“สุวัจน์”ชี้ศาล รธน.รับวินิจฉัยกดบัตรแทนจะเป็นบรรทัดฐาน เผยงบประมาณยังไงเงินมีแน่ เงินได้ใช้แน่ แต่อาจจะ Delay แย้มหลังอภิปรายฯปรับ ครม.เพื่อไทยร่วมอยู่ที่สถานการณ์ทางการเมืองที่จะพัฒนา การเมืองมันก็พลิกทุกวัน เปลี่ยนไปตลอด “ แรมโบ้อีสาน”โต้กดบัตรแทน ฝ่ายนิติบัญญัติกับฝ่ายบริหารแยกส่วนบริหารราชการแผ่นดิน
วันที่ 30 มกราคม 2563 นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาและแกนนำพรรคชาติพัฒนา อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวที่ จ.นครราชสีมา วิเคราะห์ถึงการผ่านงบประมาณแล้วเกิดมีปัญหาการเสียบบัตรแทนรวมทั้งญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า เรื่องปัญหางบประมาณที่มีการเสียบบัตรแทนกัน วันนี้ศาลรัฐธรรมนูญรับวินิจฉัยแล้ว ฉะนั้นจะผิด หรือจะถูก หรือแนวทางจะเป็นอย่างไรตนว่าวันนี้ก็คงจะต้องรอคำวินิจฉัยของศาล ตนก็ยังไม่ทราบว่าคำวินิจฉัยของศาลจะเป็นอย่างไร แต่คำวินิจฉัยของศาลก็คงจะเป็นบรรทัดฐานที่จะนำไปสู่แนวทางว่า หลังจากศาลวินิจฉัยอย่างนี้แล้ว แนวทางในการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร แต่ตนเชื่อว่าเรื่องงบประมาณเป็นเรื่องของความสำคัญ และเป็นความสำคัญเรื่องเศรษฐกิจ ตอนนี้เศรษฐกิจเป็นเรื่องใหญ่ และงบประมาณตัวนี้ 3 ล้านล้านกว่า ฉะนั้นตนยังเชื่อว่าด้วยกลไก ด้วยมาตรการต่างๆที่รัฐบาลได้ศึกษาเอาไว้ว่า จะหยิบมาตรการและกลไกอะไรมาใช้หลังจากที่มีคำวินิจฉัยจากศาลแล้ว ตนยังเชื่อว่าน่าที่จะมีมาตรการที่เหมาะสมกับสถานการณ์ สรุปว่ายังไงเงินมีแน่ เงินได้ใช้แน่ แต่อาจจะมาช้าบ้าง อย่างที่เราเป็นห่วงว่า ก็อาจจะ Delay ไป 1-2 เดือน หรือ 3 เดือน แต่ตนก็เชื่อมั่นว่า มันก็คงมีวิธีการในการบริหารจัดการเรื่องเงิน คือ เงินมี แต่มาช้าหน่อย เพียงแต่ว่าจะช้ามาก ช้าแค่ไหนขึ้นอยู่กับวิธีการ ทั้งนี้ทั้งนั้นตนเชื่อว่าทุกฝ่ายคงจะต้องรอก่อนว่า ศาลวินิจฉัยว่าอย่างไร ตนคิดว่าก็อาจจะ Delay มีผลกระทบในเรื่องของการ Delay แต่ว่ายังไงโครงการเกิด เงินมา มีเงินเดือนจ่ายกัน แต่ว่าเมื่อมันเกิดเหตุทางเทคนิคอย่างนี้เกิดขึ้นเราก็ต้องเคารพกฎหมาย ส่วนเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจเหมือนว่ารัฐมนตรีในรัฐบาลวาดระแวงและกลัวนั้น
ตนยังไม่ทราบว่าจะอภิปรายท่านใดบ้าง ฉะนั้นต้องเห็นภาพก่อนว่าฝ่ายค้านจะอภิปรายอย่างไร รัฐมนตรีคนใดบ้าง หลังจากนั้นทุกคนจะต้องมาหารือกันในการเตรียมความพร้อม เหมือนกับต้องเห็นโจทย์ก่อนแล้วเตรียมคำตอบ ส่วนความสัมพันธ์ของพรรครัฐบาลขณะนี้ในกว่า 250 เสียงนี้ตนดูก็ยัง OK กันอยู่ อาจจะมีเรื่องเทคนิคอะไรบางเรื่องบางราว แต่พื้นฐานของความเป็นรัฐบาลผสมหรือความสัมพันธ์อะไรต่างๆขณะนี้ยังไม่มีเหตุอะไรที่จะบอกว่ามีความสัมพันธ์ที่ไม่ราบรื่น ตนยังติดว่ายังมีพื้นฐานของความสัมพันธ์ที่ดี แต่ว่าเสียงอาจจะน้อย เกิน 250 มาน้อยแบบเสียวไส้หน่อย แต่ว่าความรักใคร่ ความสามัคคียังดีอยู่ ส่วนความเป็นไปได้หลังอภิปรายมีกระแสข่าวการปรับ ครม.ดึงพรรคเพื่อไทยร่วมนั้น อันนี้ตนไม่ทราบ ตนคิดว่าเป็นเรื่องของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีกับเป็นเรื่องของสถานการณ์ทางการเมืองที่จะพัฒนา คือสถานการณ์ทางการเมืองมันก็พลิกทุกวัน เปลี่ยนไปตลอด อย่างวันนี้ก็อาจจะเป็นสถานการณ์ของโรคไวรัสโคโรนาก่อน สมมุติถ้าเราแก้ปัญหานี้ได้ต่อไปอาจจะเป็นสถานการณ์ทางการเมืองมาแทนที่ในเรื่องอภิปรายไม่ไว้วางใจ ฉะนั้นปัญหาทางการเมืองเหมือนกับปัญหามีไว้ให้แก้ก็ต้องแก้ไปเรื่อย มันจะรุนแรงถึงแค่ไหนก็แล้วแต่สถานการณ์ แต่จะยังไงก็แล้วแต่ทุกอย่างต้องมีทางออก ส่วนพรรคชาติพัฒนาทีมีเสียงน้อยนิดก็จะยืนเคียงข้างรัฐบาลมั่นคงนั้น นายสุวัจน์ฯยิ้มหัวเราะก่อนกล่าวว่า สำหรับพรรคชาติพัฒนาเองก็ไม่ได้มีอะไร เราเป็นพรรคร่วมรัฐบาล เราก็ร่วมรัฐบาลมาเยอะแล้ว เราก็ผ่านเหตุการณ์อะไรต่างๆมามากพอสมควร ฉะนั้นเรารู้ถึงความรู้สึกหรือความเข้าใจของสถานการณ์ต่างๆที่จะต้องทำงานร่วมกัน การมีกำลังใจกัน การมีความจริงใจซึ่งกันและกัน เพื่อให้รัฐบาลสามารถแก้ไขปัญหาของประเทศ วันนี้เราก็มีหลายปัญหา เราพยายามทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด นายสุวัจน์ฯกล่าว
ด้านนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ “แรมโบ้อีสาน” ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงปัญหาเรื่องงบประมาณและมีการเสียบบัตรแทนจนมีการยืนศาลรีฐธรรมนูญในที่สุดศาลรัฐธรรมนูญรับวินิจฉัยว่า ตนคิดว่าจริงๆต้องแยกเป็นสองส่วน มันเป็นเรื่องปัญหาของสภาฯ แต่ว่ามันกระทบฝ่ายบริหาร ก็คือฝ่ายบริหารราชการแผ่นดิน คือ กระทบรัฐบาล เพราะเนื่องจากรัฐบาลเองจะต้องใช้เงินงบประมาณในการบริหารราชการแผ่นดินเพื่อการลงทุน เพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อการบริหารประเทศชาติ แต่เมื่อเกิดการสะดุด ในสภาฯมีการกดบัตรแทนกันตามที่เป็นข่าว ดังนั้นแล้วฝ่ายสภาฯ ว่าจะเป็นนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ และประธานวิปฝ่ายฝ่ายค้านก็ได้ส่งเรื่องไปให้ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยแล้ว อย่างไรก็แล้วแต่เราก็ต้องรอคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ พอมีประเด็นอย่างนี้แล้วก็มีทาให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีรับผิดชอบอีก ถามว่านายกรัฐมนตรีไม่ได้เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง นายกรัฐมนตรีไม่ได้เป็น ส.ส. นายกรัฐมนตรีเป็นผู้นำด้านบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติกับฝ่ายบริหารมันแยกส่วนบริหารราชการแผ่นดินอยู่แล้ว แยกส่วนคนละองค์กรอยู่แล้ว ดังนั้นแล้วตนถึงบอกว่า อะไรๆก็จะมาโยนให้แต่นายกรัฐมนตรี นี่คือสิ่งที่ฝ่ายค้านถึงบอกพยายามดิสเครดิตนายกรัฐมนตรีทุกเรื่อง
ดังนั้นวันนี้ตนได้เรียนนายกรัฐมนตรีไปแล้วว่า ท่านต้องอดทน เมื่อท่านกระโดดเข้าการเมืองแล้วท่านจะต้องมีความอดทนหนักแน่น ท่านก็บอกว่าท่านสบายใจ ท่านไม่เป็นไร เดินหน้าทำงานเพื่อประเทศชาติ เพื่อประชาชน อย่างเต็มที่ต่อไปด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์ อย่าไปวิตก ฝ่ายค้านจะเล่นวิชามารอย่างไรเราต้องอดทนให้ได้ เราต้องก้าวข้ามให้ได้ วันนี้ลองสังเกตว่าท่านนายกรัฐมนตรีเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ท่านจะไม่ค่อยโกธร ไม่มีอารมณ์โมโหอะไรเลย เนื่องจากท่านเข้าใจในวิธีการเทคนิคของฝ่ายค้าน พูดง่ายๆว่าท่านมองทะลุฝ่ายค้านออกหมดแล้วว่าจะมาไม้ไหน โดยเฉพาะเรื่องมีข่าวกระแสจะยุบสภาฯ หรือกระแสข่าวปรับ ครม. ไม่มีคำใดๆออกจากปากนายกรัฐมนตรี และท่านยังหนักแน่น และยืนยันว่าไม่เคยคิดที่จะยุบสภาฯหนีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะรู้อยู่แล้วประเด็นของฝ่ายค้าน ไม่วิตกกังวล ท่านทำงานด้วยความโปร่งใส มือสะอาด เรามีนายกรัฐมนตรีที่มือสะอาดกับมีนายกรัฐมนตรีในอดีตที่มือไม่สะอาดพี่น้องประชาชนรู้ดีว่า ใครบริหารประเทศชาติประชาชนด้วยความจริงใจและบริสุทธิ์ใจกว่ากัน
ส่วนเรื่องพล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ฯ ประธานกรรมาธิการ ป.ป.ช. ไม่ยอมหยุดเรื่องถวายสัตย์ฯนั้น ตนคิดว่าสไตล์ของท่านเสรีฯเราต้องยอมรับความจริงว่า ยังเป็นสไตล์ลักษณะเดิมๆ เห็นอยู่ว่าเดี๋ยวก็ทะเลาะกับคุณปวีณาฯ ทะเลาะกับ ส.ส.ไพบูลย์ นิติตะวรรณ และ ทะเลาะ ส.ส.ศิระฯ ซึ่งเราก็เห็นในกรรมาธิการ ป.ป.ช.แล้ว เรามองว่าวันนี้มติเสียงส่วนใหญ่ว่าอย่างไรแล้วก็พยายามไม่เอาตามมติของที่ประชุมของกรรมาธิการฯ ดังนั้นแล้วพี่น้องประชาชนเขาจะตรวจสอบกันเองว่า พฤติกรรมอย่างนี้เป็นพฤติกรรมที่เป็นความอาฆาตแค้นส่วนตัวหรือไม่ อคติส่วนตัวหรือเปล่า พยายามอาฆาตแค้นนายกรัฐมนตรีส่วนตัว และพล.อ.ประวิตรฯส่วนตัวอำไรต่างๆเหล่านี้ พยายามเอาญัตติเรื่องเดิมๆ มารื้อฟื้น โดยเฉพาะเรื่องการถวายสัตย์ฯซึ่งจบไปแล้ว ศาลรัฐธรรมนูญก็ตีตกไปแล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี