ทรงแสดงความเสียพระราชหฤทัย
ในหลวง-ราชินี
เหตุจ่าทหารคลั่งกราดยิงที่โคราช
พระราชทานรับศพผู้เสียชีวิต
ไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์
สมเด็จพระสังฆราชประทานเงิน
อรินทราชรับศพ2ตำรวจฮีโร่
ประชาชนแห่วางดอกไม้อาลัย
“นายกฯ”แถลง “ในหลวง-พระราชินี”ทรงแสดงความเสียพระราชหฤทัยต่อเหตุการณ์ที่โคราช พระราชทานกำลังใจแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต โปรดเกล้าฯ พระราชทานรับศพผู้เสียชีวิตไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์และพระราชทานพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม และพระราชทานเพลิงศพเป็นกรณีพิเศษ สมเด็จพระสังฆราชทรงห่วงใยประทานเงินสิ่งของช่วยเหลือเหยื่อกราดยิงโคราชทุกราย ประชาชนยังทยอยวางดอกไม้-เขียนข้อความไว้อาลัยผู้เสียชีวิตหน่วย“อรินทราช 26” รับศพ 2 ตำรวจพลีชีพไปยังกองบิน 1 โคราช กลับดอนเมือง บำเพ็ญกุศลวัดตรีทศเทพ
จากเหตุการณ์สะเทือนขวัญ จ.ส.อ.จักรพันธ์ ถมมา อายุ32ปี ทหารสังกัดค่ายสุรธรรมพิทักษ์ คลั่งสติแตกบุกก่อเหตุยิงผู้บังคับบัญชาคือ พ.อ.อนันต์ฐโรจน์ กระแส อายุ 48 ปี สังกัดกรมสรรพวุธ และนางอนงค์ มิตรจันทร์ อายุ 65ปี เสียชีวิต ก่อนบุกชิงรถฮัมวี และปืนอาวุธสงคราม เข้าไปกราดยิงภายในวัดป่าศรัทธารวม และเข้ามาที่ ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21โคราช อ.เมือง จ.นครราชสีมา กราดยิงมีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บจำนวนมากตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 8 ก.พ.ต่อเนื่องวันที่ 9 ก.พ.และถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญเสียชีวิตในที่สุด
ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่ม30บาดเจ็บ32
เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ มีรายงานว่ายอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว เพิ่มขึ้นเป็น 30 ราย และ มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 32 ราย โดยรายชื่อมีดังนี้ ผู้เสียชีวิต 30 ราย 1.พ.อ.อนันต์ฐโรจ กระแส 2. นาง อนงค์ มิตรจันทร์ 3. นาย จักรพันธ์ ชิพิมาย 4. นาย ศรัญพงศ์ พงษ์ชะอุ่มดี 5. นาย พีรพัฒน์ พลาสาร 6. ด.ต.ชัชวาลย์ แท่งทอง 7. ด.ช.รัชชานนท์ กาญจนเมธี 8. น.ส. อริยา กลีบเมฆ 9. ร.อ.ศิริวิวัฒน์ แสงประสิทธิ์ 10. นาง พัชรา จันทร์เพ็ง 11. นาย จิรวัฒน์ รัดกลาง 12. นาง นริศรา โชติกลาง 13. นาย ทัศนะ หริรักษ์ 14. นาง ชญาภา แสงครบุรี 15. พลทหาร เมธา เลิศศิริ 16. นาย วันชัย เวชวรรณ์17. นาย อำนาจ บุญเกื้อ 18. นาย เอกวิน อินทน 19. ร.ต.อ.ตระกูล ธาอาษา 20. ด.ต.เพชรรัตน์ กำจัดภัย 21. น.ส.อภิกษณาภา ขันผักแว่น 22. จ.ส.อ.จักรพันธ์ ถมมา 23. นาย สุริยะ สิมป์รัชตามร 24. นาย อธิวัฒน์ พรมสุข 25. นางสาวกรรณิการ์ การบรรจง 26. นางสาว ปภัชญา นวลรักษา 27. ชายไม่ทราบชื่อ-สกุล28. ชายไม่ทราบชื่อ-สกุล 29. หญิงไม่ทราบชื่อ-สกุล 30. เด็กชายไม่ทราบชื่อ-สกุล
ส่วนรายชื่อผู้บาดเจ็บ 32 ราย ได้แก่ 1. นาย พิทยา แก้วพรม 2. ส.ต.ท.กรกต อำพันเงิน 3. นาย ณโชติ โชติกลาง 4. นาย ทวีศักดิ์ สุขารมย์ 5. ด.ช.ธีรวัฒน์ วัชรีเสวิน 6. นาย วัฒนา เพ็งบอก 7. ร.ต.ท.ณัฐพงศ์ รัตนมงคล 8. น.ส.อาทิตยา ศรสิทธิ์ 9. นาย สุรเดช เนื่องอุทัย 10. ร.ต.ต.จำรัส ไชยฤกษ์ 11. นาย อัฐเศรษฐ์ ศิรวรัญกูล 12. นาง เพ็ญศิริ แซ่จิง 13. นาย อุทัย ขันอาสา 14. นาย นิพจน์ บุปผาเฮ้า 15. ด.ช.เจริญศักดิ์ จำปาทอง 16. นาย คมกฤษ นนทะนำ 17. นาง วทัญญา แสงประสิทธิ์ 18. นาย สิทธิศักดิ์ วาดโคกสูง 19. นาย บุลวัชร์ กุญชรินทร์ 20. นาย เพลิน เทจอหอ 21. น.ส.มัฑนา หล่อแท้ 22. นาย ฐาปณัฐ เพ็ญจันทร์ 23. นาย บุญหลาย คณาบตย์ 24. น.ส.พลอยใส ยาคูโวฟลก์ 25. นาย ฐิรัตติกาล นอมไทย 26. นาย ชณนวี นนทร์สิงสุข 27. นาย ศุภชัย แดงอยู่ 28. น.ส.สิริวรรณ นิลนาม 29. พลทหาร โชคชัย มูลจันทา 30. พลทหาร อรรถพล วงศ์พล 31. ด.ต.สงกรานต์ บุญทอง 32. ด.ต.สามชัย แพเกาะ
ปชช.ยังแห่วางดอกไม้ไว้อาลัย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศบริเวณด้านหน้าของห้างสรรพสินค้าเทอร์มินอล 21 หนึ่งในสถานที่เกิดเหตุกราดยิงในจ.นครราชสีมา ช่วงวันที่ 8 ต่อเนื่องวันที่ 9 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้ประชาชนจำนวนมากยังทยอยนำวางดอกไม้และเขียนข้อความแสดงความเสียใจไว้อาลัยผู้เสียชีวิตจากเหตุโศกนาฏกรรมกราดยิงครั้งนี้ ขณะที่ ครอบครัว พละสาร ได้นิมนต์พระสงฆ์มาทำพิธีเรียกดวงวิญญาณ นายพีรภัทร พละสาร อายุ 27ปี วิศวกรโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง ซึ่งเป็นคนขับรถยนต์มิตซูบิชิ ปาเจโร่ สปอร์ต ซึ่งเสียชีวิตบริเวณเกาะกลางถนนด้านหน้าห้าง ส่วนเพื่อนอีก 2 คน ที่นั่งรถมาด้วยกันปลอดภัย
จิตอาสาฯร่วมทำความสะอาด
ขณะที่ จิตอาสาพระราชทาน 904 วปร.ทั้งในส่วนของตำรวจ ทหารและฝ่ายปกครอง ได้เข้าทำความสะอาดในภาพรวมเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อทางห้างสรรพสินค้าเทอร์มินอล 21โดยมีพนักงานของห้างคอยทำความสะอาดในรายละเอียดเล็กๆเพื่อให้ทันเปิดให้บริการในวันที่13กุมภาพันธ์นี้ เนื่องจากต้องปฏิบัติงานตลอดทั้งวันจึงตั้งโรงครัวพระราชทานที่เป็นทั้งเสบียงอาหารและขวัญกำลังใจในการทำงานโดยมีทีมเยียวยาจิตใจ จากกรมสุขภาพจิตกว่า10คน มาร่วมพูดคุยความรู้สึกแนะนำการปรับตัวปรับใจหลังผ่านเหตุการณ์ร้ายแรงในส่วนของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติตลอดจนพนักงานของห้างด้วย
ตร.‘อินทราช26’ร่วมรับศพ2ฮีโร่
วันเดียวกัน ที่กองบิน 1 นครราชสีมา พล.ต.ท.พูนทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 3 (ผบช.ภาค 3) นำคณะญาติๆรับศพ 2 เจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยอินทราช 26 คือ ร.ต.อ.ตระกูล ทาอาสา และ ด.ต.เพชรรัตน์ กำจัดภัย เจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษต่อต้านการก่อการร้าย (อรินทราช 26) มีธงชาติไทยคลุมหีบศพอย่างสมเกียรติ ท่ามกลางความโศกเศร้าของญาติพี่น้องและตำรวจเพื่อนร่วมงาน ก่อนเคลื่อนร่างไปขึ้นเครื่อง ที่กองบิน 1 นครราชสีมา เดินทางไปสนามบินดอนเมืองและนำร่างบำเพ็ญกุศลที่วัดตรีทศเทพ กรุงเทพมหานคร
สังคมชู2ตำรวจกล้าหาญพลีชีพ
ขณะเดียวกัน มีกระแสสังคมต่างชื่นชมในความกล้าหาญเสียสละของตำรวจทั้ง 2 นาย ยอมพลีชีพตัวเองขณะปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ชั้นในห้างใกล้กับจุดที่คนร้ายซ่อนตัว ตำรวจอรินทราช 3นายได้เคลื่อนย้ายตัวโดยมีโล่กำบังล่อหลอกให้คนร้ายเคลื่อนไหวตัวลักษณะล่อเป้าและได้ถูกคนร้ายยิงบาดเจ็บและเสียชีวิตและเมื่อทีมตำรวจทราบตำแหน่งคนร้ายแล้วจึงเข้าจู่โจมวิสามัญคนร้ายได้สำเร็จ
‘จุติ’ลงเยี่ยมให้กำลังใจญาติเหยื่อ
ที่ จ.นครราชสีมา นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว. การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.)เดินทางลงพื้นที่เพื่อเยี่ยมและให้กำลังใจครอบครัว ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุกราดยิงในกลางเมืองราชสีมา และห้าง Terminal 21 โดยได้เดินทาง ที่โรงพยาบาลมหาราชพร้อมมอบสิ่งของและเงินช่วยเหลือรายละ5,000บาท จำนวน 17ราย จากนั้น เดินทางไปพบปะและมอบแนวทางการให้ความช่วยเหลือร่วมประชุมทีม One home นครราชสีมาและชุดปฏิบัติการเยียวยาที่ห้องประชุมบ้านนารีสวัสดิ เพื่อเตรียมการให้ความช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ผู้เสียชีวิตและครอบครัว
สำหรับผู้ที่เสียชีวิต เรามีระบบสวัสดิการของรัฐบาลดูแลจะได้รับเงินช่วยเหลือครอบครัวละประมาณ 160,000 บาทรวมถึงการดูแลเรื่องทายาทและช่วยหาอาชีพให้กับครอบครัว
นายกฯสั่งพม.ช่วยเหลือโดยเร็ว
นายจุติ กล่าวด้วยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหมได้กำชับให้กระทรวง พม.ให้ความดูแลผู้ประสบภัยทุกคนโดยเน้นย้ำว่าให้ความช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว และมอบเงินค่าเยียวยาผู้ประสบเหตุในเบื้องต้น และกำชับด้วยว่าระหว่างการพักฟื้นนั้น หากมีปัญหาติดขัดอะไร ขอให้แจ้งมาที่ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด(พมจ.)นครราชสีมา หรือกระทรวง พม.ได้โดยตนได้ให้เบอร์ติดต่อส่วนตัวไว้ หากมีปัญหาในเรื่องการทำงานหรือเรื่องใด เราพร้อมให้ความช่วยเหลือ
วอนร่วมผนึกใจร่วมฝ่าให้ได้
“ตอนนี้พวกเรามีความเศร้าโศก และเสียใจกันทุกคนจึงขอให้เข้มแข็งช่วยกันประคับประคองคนไทยไปด้วยกัน เชื่อว่าเราจะฟันฝ่าภัยที่กระทบกระเทือนจิตใจตรงนี้ไปได้ ขอเชิญชวนพี่น้องทุกท่าน ช่วยกันเยียวยาบำบัดจิตใจและร่วมกันส่งกำลังใจให้กับผู้ที่เสียชีวิตและผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้โดยกระทรวง พม.ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่กระจายไปติดตามดูแลผู้ที่ป่วยและผู้ที่เดินทางกลับบ้านแล้วรวมถึงนักจิตวิทยา อีกทั้งกรมสุขภาพจิตได้ส่งเจ้าหน้าที่มาร่วมกันดูแลในกรณีนี้ด้วย”รมว.พัฒนาสังคมฯย้ำ
จากนั้น รมว.พัฒนาสังคมฯเดินทางไปบริเวณหน้าลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ใจกลางเทศบาลนครนครราชสีมา เพื่อร่วมไว้อาลัยให้กับผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ด้วย
ผช.รมว.แรงงานมอบเงินช่วย
ทางด้าน นายดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงแรงงาน พร้อมคณะเข้าเยี่ยมให้กำลังใจผู้บาดเจ็บและญาติผู้เสียชีวิตที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา พร้อมมอบเงินตามสิทธิประโยชน์เพื่อเยียวยาช่วยเหลือครอบครัวผู้ประกันตนที่เสียชีวิต รวม6ราย เป็นเงิน 2,746,459 บาท พร้อมช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาล ค่าเสียโอกาสทางอาชีพสำหรับผู้ได้รับบาดเจ็บด้วย
รัฐสั่งทุกหน่วยเยียวยาเต็มที่
ด้านนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเผยว่ารัฐบาลมีคำสั่งด่วนให้ทุกหน่วยงานเร่งสำรวจสิทธิประโยชน์ เงินเยียวยาและความช่วยเหลือ กรณีประชาชนและเจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุการณ์กราดยิงที่ห้างสรรพสินค้าเทอร์มินอล 21จ.นครราชสีมา เพี่อเร่งให้ความช่วยเหลือเยียวยาแก่ทายาทและครอบครัวที่ได้รับผลกระทบตามสิทธิที่ที่พึงมีพึงได้อย่างเต็มที่ เบื้องต้น กระทรวงยุติธรรม กระทรวงแรงงาน กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้สำรวจสิทธิ/เงินเยียวยา ภายใต้ระเบียบของตนเองแล้วจะรวบรวมความช่วยเหลือจากทุกหน่วยงานภายในวันที่ 11ก.พ.นี้
‘บิ๊กตู่’เตรียมออกทีวีแถลงการณ์
“รัฐบาลรู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งและขอเป็นกำลังใจแก่คนไทยและพี่น้องชาวโคราชทุกคน ในช่วงเวลานี้ขอความร่วมมือจากสังคม สื่อมวลชน และประชาชน ร่วมกันเป็นพลังใจให้กันและกันเพื่อสร้างภูมิป้องกันให้สังคม ต่อไป”โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ ทั้งนี้ ในเวลา18.00น.นี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะออกแถลงการณ์ผ่านทีวีพูลประมาณ5นาที เพื่อชี้แจงเกี่ยวกับรายละเอียด การช่วยเหลือ ครอบครัวผู้เสียชีวิตและ ผู้ได้รับบาดเจ็บ จากเหตุกราดยิงที่โคราช ตามพระราชกระแสรับสั่งของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
นายกฯสั่งครม.-ขรก.ใส่ดำไว้ทุกข์
แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาลเผยว่านายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี(สปน.)แจ้งถึงผู้บริหารข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของสำนักนายกรัฐมนตรี อาทิ รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้ตรวจราชการประจำสำนักนายกรัฐมนตรีให้ทราบและขอความร่วมมือ โดยระบุว่าตามที่ได้เกิดเหตุการณ์การสูญเสียครั้งใหญ่ที่ จ.นครราชสีมาเมื่อวันที่ 8-9ก.พ.2563สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี(สปน.)ขอความร่วมมือผู้บริหาร เพื่อนข้าราชการและบุคลากรของ สปน.ทุกคน ร่วมกันแต่งชุดดำไว้ทุกข์ให้กับผู้เสียชีวิตในวันอังคารที่11ก.พ.2563เพื่อเป็นการแสดงความไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิตและเจ้าหน้าที่ที่เสียสละชีวิตจากเหตุการณ์ที่จ.นครราชสีมา และเพื่อเป็นการแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้สูญเสีย
นอกจากนี้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.)ได้แจ้งถึงคณะรัฐมนตรีและข้าราชการที่จะเข้าร่วมการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ซึ่งมีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุม ในวันที่ 11ก.พ.2563 เวลา 09.00 น. ที่ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล ขอให้ทุกคนแต่งกายด้วยเสื้อผ้าไทยสีดำเพื่อเป็นการไว้ทุกข์ในโอกาสเดียวกันนี้ด้วย
‘บิ๊กแดง’สั่งทุกหน่วยสกัดซ้ำร้อย
หลังจาก จ่าสิบเอก จักรพันธ์ ถมมา ผู้บังคับหมู่ปืนเล็ก ปล้นอาวุธปืนและกระสุน จากป้อมรักษาการณ์ภายในหน่วยไปใช้ก่อเหตุกราดยิงเจ้าหน้าที่และประชาชนในพื้นที่ จ.ครราชสีมาจนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมากนั้น พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก มีคำสั่งเป็นหนังสือด่วนไปยังทุกหน่วยทหารที่ขึ้นตรงกับกองทัพ ให้ปฏิบัติตามระเบียบถึงมาตรการป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต 4 แนวทางปฏิบัติ คือ 1.กองรักษาการณ์ของหน่วยต้องไม่มีกระสุน และไม่มีปืนกล 2.การปฏิบัติให้ถอดลูกเลื่อนออก โดยให้ผู้บังคับกองรักษาการณ์เป็นผู้เก็บรักษา 3.หน่วยที่เป็นกำลังป้องกันชายแดน ให้ปฏิบัติตามระเบียบประจำของหน่วย และ 4.ผู้บังคับหน่วยทุกระดับ ต้องกำกับดูแลการปฏิบัติอย่างใกล้ชิด
ผบ.ทบ.เตรียมเปิดแถลงพรุ่งนี้
ด้าน พล.ท.ธัญญา เกียรติสาร แม่ทัพภาคที่ 2ได้เน้นย้ำให้หน่วยขึ้นตรงของกองทัพภาคที่2 เพิ่มมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยมากขึ้น แม้ว่าจะมีมาตรการซึ่งถูกบังคับใช้เป็นระเบียบปฏิบัติอยู่แล้วก็ตาม และยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจเกิดความผิดพลาดที่จ่าสิบเอก จักรพันธ์ รู้จักกับเจ้าหน้าที่ จึงไม่มีใครคาดคิดว่า จะมาปล้นอาวุธที่กองรักษาการณ์ไปนำใช้ก่อเหตุ
นอกจากนี้ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ.เตรียมแถลงข่าววันที่11ก.พ.ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.)ถ.ราชดำเนินในเรื่องกฎระเบียบต่างๆของกองทัพบกที่ผู้บังคับบัญชาเคยสั่งการไปให้ดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาและพร้อมชี้แจงในทุกเรื่องที่สื่อมวลชนจะสอบถามด้วย
ผบ.ตร.แจ้งขอบคุณ ตร.ทุกนาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวิทยุในราชการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ด่วนที่สุด จากพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2563 ระบุตามที่เมื่อวันที่ 8-9 กุมภาพันธ์ 2563 ได้เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงผู้บริสุทธิ์ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก เหตุเกิดที่จังหวัดนครราชสีมานั้นโดยทันทีที่ทราบเหตุ ข้าราชการตำรวจที่เกี่ยวข้องทุกนายทุกระดับชั้นได้ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ ด้วยความกล้าหาญ เสียสละ อุทิศตน ไม่หวั่นเกรงต่อภยันตราย แม้ต้องแลกด้วยเลือดเนื้อและชีวิต เพื่อปกป้องประชาชนและสังคม การกระทำดังกล่าวสมกับการได้ทำหน้าที่”ผู้พิทักษ์สันติราษภูร์” อย่งแท้จริง จึงขอขอบคุณผู้บังคับบัญชาและข้าราชการตำรวจทุกนายมา ณ โอกาสนี้
ภายในวัดป่ายังผวาเหตุกราดยิง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศภายในวัดป่าศรัทธารวม ต.หัวทะเล อ.เมือง จ.นครราชสีมาเป็นจุดหนึ่งที่เกิดเหตุกราดยิงตำรวจและประชาชนเสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ปรากฎว่าทุกคนยังหวาดกลัวรู้สึกผวากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจุดนี้ มีผู้เสียชีวิต 9 ศพจากจำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ 30 ศพ
เชื่อมั่น’บิ๊กแป๊ะ’/ดันนั่งรมว.มั่นคง
นอกจากนี้ ส่วนใหญ่ ร้อยละ 94.7ต้องการให้หน่วยงานความมั่นคงยกระดับป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำ ร้อยละ 5.3ไม่ต้องการ และส่วนใหญ่หรือร้อยละ 87.1 ต้องการได้ยินข่าวอื่นๆที่ดี เสริมสร้างความสุขคนไทย ที่น่าสนใจคือเมื่อสอบถามถึงความเชื่อมั่นต่อ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ดูแลความปลอดภัยของประชาชน ส่วนใหญ่ ร้อยละ 92.9 เชื่อมั่นถึงเชื่อมั่นมากที่สุด มีเพียง ร้อยละ7.1 เชื่อมั่นน้อยที่สุด นอกจากนี้พบว่า มีความคิดเห็นสนับสนุน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา เป็น รัฐมนตรีคุมความมั่นคงหลังเกษียณอายุราชการ ส่วนใหญ่ ร้อยละ 83.7 เห็นด้วยถึงเห็นด้วยอย่างยิ่ง ส่วนร้อยละ16.3ไม่เห็นด้วย
‘ร.10-ราชินี’ทรงเสียพระราชหฤทัย
ต่อมา เวลา18.00น.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว. กลาโหม ได้แถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงแสดงความเสียพระราชหฤทัย ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ จ.นครราชสีมา เมื่อวันเสาร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2563 และพระราชทานกำลังใจให้แก่ครอบครัวผู้สูญเสียและเจ้าหน้าที่ทุกคน พร้อมทั้ง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานรับศพผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ดังกล่าวไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ และพระราชทานพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมและพระราชทานเพลิงศพเป็นกรณีพิเศษ
ทรงรับสั่งให้รบ.ช่วยเหลือโดยเร็ว
อีกทั้ง ยังโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้องคมนตรีและข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ จากสำนักพระราชวัง และหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์เป็นผู้แทนพระองค์ไปเยี่ยมเยียนผู้ได้รับบาดเจ็บและครอบครัวผู้สูญเสียทุกราย ตลอดจนการจัดตั้งโรงครัวพระราชทานเพื่อสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่ในการพิสูจน์หลักฐานและทำความสะอาดสถานที่ให้เรียบร้อยจนกว่าจะจบภารกิจ
พร้อมกันนี้ทรงรับสั่งให้รัฐบาลดำเนินการให้ความช่วยเหลือประชาชนและเจ้าหน้าที่ด้วยความรวดเร็ว นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ที่ทรงมีพระเมตตาต่อพสกนิกรชาวไทยทุกคน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี