตุ 5ศพ ที่ อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งต้องประสานนำศพกลับบ้าน จึงต้องไปจัดเรื่องศพและวันที่ 11มกราคม ได้เดินทางไปร่วมงานวันเด็กที่ ต.อ่างทอง อ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง พร้อมชี้แจงข้อเท็จจริงว่า ไม่ได้เอาบัตรลงคะแนนกลับมาจากสภา โดยปกติจะวางไว้หรือเสียบค้างไว้ในห้องประชุมและตอนเย็นจะมีเจ้าหน้าที่มาเก็บ หลายครั้งที่ตนได้ไปเอาบัตรคืนจากเจ้าหน้าที่ ส่วนใครจะเสียบบัตรแทนหรือไม่ ตนไม่ทราบ ยืนยันว่าไม่ได้ฝากใคร หรือให้ใครเสียบบัตรกดลงคะแนนแทน ทั้งนี้ ตนพร้อมรับการตรวจสอบตามที่ นายนิพิฏฐ์ ออกมาเปิดเผย เพราะข้อเท็จจริงเป็นเช่นนั้นและยืนยันว่า บริสุทธ์ใจ อย่างไรก็ตามจะปรึกษาหารือกับผู้ใหญ่ในพรรคเสียก่อน
‘บิ๊กตู่’ลงเยี่ยมประชาชนภาคใต้
วันเดียวกัน เวลา 10.20น.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม (กห.) กล่าวตอนหนึ่งระหว่างลงพื้นที่ชายแดนภาคใต้เพื่อพบปะประชาชนที่อาคารรื่นอรุณ เทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ว่า ขอให้ประชาชนเปิดโทรศัพท์ในเรื่องที่เป็นสาระ ตนไม่ได้ต่อว่าใคร เดี๋ยวจะหาว่าตนไปว่าใครอีก ตนไม่เคยดูถูกใคร บางทีตนก็พูดเพื่อให้เข้าใจบ้าง แต่กลับโดนหาว่า ตนไปดูถูกคน ตนจะไปดูถูกประชาชนได้อย่างไร เพราะประชาชนเป็นเจ้านายตนทั้งนั้น รัฐบาลไม่ได้ทอดทิ้ง ซึ่งสส.ในพื้นที่ที่ประชาชนเลือกมา ต้องทำงานให้คุ้มกับที่ประชาชนเลือกและประชาชนก็อย่าทอดทิ้งเขา จากนั้นนายกฯได้เดินทักทายนักเรียน นักศึกษา และประชาชนอย่างเป็นกันเอง พร้อมถ่ายรูปเซลฟี่และทำสัญลักษณ์มินิฮาร์ท ก่อนเยี่ยมชมนิทรรศการภายในงาน โดยชาวบ้านให้กำลังใจขอให้นายกฯ สุขภาพแข็งแรง ขณะที่นายกฯกล่าวตอบว่า ’รักทุกคน All my heart’
ขอแรงเด็กเชียร์รับมือศึกซักฟอก
จากนั้น นายกฯเดินทางไปโรงเรียนนราธิวาส ต.โคกเคียน อ.เมืองนราธิวาส โดย พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวหยอกล้อเด็กนักเรียนที่เข้าร่วมโครงการ“รินน้ำใจสู่พี่น้องชาวใต้”ว่า ที่ตนนำมาวันนี้เพราะนำความสุขมาให้กับทุกคน เอาความรักจากครม.มาให้ทุกคน วันนี้บ้านเมืองเปลี่ยนแปลงไปแล้ว ต้องลดความขัดแย้งให้ได้มากที่สุด เพราะถ้าเรายังมีความขัดแย้ง มันทำอะไรไม่ได้ บริหารประเทศไม่ได้ งบประมาณก็ออกไม่ได้
นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า ตอนนี้เขาจะอภิปรายไม่ไว้วางใจ จากนั้น นายกฯ กล่าวถามเด็กนักเรียนว่า“เขาจะเปิดการอภิปรายไม่ไว้วางใจมีใครอยากให้กำลังลุงไหม” ขณะที่เด็กนักเรียนไม่มีใครยกมือ ก่อนนายกฯกล่าวย้ำว่า เขาจะเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ไล่นายกฯ เด็กทั้งหมดภายในห้องประชุมร้อง“อ้อ”แล้วนายกฯก็ยิ้มก่อนถามว่า“จะช่วยเขาหรือจะช่วยเรา วันนี้ไม่ได้พูดเรื่องการเมือง แต่เป็นเรื่องความรักส่วนตัว ระหว่างเรา คนชอบพอกัน พูดให้เห็นหัวใจของลุง ลุงมีสี่ห้องหัวใจ แต่ข้างในมีชั้นเยอะ”ทำให้เด็กนักเรียนต่างพากันหัวเราะ
ไทยเป็น1เดียว-ปกครองด้วยปชต.
ต่อมา นายกฯได้พูดย้ำเรื่องความสวย ขอให้ทุกคนสวยอย่างเป็นธรรมชาติ คนจะงามงามน้ำใจใช่ใบหน้า คนจะสวยสวยจรรยา ใช่ตาหวาน คนจะแก่แก่ความรู้ ใช่อยู่นาน คนจะสวยรวยสุนทาน ใช่บ้านโต ซึ่งที่โบราณกาลเขียนแบบนี้เขาก็มีหลักการ ก่อนถามว่า รู้จักพันธ์ท้ายนรสิงห์หรือไม่ ก่อนจะเล่าเรื่องพันธ์ท้ายนรสิงห์ ซึ่งถือเป็นตัวอย่างของผู้รักษากติกาบ้านเมือง ยอมตายเพื่อรักษากฎระเบียบ ก่อนนายกฯ พูดกับเด็กนักเรียนว่า อย่าลืมสัญญาที่บอกว่าจะดูแลกัน ตนก็จะดูแลประชาชนและขอให้ทุกคนช่วยกันรักประเทศชาติของเรา พร้อมกับอย่าลืมว่า เรามาจากไหน เราคือประเทศไทยที่มีความเป็นหนึ่งเดียว จะยอมให้ใครมาแบ่งแยกประเทศของเราไม่ได้ ซึ่งรัฐธรรมนูญมาตรา 1เขียนไว้แล้ว ว่าประเทศของเราปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์อันเป็นประมุขและขอให้ทุกคนเอาสาระสำคัญของแผนยุทธศาสตร์ชาติมาดู
ขอให้ช่วยกันดูแลจนท.-ข้าราชการ
จากนั้นนายกฯ ถามว่าจะร้องเพลงอะไรให้ฟัง ซึ่งเด็กนักเรียนทั้งหมดร้องเพลง “คืนความสุข”ซึ่งนายกฯพูดแซวว่า “ตอนนี้ระวังหน่อยนะ เพราะมีคนบอกว่า คสช.อยู่นานพอสมควรแล้ว” จากนั้นนายกฯ ก็ร้องเพลงคืนความสุขและร้องท่อนหนึ่งของเพลงศรัทธาว่า“ใจ...สู้หรือเปล่า”พร้อมกล่าวทิ้งท้ายว่า ขอให้ทุกคนช่วยตนดูแล เจ้าหน้าที่และข้าราชการ เพราะเขาทำงานหนักในการดูแลประชาชน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี