งบฯ63ส่อวุ่น! เลขาสภาผู้แทนฯฟันธงปม"ฉลอง"ส่งผลให้ร่างกฎหมายไม่ชอบ ต้องให้ศาลรธน.วินิจฉัยอีก
เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2563 ที่รัฐสภา นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เปิดภายผลการตรวจสอบคณะกรรมการกฎหมาย กรณี นายฉลอง เทอดวีระพงศ์ ส.ส.พัทลุง พรรคภูมิใจไทย (ภท.) มีชื่อลงมติร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 แต่นายฉลอง กลับไม่ได้อยู่ในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ว่า ช่วงเช้าที่ผ่านได้ประชุมร่วมกับทีมกฎหมาย เพื่อพิจารณาข้อกล่าวหาตามที่ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ออกมาให้สัมภาษณ์ โดยพบว่า 1.ข้อกล่าวหาดังกล่าวเป็นความจริง โดยได้เชิญเจ้าหน้าที่จากสำนักชวเลขมาตรวจสอบ ซึ่งพบว่าในมาตรา 31 - 55 และข้อสังเกตมีชื่อนายฉลองร่วมลงมติจริง
2.ได้เรียกเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวกับการเก็บรักษาบัตรลงคะแนนในห้องประชุมมาให้ข้อมูล ปรากฏว่าบัตรนายฉลองเบิกไปใช้จริงและลงมติในวันที่ 8 - 11 มกราคม โดยไม่ได้มีการส่งบัตรคืนเจ้าหน้าที่ และพบอีกครั้งว่าบัตรเสียบค้างไว้ที่เครื่องลงคะแนนในวันที่ 11 มกราคม และ 3.ได้เรียกฝ่ายเทคนิคมาช่วยตรวจสอบช่องเสียบบัตรลงคะแนน แต่ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าเสียบบัตรในตำแหน่งใด อีกทั้งกล้องของฝ่ายเทคนิคไม่ได้จับภาพบุคคล
นายสรศักดิ์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ คณะกรรมการจึงมีความเห็นว่าข้อกล่าวหาเป็นจริง ทำให้ผลการลงมติตั้งแต่มาตรา 31 - 55 และข้อสังเกต ไม่ชอบด้วยกฏหมาย ดังนั้น กระบวนการที่จะทำให้ถูกต้อง คือ ต้องทำตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 139 ที่ให้สมาชิกของรัฐสภา ไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 หรือ 75 คน เสนอประธานสภาฯ ให้ส่งเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยว่าเป็นร่างกฎหมายที่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
"ข้อสังเกตของคณะกรรมการเห็นว่ากรณีนี้ไม่ทำให้ร่างกฏหมายต้องตกไป เพราะเป็นเพียงแค่เสียงเดียว แต่คณะกรรมการก็เคารพการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ทุกอย่างถูกต้องตามกระบวนการ ทั้งนี้ ได้แจ้งผลการตรวจสอบดังกล่าวให้นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ทราบแล้ว เรื่องนี้ต้องนำไปหารือในที่ประชุมสภาฯ ในวันพรุ่งนี้ เพื่อดูว่าที่ประชุมสภาจะเห็นเป็นอย่างไร อาจเห็นไม่ตรงกับทีมกฏหมายก็ได้" เลขาธิการสภาฯ กล่าว
เมื่อถามว่า มีการเสียบบัตรและกดลงมติแทนนายฉลองจริงใช่หรือไม่ นายสรศักดิ์ กล่าวว่า ถูกต้อง แต่พิสูจน์ไม่ได้ว่าเป็นบุคคลใดที่นำบัตรไปเสียบไว้ในช่องไหน เพราะที่นั่งมีเป็นจำนวนมาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่กดบัตรออกเสียงแทนบุคคลอื่น ได้เหมือนกับกรณีของ นายนริศร ทองธิราช สมัยเป็น ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย ใช้บัตรแสดงตนและออกเสียงแทน ส.ส.คนอื่น ในการลงมติาง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ พ.ศ. .... ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าพฤติกรรมดังกล่าวทำให้ร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวเป็นโมฆะ เนื่องจากในห้องประชุมจันทรานั้นไม่มีกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่บันทึกภาพภายในห้องประชุมไว้ ขณะที่กล้องซึ่งจับภาพของ ส.ส.ที่อภิปรายและบรรยากาศภายในห้องประชุมนั้น เป็นกล้องถ่ายทอดสดของสถานีโทรทัศน์รัฐสภา ที่นำมาติดตั้งและเคลื่อนย้ายออก เฉพาะช่วงมีการประชุมเท่านั้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี