เตรียมยื่นให้ปปช.สอบสวน
เอาผิดพ้นสส.
ปมเสียบบัตรแทนพรบ.งบฯ
หมอระวีจี้ให้รับผิดชอบ
สมศักดิ์ชี้กระทบทั่วหน้า
ภาครัฐเบิกจ่ายเงินไม่ได้
พท.ขู่อย่าหาทางออกที่ผิด
“สมศักดิ์ เทพสุทิน” ห่วงร่างพ.ร.บ.งบฯปี’63 สะดุด ทำสะเทือนทุกหย่อมหญ้า ในขณะที่ “ศรีสุวรรณ”เตรียมยื่น ป.ป.ช.สอบเอาผิดปม สส.เสียบบัตรแทนกันงบฯ’63 ชี้หากผิดต้องพ้นจากสส.ฝ่ายค้านติงรัฐอย่าหาทางออกที่ผิดๆ ด้านประธานสภาฯชวน หลีกภัย ชี้ความไม่สมานฉันท์ในบ้านเมือง ต้นเหตุจากฝ่ายการเมือง แนะข้าราชการต้องไม่เกรงใจ แล้วยอมทำผิด จนตัวต้องติดคุก เตือน ส.ส.ต้องดูแลประชาชน แต่ต้องไม่ทิ้งหน้าที่หลัก
นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นวิทยากรบรรยายหลักสูตรนักบริหารนักการเมืองและเศรษฐกิจรุ่นใหม่ รับใช้สังคม(นศส.)รุ่นที่ 1 มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ที่โรงแรมเดอะ สุโกศล กรุงเทพ เมื่อวันที่ 25 มกราคม โดยกล่าวช่วงหนึ่งว่าหลักสูตรนี้มีประโยชน์และสำคัญต่อประเทศไทย สนองต่อยุทธศาสตร์ของรัฐบาล ลดความเลื่อมล้ำของสังคม สร้างความสมานฉันท์ เรียนรู้ เข้าใจปัญหา มีวินัย
“สถานการณ์บ้านเมืองขณะนี้ คนรุ่นเก่า ต้องคอยส่งเสริมความรู้ให้คนรุ่นใหม่ ที่จะเป็นอนาคตของประเทศ สังคมไทย นอกจากหลักธรรมาภิบาล 6 ข้อแล้ว ต้องเพิ่มอีกหนึ่งคือความไม่เกรงใจเข้าไปด้วย เพราะในปัจจุบันทุกอย่าง กลายเป็นวัฒนธรรมที่ข้าราชการหรือนักการเมืองน้ำดีต้องติดคุกเพราะเกรงใจผู้ใหญ่ จนต้องทำผิดบางประการ”
บทบาทของนักการเมืองตามรัฐธรรมนูญ แบ่งเป็นฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายตุลาการ คือ ศาลที่เป็นองค์กรทำให้บ้านเมืองมีความหวัง เมื่อผิดก็ต้องว่าไปตามผิด ถูกก็ต้องว่าถูก ถ้าศาลไม่แน่วแน่บนความถูกต้อง บ้านเมือง จะว้าเหว่ ขณะที่ฝ่ายนิติบัญญัติสามารถตรวจสอบรัฐบาลได้ โดยมีองค์กรอิสระ 7-8 องค์กรและฝ่ายค้าน สามารถยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ซึ่งรัฐบาลก็คงจะรอดเพราะคุมเสียงข้างมากในสภา
ย้ำสส.ดูแลปชช.ไม่ทิ้งหน้าที่หลัก
“การเลือกตั้ง มีความสำคัญกับประชาธิปไตย เพราะมีตัวแทนมาจากประชาชนในพื้นที่เข้าถึงปัญหาต่าง ๆได้เป็นอย่างดี ฉะนั้นขอให้เข้าใจว่าผู้แทนที่จะต้องเข้างานสังคม งานวันเด็ก งานศพ ร่วมเป็นประธานงานต่าง ๆ แต่อาจมีผู้ไม่เข้าใจ จึงทำให้เกิดปัญหาอย่างที่เห็น อย่างผมไปงานศพ ไปทุกงาน แม้กระทั่งแข่งนกกรงหัวจุกก็ต้องไป เพราะเขาเชิญมา แต่ต้องบริหารเวลาให้เป็น ไม่กระทบต่องานหลัก ดังนั้น ผู้แทนต้องดูที่ชีวิตจริง อย่าไปสนใจข้อกล่าวหาว่าเป็นผู้แทนตลาดล่าง เพราะผู้แทนมาจากประชาชน จึงต้องทำงานใหัประชาชนด้วย” ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าว
ไม่สมานฉันท์มาจากการเมือง
นายชวน กล่าวถึงปัญหาความไม่สมานฉันท์ว่าเกิดจากความผิดพลาดในการปฏิบัติของฝ่ายการเมือง และที่ผ่านมามีบางรัฐบาลเลือกปฏิบัติ เลือกพัฒนาจังหวัดที่เลือกเขาเข้ามา แล้วความสมานฉันท์จะเกิดขึ้นได้อย่างไร ทุกคนก็มีหัวใจ ยกตัวอย่างถนนในภาคใต้ทรุดโทรมมากซึ่งตนได้ต่อสู้มาตลอดเพื่อให้ได้รับการซ่อมแซม
“ผมเคยสอบถามอธิบดีกรมทางหลวงได้คำตอบว่าทำไม่ได้ เพราะถ้าทำจะโดนย้ายแต่มาดีขึ้นในยุครัฐบาล คสช.ที่ผมทำหนังสือไปสอบถามและต่อมาได้รับงบประมาณมาปรับปรุง ดังนั้นเรื่องการสร้างความสามานฉันท์ฝ่ายการเมืองจะต้องยึดหลักนิติธรรม ต้องไม่เอาใจใครมากจนเสียหลักและต้องไม่เอาใจประชาชนจนเกิดเหตุทำให้สังคมอ่อนแอ”ประธานสภาผู้แทนราษฎร ย้ำ
ไม่ท้อหวังสร้างสภาให้มีวินัย
พร้อมกันนี้ นายชวนยังกล่าวว่าการที่ตนมาเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร ไม่เคยย่อท้อในการดูแลคน 500 คน พยายามที่จะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น รวมถึงการสร้างวินัยในที่ประชุมสภา มีการกำหนดเวลาหารือปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน เพื่อให้ ส.ส.คนอื่นได้พูดบ้าง หากสังคมไทย มีวินัย เชื่อว่าจะไม่แพ้ชาติใดในอาเซียน จึงต้องทำให้เรื่องนี้เป็นวาระแห่งชาติ
สมศักดิ์ผวากระทบทุกหย่อมหญ้า
วันเดียวกันนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม แกนนำพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีส.ส.ฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อตีความกระบวนการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 ที่มีการเสียบบัตรแทนกัน ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ว่า เรื่องนี้ทำให้เกิดปัญหาความล่าช้าในการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ทำให้กระทบกระเทือนไปทุกส่วน อย่างรัฐบาลก็ต้องการงบประมาณนี้เพื่อมากระตุ้นเศรษฐกิจ ทำโครงการต่างๆให้มีการจ่ายเงินค่าจ้าง ตนมีเพื่อนๆที่ทำงานรับเหมาก่อสร้างกับภาครัฐ เขาบอกว่าบริษัทเงินเป็นร้อยล้านแล้วที่ควรจะเบิกเงินได้ แต่กลับยังเบิกไม่ได้ ทำให้ต้องกู้หนี้ยืมสินจากธนาคารเสียดอกเบี้ย ส่วนภาคประชาชน ภาคเอกชนเขา ก็ไม่ได้เงินตามเป้าหมาย สะเทือนกันไปทุกหย่อมหญ้า ซึ่งเรื่องนี้ศาลรัฐธรรมนูญคงจะพิจารณาเร็ว เพราะศาลท่านรู้อยู่แล้วว่า จะกระทบกระเทือน
ย้ำรอฟังศาลรธน.วินิจฉัยชี้ขาด
เมื่อถามว่า หากร่าง พ.ร.บ.งบประมาณเป็นโมฆะ จะเป็นอย่างไร นายสมศักดิ์ กล่าวว่า หากจะต้องทำใหม่ จะเป็นยังไง ก็ไม่รู้ ตนไม่อยากคิด กฎหมายไม่ใช่คณิตศาสตร์ หากเป็นคณิตศาสตร์จะคิดง่ายๆได้ว่า มีคน 500 คน ไม่ได้ลงคะแนนเอง 3 คน ก็ตัด 3 คนออกไป แล้วฝั่งไหนมีเสียงมากกว่าก็ว่าตามนั้น ก็ไม่มีปัญหา แต่นี่เป็นกฎหมายเราจึงจะคิดแบบนั้นไม่ได้ สุดท้ายเรา ก็ต้องรอการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญว่าจะออกมาเช่นไร
จ่อยื่นปปช.สอบปมเสียบบัตรแทน
นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยเปิดเผยว่าตามที่ปรากฏเป็นการทั่วไปว่ามีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.)ซึ่งไม่อยู่ที่ประชุมพิจารณา (ร่าง) พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563แต่ปรากฏว่ามีชื่อเป็นผู้ลงคะแนนเห็นชอบร่างกฎหมายดังกล่าว ตามที่นายนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรค และอดีตส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์นำมาเปิดเผยต่อสาธารณชน จนกระทั่งนำไปสู่การใช้สิทธิตาม มาตรา148(1)ของรัฐธรรมนูญ2560โดยการเข้าชื่อกันของ ส.ส.1ใน10ของสภาฯในการเสนอความเห็นต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรเพื่อส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยว่าร่างกฎหมายดังกล่าวตราขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือไม่นั้น แต่เนื่องจากต้นเหตุของปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากกรณีของ นายฉลอง เทอดวีระพงศ์ ส.ส.พัทลุง พรรคภูมิใจไทย ที่เดินทางไปร่วมกิจกรรมวันเด็กที่ จ.พัทลุง ในวันที่มีการลงคะแนนเห็นชอบร่างกฎหมายดังกล่าว และนางนาที รัชกิจประการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทยก็ปรากฏภาพถ่ายอยู่ที่ประเทศจีน แต่บุคคลทั้งสอง กลับมีชื่อร่วมลงมติในที่ประชุมสภาฯ เมื่อวันที่ 11 ม.ค.ที่ผ่านมาด้วย นอกจากนั้นยังมีพฤติการณ์เสียบบัตรลงคะแนนแทนกันของ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ตามที่สื่อมวลชนหลายแขนงได้นำหลักฐานภาพถ่ายการเสียบบัตรแทนกันมารายงานอีกด้วย
จี้เอาผิดต้องพ้นจากการเป็นสส.
“พฤติการณ์และการกระทำดังกล่าว จึงอาจเข้าข่ายการขัดกันแห่งผลประโยชน์ ตามรัฐธรรมนูญ 2560 ม.185 อันถือได้ว่าเป็นการก้าวก่ายหรือแทรกแซงเพื่อประโยชน์ของตนเองหรือของผู้อื่น และอาจเข้าข่ายทุจริตต่อหน้าที่ตาม พ.ร.ป.ป้องกันและปราบปรามการทุจริต 2561 และเข้าข่ายการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ในข้อ 7 และข้อ 8 ในประเด็นที่ต้องถือผลประโยชน์ของประเทศชาติเหนือกว่าประโยชน์ส่วนตน และต้องไม่มีพฤติการณ์ที่รู้เห็นหรือยินยอมให้ผู้อื่นใช้ตําแหน่งหน้าที่ของตนแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบฯลฯซึ่งหาก ป.ป.ช.วินิจฉัยว่ามีความผิดตามข้อห้ามข้างต้น ก็อาจนำไปสู่การสิ้นสุดลงของตำแหน่ง ส.ส. ตามมาตรา 101(7) ของรัฐธรรมนูญ 2560ได้ ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมฯจึงจะนำความไปร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. เพื่อให้ดำเนินการไต่สวน สอบสวน และเอาผิด สส.ทั้งหมดดังกล่าวหากพบความผิดตามครรลองของกฎหมายต่อไปโดยจะเดินทางไปยื่นคำร้องในวันจันทร์ที่ 27 ม.ค. 2563 เวลา 10.30 น. ณ สำนักงาน ป.ป.ช. ถนนสนามบินน้ำ นนทบุรี”นายศรีสุวรรณย้ำ
จี้สส.เสียบบัตรแทนรับผิดชอบ
นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ กล่าวถึงปัญหา ส.ส.เสียบบัตรแทนกันระหว่างการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ผ่านทางเฟสบุ๊กส่วนตัวโดยเรียกร้องให้คนกระทำผิดไม่ว่าคนที่ให้คนอื่นลงคะแนนให้และคนที่ลงคะแนนแทนเพื่อน ควรออกมาแสดงตัวยอมรับการทำผิดและพร้อมจะแสดงการรับผิดชอบที่จะรับผิดตามกฎหมาย สมกับเป็น ส.ส.ผู้ทรงเกียรติ ซึ่งขณะนี้ ทางสภาฯได้ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยแล้วไม่ว่าผลการวินิจฉัยจะออกมาอย่างไร
อย่าดึงงบ63เป็นเกมการเมือง
“ผมขอเรียกร้องให้ ส.ส.ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล ช่วยกันแก้วิกฤต พรบ.งบประมาณในครั้งนี้ อย่ามัวแต่เล่นเกมกันและขอให้นึกถึงปัญหาปากท้องของประชาชนที่จะได้รับผลกระทบ จากการล่าช้า โครงการใช้งบประมาณ โดยเฉพาะหมวดเงินลงทุนที่จะไปกระตุ้นเศรษฐกิจ”นพ.ระวี ย้ำ
แนะทางออกถ้างบฯเป็นโมฆะ-
นพ.ระวียังระบุด้วยว่าถ้าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าเป็นเพียงความคิดของบุคคล พรบ.งบประมาณไม่เป็นโมฆะการแก้ปัญหา ก็อาจจะแก้ไขได้ไม่ยากและรวดเร็ว แต่ถ้าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าโมฆะ รัฐบาลก็ยังสามารถจะแก้ไขได้โดยรัฐบาลเสนอร่าง พรบ.นี้เข้าสภาใหม่ และส.ส ทั้งสภา ร่วมกันแก้ไขวิกฤตในครั้งนี้โดยร่วมกันพิจารณางบประมาณให้เสร็จวาระ1 พรบ.งบประมาณ ภายในวันเดียว แล้วตั้งกรรมาธิการงบประมาณใหม่ จากนั้นกรรมาธิการ เร่งสรุปร่างพรบ.งบให้เสร็จใน 7 วัน จากนั้นนำเสนอวาระ2และ3ในสภาให้จบได้ใน 1 วันจากนั้นสภาก็นำร่างพรบ.ส่งวุฒิสมาชิกได้ต่อไป ผมคาดว่าใช้เวลาประมาณ1เดือน ก็น่าจะจบได้ แต่จะทำได้ต้องอาศัยการร่วมแรงร่วมใจของสส.ทั้งสภาฯ
อย่างไรก็ตาม นพ.ระวี ยังระบุถึงที่มีคนเสนอว่าถ้าศาลรัฐธรรมนูญตัดสินเป็นโมฆะให้รัฐบาลออก พรก.งบประมาณใหม่เข้าสภา จัดการแบบม้วนเดียวจบว่า แม้วิธีการนี้จะทำได้ แต่ในส่วนตัวไม่เห็นด้วย ยกเว้นจะเป็นทางออกสุดท้ายที่จำเป็นจริงๆถ้ามีวิธีการอื่น รัฐบาลควรเลือกทางออกอื่นจะดีกว่า
พท.ซัดเจตนาโกง ผิดทุกกรณีมีโทษ
ขณะที่ นายชุมสาย ศรียาภัย รองโฆษกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า หลังจาก สส.พรรคการเมืองหนึ่งเสียบบัตรแทนกันในการลงมติร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2563 จากนั้นมีความพยายามทั้งจาก สว. สส. องค์กรอิสระแสดงความเห็นว่าทำได้ไม่ขัดต่อกฎหมายนั้น เห็นว่า บัตรประจำตัว สส. เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะตัวของ สส. เจ้าของบัตรเพียงคนเดียว ไม่สามารถ มอบให้ผู้อื่นใช้สิทธิ์แทนได้ อย่าพยายามหาทางออกโดยการตีความให้ผิดไปจาก ความสุจริต ตามวิถีทางในครรลองประชาธิปไตย การกระทำดังกล่าวต้องถือว่ามีเจตนาทุจริตมีความผิดและมีโทษตามกฎหมาย ที่ผ่านมาเหตุการณ์เช่นเดียวกันในอดีตได้ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยวางหลักเป็นบรรทัดฐานไว้แล้ว
ทั้งนี้ยังขอชื่นชมนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาที่ระบุว่าไม่ว่าจะเสียบแทนกันในกรณีใดก็ทำไม่ได้ แม้เครื่องลงคะแนนมีไม่พอและส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยชี้ขาด
ห่วง’วิษณุ’ชี้ถูกผิด-ทำสังคมสับสน
รองโฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวอีกว่า แต่กรณีที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีด้านกฎหมายออกมาให้ความเห็นว่าอะไรถูกผิด ทำได้ทำไม่ได้ ตามกฎหมาย ทั้งที่คดียังไม่ไปสู่ศาลและยังไม่มีคำวินิจฉัยในกรณีนี้รวมถึงหลายกรณีที่ผ่านมา จะโดยอาศัยหลักกฎหมาย หรือ หลักอภินิหารกฎหมาย จะถือเป็นการไม่สมควรหรือไม่ เพราะอาจทำให้สังคมเกิดความสับสน
นักกฎหมายโดยทั่วไปทราบว่าความยุติธรรมของประเทศต้องไม่มีอภินิหาร ศาลจะวินิจฉัยคดีตามข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายและ บรรทัดฐานที่ถูกวางหลักไว้เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ไม่ได้ผูกพันเฉพาะคู่ความในคดี หรือเฉพาะคดีใดคดีหนึ่ง แต่ถือว่าเป็นการผูกพันในทุกคดีที่มีข้อหาและข้อเท็จจริง ไม่ใช่ประโยชน์ของคู่ความฝ่ายใดโดยยึดเอาประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นหลัก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี