(ต่อจากอาทิตย์ที่แล้ว)
5.ในการกันเป็นพยานนั้น เป็นดุลพินิจของผู้บังคับบัญชาซึ่งมีอำนาจสั่งบรรจุฯ ที่จะพิจารณาว่าสมควรหรือไม่โดยให้พิจารณาตามกฎก.พ.ฉบับนี้ แต่มิได้เป็นการผูกมัดว่าผู้มีอำนาจสั่งบรรจุและแต่งตั้งฯ ไม่อาจดำเนินการทางวินัยแก่ผู้นั้นได้อีก เพราะว่าผู้ที่ได้รับการกันเป็นพยานนั้นเป็นผู้ร่วมกระทำผิดวินัยเพียงแต่อาจได้รับการพิจารณาลดโทษเท่านั้น
6.การกันเป็นพยานนั้น มิได้หมายความว่าจะมีผลตลอดไป ผู้บังคับบัญชาซึ่งมีอำนาจสั่งบรรจุและแต่งตั้งอาจสั่งให้การกันเป็นพยานสิ้นสุดลงก็ได้หากมีเหตุดังต่อไปนี้
1) ไม่ยอมมาให้ถ้อยคำ
2) มาแต่ไม่ให้ถ้อยคำ
3) มาให้ถ้อยคำ แต่ถ้อยคำนั้นไม่เป็นประโยชน์แก่ทางราชการ
4) ให้ถ้อยคำเป็นเท็จ
7.ให้ผู้บังคับบัญชาซึ่งมีอำนาจสั่งบรรจุและแต่งตั้งแจ้งเรื่องการกันเป็นพยานและการสิ้นสุดการกันเป็นพยาน ให้ผู้ที่ถูกกันผู้มีหน้าที่สืบสวน สอบสวนหรือตรวจสอบทราบด้วย พร้อมกันนั้นผู้ที่มีหน้าที่สืบสวน สอบสวนหรือตรวจสอบ ต้องระมัดระวังการให้ถ้อยคำของพยานประเภทนี้เป็นพิเศษเพราะอาจเป็นเท็จได้และต้องไม่ดำเนินการใดที่จะเป็นการจูงใจ คำมั่นสัญญา ขู่เข็ญหลอกลวง หรือกระทำโดยมิชอบด้วยประการใดๆ อันจะทำให้พยานนั้นกล่าวอ้างภายหลังว่า การให้ถ้อยคำของตนมิได้เกิดขึ้นโดยอิสระ ซึ่งจะทำให้ถ้อยคำพยานนั้นเสียไป
8.ประเด็นการลดโทษ โดยที่ผู้ถูกกันเป็นพยานตามข้อเท็จจริง ก็ยังเป็นผู้กระทำผิดวินัยแต่ได้รับการกันเป็นพยานเพื่อนำตัวการสำคัญซึ่งเป็นต้นเหตุแห่งการกระทำผิดนั้นมาลงโทษ ดังนั้นการถูกกันเป็นพยานมิได้เป็นเหตุยกเว้นความผิดหรือยกเว้นโทษแต่อย่างใด ผู้ถูกกันเป็นพยานจึงยังมีฐานะเป็นผู้กระทำผิดวินัยและอาจถูกลงโทษทางวินัยได้ เพียงแต่อาจได้รับการลดโทษโดยอยู่ในดุลพินิจของผู้บังคับบัญชาผู้มีอำนาจสั่งบรรจุและแต่งตั้ง โดยพิจารณาตามเงื่อนไขต่อไปนี้
1) มิได้เป็นต้นเหตุของการกระทำผิดวินัย
2) ร่วมกระทำผิดวินัยเพราะตกอยู่ในอำนาจบังคับหรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ทำให้มีส่วนร่วมกระทำผิดด้วย
แต่การลดโทษให้แก่ผู้ที่ถูกกันเป็นพยานนั้น ไม่อาจลดโทษให้ต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนดได้ ตรงนี้มีข้อสังเกตอีกกรณีหนึ่งว่า กรณีความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ราชการนั้นคณะรัฐมนตรีได้มีมติกำกับการใช้ดุลพินิจของผู้บังคับบัญชาซึ่งมีอำนาจสั่งบรรจุและแต่งตั้ง ตลอดจนองค์กรกลางบริหารงานบุคคลอยู่ว่า กรณีนี้ต้องลงโทษไล่ออกจากราชการประการเดียว (มติครม.ว234/2536)จึงทำให้เกิดปัญหาในการพิจารณาว่าจะกระทำได้หรือไม่ครับ...คงต้องรอคำตอบจากสำนักงานก.พ.ต่อไป
9. ประเด็นการกันเป็นพยานตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 โปรดศึกษารายละเอียดได้จากกฎก.พ.ที่กล่าวไว้ข้างต้นนะครับ...คราวหน้าเราจะไปหาข้อมูลในกรณีการกันเป็นพยานตามกฎหมายของป.ป.ช.มาบอกเล่าสู่กันฟังครับ..
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี