บังคับโอนที่ดินสปก.
สปก.ขีดเส้นปารีณา
12กุมภาพันธ์ต้องจบ
ไม่ใช่แจ้งในกระดาษ
“ปารีณา” ส่งมอบพื้นที่ฟาร์มไก่ เขาสนฟาร์ม 682 ไร่ คืนส.ป.ก.ภายใน 12 กุมภาพันธ์ ชี้ที่ผ่านมาทำยึกยักคืนแต่ในกระดาษ ขู่ไม่ส่งมอบฟันข้อหาบุกรุกที่ดินรัฐ
เมื่อวันที่ 11กุมภาพันธ์ นายสุริยน พัชรครุกานนท์ รองเลขาธิการสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม(ส.ป.ก.)ได้รายงานผู้บริหารระดับสูงกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ถึงความคืบหน้าการยึดคืนที่ดินน.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ถือครองที่ดินส.ป.ก.กว่า682ไร่ ทำฟาร์มไก่ เขาสนฟาร์ม ต.รางบัว อ.บางบึง จ.ราชบุรี โดยส.ป.ก.มีคำสั่งให้ น.ส.ปารีณา ส่งมอบพื้นที่โดยเด็ดขาดภายในวันที่ 12 ก.พ.นี้ มิใช่มอบให้แต่กระดาษ หากไม่ดำเนินการ ส.ป.ก.จะดำเนินคดี ตามกฎหมายข้อหาบุกรุกที่ดินของรัฐ โดยอาศัยกฎหมายที่ดิน ตามมาตรา9และมาตรา108ทวิและส่วนแปลงที่ดินอยู่ในเขตป่าไม้ ให้กรมป่าไม้ดำเนินการตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484
ทั้งนี้ คำสั่งดังกล่าวได้เกิดขึ้นมาภายหลังจาก นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กำกับฝ่ายกฏหมายของรัฐบาล ได้เรียก เลขาธิการสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม(ส.ป.ก.) อธิบดีกรมป่าไม้ และสำนักงานกฤษฏีกา ไปหารือพร้อมกันเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และสั่งการให้แต่ละหน่วยงานกลับไปบังคับใช้กฏหมายของตัวเอง ดำเนินกับผู้บุกรุกถือครองที่ดินของรัฐทุกกรณี ในมาตรฐานเดียวกันไม่มีการเลือกปฏิบัติ
ขณะที่ นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ เปิดเผยว่า วันที่ 12ก.พ. นายธวัชชัย ลัดกลูด ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 6(อุดรธานี) กรมป่าไม้ ในฐานะประธานคณะทำงานตรวจสอบที่ดิน น.ส. ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพปชร.จะเดินทางไปที่เกิดเหตุเพื่อชี้จุดเกิดเหตุที่ น.ส.ปารีณา บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี หมู่ 6 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี จำนวน 46 ไร่เศษ พร้อมกับตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(บก.ปทส.) และจะไปตรวจสอบพื้นที่ สปก.อีก 682 ไร่ที่อยู่ใกล้เคียงกันด้วย โดยตนไม่ได้กำชับอะไรหรือสั่งการเป็นพิเศษกับนายธวัชชัย เพราะเป็นกระบวนการดำเนินคดีตามปกติอยู่แล้ว ผิดก็ว่ากันไปตามผิด กรมป่าไม้ ยินดีให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเต็มที่
อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวต่อว่า ส่วนผลการตีความของคณะกรรมการกฤษฎีกา ต้องรอก่อน ผลยังไม่ออกมาอย่างเป็นทางการ แต่ทราบว่าเสร็จแล้ว กรมป่าไม้ได้ทำหนังสือประสานไปแล้วน่าจะทราบผลในวันที่ 12 ก.พ.นี้ หากมีผลการตีความออกมาอย่างไรก็พร้อมจะขานรับ ซึ่งขณะนี้ให้รอผลก่อนว่าจะชี้ให้หน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง ดำเนินการหรือดำเนินคดี แต่จริง ๆ ต้องการให้ร่วมทั้ง 2 หน่วยงาน คือ กรมป่าไม้ และ ส.ป.ก. อย่างไรก็ตาม กรมป่าไม้ทำการบ้านมาแล้ว เพราะต้อง เตรียมเอกสารและข้อมูลต่าง ๆ ไว้ โดยวันที่ 12 ก.พ.นี้ คณะทำงานฯ กรมป่าไม้จะลงพื้นที่ร่วมกับพนักงานสอบสวน และมีการประสานเก็บข้อมูลเชื่อมกัน และ หากมีการตีความออกมาแล้ว ทั้งกรมป่าไม้ และ ส.ป.ก. พร้อมทำงานอยู่แล้ว
นายอรรถพล กล่าวอีกว่า ส่วนการดำเนินคดีที่ดินของนายทวี ไกรคุปต์ ในพื้นที่ หมู่ 9 ต.ท่าเคย อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ที่มีความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ และ พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ หลังจากตรวจสอบพบว่านายทวี บุกรุกพื้นที่รัฐ 1,000 กว่าไร่ แบ่งเป็นพื้นที่ สปก.จำนวน 600 กว่าไร่ และพื้นที่ในความรับผิดชอบของกรมป่าไม้ คือ พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ จำนวน 17 ไร่ และป่าตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 จำนวน 375 ไร่ นั้น ขณะนี้ ยังไม่มีการแจ้งความนายทวี เพราะในช่วงระหว่างการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ ไม่พบตัวผู้กระทำความผิด ดังนั้น ต้องสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดให้ได้ก่อน จึงต้องมีการรวบรวมพยานหลักฐานให้พนักงานสอบสวนสอบสวนคือตำรวจภูธรสวนผึ้ง ว่า ที่ดินดังกล่าวเป็นของใครและใครบุกรุกป่าสงวนฯ และพื้นที่ป่าไม้ จึงจะแจ้งความเอาผิดได้
ด้าน นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต่อต้านคอร์รัปชัน โพสต์เฟซบุ๊ก Veera Somkwamkid ระบุว่า พรุ่งนี้วันพุธที่ 12 ก.พ. 2563 เวลา 10.00 น. นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน (คปต.) จะเดินทางไปพบพนักงานสอบสวน บก.ปทส. ที่ อบต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ตามที่ได้รับแจ้งจากพนักงานสอบสวน บก.ปทส. เพื่อขอให้ไปร่วมตรวจสอบที่ดินของปารีณา อย่างละเอียด โดยมีเจ้าหน้าป่าไม้และเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.เข้าร่วมตรวจสอบที่ดินที่เกิดเหตุในครั้งนี้ด้วย ปารีณา ใกล้คุก เข้าไปทุกทีแล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี