เอาละซิ!‘ฝ่ายค้าน’ยื่น‘ชวน’ส่ง ‘ศาลรธน.’วินิจฉัยเสียบบัตร ไม่ชอบขัดรธน.

เอาละซิ!‘ฝ่ายค้าน’ยื่น‘ชวน’ส่ง ‘ศาลรธน.’วินิจฉัยเสียบบัตร ไม่ชอบขัดรธน.

วันพุธ ที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2563, 18.03 น.

เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2563 เวลา 16.00 น. ที่รัฐสภา นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านได้ร่วมกันลงชื่อทั้งหมด 84 คน เพื่อยื่นประธานสภาส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามมาตรา 148 (1) ว่าร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี 63 ตราขึ้นชอบด้วยบทบัญญัติรัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่งเรามีข้อเท็จจริงอ้างอิงชัดเจนว่า นายฉลอง เทอดวีระพงศ์ ส.ส.พัทลุง พรรคภูมิใจไทย (ภท.) มีชื่อลงคะแนนเห็นชอบร่างพ.ร.บ.งบฯ ตั้งแต่มาตรา 31 เป็นต้นไป จนถึงวาระที่ 3 แต่ขณะที่มีการลงคะแนนปรากฏหลักฐานชัดเจนว่า เจ้าตัวไม่ได้อยู่ในที่ประชุม ทำให้เห็นว่ากระบวนการตรากฎหมายน่าจะไม่ชอบด้วยบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ

ทั้งนี้ สิ่งที่ร้องหลักฐานมีความชัดเจน เพราะการทำหน้าที่ของ ส.ส.ตามมาตรา 114 จะต้องไม่อยู่ภายใต้อาณัติมอบหมาย หรือครอบงำใดๆ ฉะนั้น การที่มีคนเอาบัตรส.ส.ท่านหนึ่งไปลงคะแนน ไม่เป็นไปตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญในส่วนนี้ ที่สำคัญคือ รัฐธรรมนูญมาตรา 115 เราปฏิญาณตนว่าจะปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ ทำหน้าที่อย่างซื่อสัตย์สุจริต ประกอบกับรัฐธรรมนูญมาตรา 120 ที่บัญญัติเกี่ยวกับการออกเสียงลงคะแนนว่า 1 เสียง ต้องเป็น 1 สิทธิ์ จะลงคะแนนแทนกันไม่ได้ เหล่านี้เป็นมูลเหตุให้นำมาประกอบคำร้องดังกล่าว


เมื่อถามว่า จะแตกต่างกับที่ทางรัฐบาลยื่นให้พิจารณาในมาตรา 120 อย่างไร นพ.ชลน่าน กล่าวว่า แตกต่างจากคำร้องของฝ่ายรัฐบาลที่ยื่นไป โดยรัฐบาลยื่นในส่วนของการออกเสียงแทนกันในการลงคะแนน แต่ของเราเห็นว่า กระบวนการตราไม่ชอบด้วยบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ซึ่งรัฐธรรมนูญให้สิทธิเราเสนอก่อนที่ประธานสภาจะนำพ.ร.บ.ที่ผ่านการพิจารณาของสองสภาแล้วให้นายกฯนำขึ้นทูลเกล้าฯ

เมื่อถามว่า การยื่นรัฐธรรมนูญของฝ่ายค้านนี้จะเป็นเหตุให้ร่างพ.ร.บ.งบฯ เป็นโมฆะ หรือตกไปหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามคำร้องของเราว่ากระบวนการตราไม่ชอบด้วยบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ถ้าบทบัญญัตินั้นเป็นสาระสำคัญเป็นอันให้กฎหมายฉบับนั้นตกไป ซึ่งต้องรอผลการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตาม กระบวนการตราพ.ร.บ.เป็นเรื่องสำคัญ

เมื่อถามว่า หากพ.ร.บ.งบฯเป็นโมฆะ สิ่งที่ต้องรับผิดชอบต่อไปควรเป็นไปในแนวทางใด นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ในสวนที่รัฐบาลต้องรับผิดชอบคือ เราจะเทียบเคียงกับกรณีที่ฝ่ายนิติบัญญัติไม่เห็นชอบ  ซึ่งกรณีนั้นเป็นความรับผิดชอบของรัฐบาลที่ไม่สามารถใช้เสียงข้างมากของรัฐบาลได้ แปลว่า บริหารประเทศไม่ได้ ต้องลาออก หรือยุบสภา หากเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับรัฐบาลโดยตรง แต่เป็นความรับผิดชอบของสภาในเรื่องของกระบวน ฉะนั้น การที่จะคาดหวังให้รัฐบาลลาออกคงเป็นไปไม่ได้ คนที่รับผิดชอบคือ ฝ่ายนิติบัญญัติ ที่ต้องหามูลเหตุ และหาข้อเท็จจริงให้ได้

ด้านน.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม. พรรคพท. กล่าวว่า ส่วนกรณีคลิป ส.ส.ลงคะแนนแทนกันนั้น จะขอตรวจสอบรายละเอียดให้ชัดเจนก่อน ซึ่งเบื้องต้นเคยมีกรณีเทียบเคียงลักษณะพฤติกรรมแบบนี้มาแล้ว  และมีการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ขณะเดียวกัน สามารถเอาผิดทางอาญากับ ส.ส.ที่เป็นผู้เสียบบัตรลงคะแนนแทนได้ ในฐานจงใจกระทำผิดต่อหน้าที่ ฝ่าฝืนบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญและกฎหมาย

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top