ลั่นอ่างทอง!‘ทอน’ปลุกสาวกลุกสู้ผู้มีอำนาจ ดักคอหวั่นรบ.‘ไฮแจ็ค’วาระแก้รธน.
26 มกราคม 2563 ที่ศาลาเฉลิมพระเกียรติ ศาลเจ้าพ่ออ่างทอง อ.เมือง จ.อ่างทอง พรรคอนาคตใหม่สาขาอ่างทอง จัดงานเสวนา “วาระรัฐธรรมนูญ วาระประชาชนคนอ่างทอง(คำ)” โดยมีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ร่วมวงเสวนา พร้อมกับนายพิภพ ธงไชย ที่ปรึกษาคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย , นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง อดีตผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์ , นายวัฒนา เมืองสุข ตัวแทนจากพรรคเพื่อไทย และนายศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ นักวิชาการอิสระ ในประเด็นเกี่ยวกับปัญหาของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน และการแก้ไขรัฐธรรมนูญในอนาคต (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ‘อนค.’เปิดเวทีระดมความเห็นแก้รธน. ‘วัฒนา-เจิมศักดิ์-พิภพ’ลงมีดสับเละ)
นายธนาธร กล่าวว่า แน่นอนที่สุดตนมีความคิดความอ่านว่าอยากเห็นรัฐธรรมนูญฉบับใหม่มีหน้าตาเป็นอย่างไร แต่เราต้องเข้าใจว่ารัฐธรรมนูญปี 2560 มาจากการทำรัฐประหารปี 2557 เพราะฉะนั้นการแก้ไขรัฐธรรมนูญจึงเป็นการต่อสู้ทางการเมือง เป็นการต่อสู้กับการสืบทอดอำนาจโดยตัวมันเอง เรื่องนี้สำคัญมาก เพราะที่มา เนื้อหา และกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญมีปัญหาตั้งแต่ต้น รัฐธรรมนูญนี้มีหลักใหญ่ใจความสำคัญอยู่อย่างเดียว คือ ทำอย่างไรก็ได้ที่จะดึงอำนาจออกจากประชาชน มาให้คนทำรัฐประหาร 2557 อยู่ในอำนาจต่อไปได้
นายธนาธร ระบุว่า ในความคิดของตนแล้ว เราควรต้องมี สสร.ชุดใหม่ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนขึ้นมา สิ่งที่ตนอยากเห็น คือ สสร.ที่อาจจะมีสัก 200 คน โดยที่ระบบการเลือกตั้งทำให้มีความหลากหลาย เมื่อได้เข้าไปแล้วเป็นคนยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แล้วทำประชามติให้ประชาชนทั่วประเทศลงคะแนน ตนคิดว่านี่คือกระบวนการที่ควรจะเกิดขึ้น ส่วนเนื้อหาจะเป็นอย่างไร ตนเห็นด้วยว่าต้องมีการกระจายอำนาจ บัตรใบเดียวไม่เหมาะสม ส.ว.ต้องได้รับการทบทวน ข้อเสนอต่างๆเหล่านี้ต้องได้รับการถกเถียง แต่สำหรับตนยังไม่ใช่ตอนนี้ ตอนนี้เราต้องพูดถึงกระบวนการได้มาซึ่งรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ก่อน
“คำถามคือเราจะไปถึงจุดนั้นได้อย่างไร สิ่งที่ผมกลัวมากที่สุดว่าจะเกิดขึ้นในชั้นกรรมาธิการ คือการ “ไฮแจ็ค” ประเด็น เพราะที่ผ่านมากลุ่มคนที่ต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าจะเป็นพรรคการเมืองหรือภาคประชาชน เรามีความมุ่งมั่นและความเชื่อจริงๆว่ารัฐธรรมนูญปี 2560 ฉุดรั้งประเทศไทยเอาไว้ แต่พอการแก้รัฐธรรมนูญเกิดขึ้น แทนที่จะกลายเป็นเรื่องของฝ่ายนิติบัญญัติ กลายเป็นว่าฝ่ายรัฐบาลส่งคนมายึดที่นั่งในกรรมาธิการด้วย และเห็นได้ชัดเลยว่าเป็นคนที่ไม่มีความสามารถ สิ่งที่ผมกลัวคือการขโมยวาระการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่พวกเรารณรงค์กันมา ที่กลัวที่สุดคือข้อสรุปในครั้งนี้จะนำไปสู่การแก้ในรายมาตรา โดยเฉพาะมาตราที่เกี่ยวกับระบบกติกาการเลือกตั้ง แล้วเอามาบอกพี่น้องประชาชนว่าเราแก้รัฐธรรมนูญแล้ว” นายธนาธร กล่าว
นายธนาธร ระบุว่า ดังนั้นประชาชนจะต้องคอยเฝ้าระวัง อย่าให้พวกเขาขโมยวาระการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ปนระชาชนรณรงค์กันมา สิ่งที่เป็นประเด็นวาระสำคัญจริงๆคือการแก้ไขเรื่องดุลอำนาจ ว่าองค์กรต่างๆทางการเมืองจะสัมพันธ์กันอย่างไร มีอำนาจมากน้อยแค่ไหน สังคมแบบไหนที่เราอยากอยู่ร่วมกัน เรามาตกลงกัน เมื่อหาข้อสรุปร่วมกันได้ แพ้ชนะเราก็เล่นในเกม ไม่ต้องมารัฐประหาร นี่คือเรื่องของดุลอำนาจ แต่ถ้าไม่แก้ไขเรื่องดุลอำนาจเหล่านี้ ไปแก้ไขประเด็นยิบย่อยในรัฐธรรมนูญทั้งหมด นั่นก็คือการขโมยวาระของประชาชนในการแก้รัฐธรรมนูญไป
อย่างไรก็ตาม กุญแจที่จะไขล็อคไม่ได้อยู่ที่ประชาชน กุญแจนี้อยู่ที่ผู้มีอำนาจ จะไปสู่ทางนั้นได้มีทางเดียว คือ พี่น้องประชาชนทุกคน ทุกจังหวัด ทุกภูมิภาคต้องตื่นตัวทางการเมืองและแสดงพลังให้หนักแน่นชัดเจนพร้อมกัน ให้ผู้มีอำนาจได้ยินว่าเราทนไม่ไหวแล้ว ไม่ทนอยู่ในการกดขี่แบบนี้อีกแล้ว
“ถ้าไม่มีการลุกขึ้นรณรงค์อย่างแข็งขันของประชาชน ไม่มีทางแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2560 ได้ แล้วเราจะถูกเหนี่ยวรั้งไม่ให้พัฒนา ไม่ให้ประชาชนมีอำนาจ ไม่ให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เพราะฉะนั้นผมขอให้ประชาชนลุกขึ้นมารณรงค์ไปพร้อมๆกัน นั่นคือวิถีทางเดียวที่จะนำไปสู่การแก้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ได้” นายธนาธร กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี