สภาวุ่นกันอีกรอบ มาตรา 6 องค์ประชุมไม่ครบหาย8เสียง ส.ส.หลายรายหาทางออก “ปธ.ชวน” ชี้ขาดให้ลงมติใหม่หมดทุกมาตรา
เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2563 ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่พักประชุมไปนานกว่า 1 ชั่วโมง ปรากฏว่า ที่ประชุมยังไม่สามารถกลับมาเปิดประชุมได้ เนื่องจากต้องไปหารือถึงปัญหาการลงมติมาตรา6 งบกลางวงเงิน 518,770,918,000 บาท ที่อาจเกิดข้อผิดพลาด มีองค์ประชุมไม่ครบระหว่างการโหวตลงมติ เนื่องจากตอนโหวตลงมติเห็นชอบในมาตราดังกล่าวด้วยคะแนนเสียง 237 ต่อ0 นั้น มีจำนวนผู้อยู่ในห้องประชุมแค่ 244 คน ถือว่าไม่ครบองค์ประชุม จนนายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ต้องทักท้วงกลางที่ประชุม แต่นายชวนยืนยันว่า ดำเนินการถูกต้องแล้ว และให้ดำเนินการประชุมต่อไป ทั้งนี้ที่ประชุมใช้เวลาหารือแก้ปัญหาดังกล่าวเป็นเวลา 1.30 ชั่วโมง จึงกลับมาประชุมใหม่ได้
ต่อมาเวลา 14.15 น. ที่ประชุมกลับมาเปิดประชุมใหม่ นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ขอหารือว่า มีข้อเคลือบแคลงเรื่องการโหวตมาตรา 6 ที่มีปัญหาเรื่ององค์ประชุมครบถ้วนหรือไม่ เนื่องจากตอนเวลา 11.17 น. ได้มีการเช็คองค์ประชุมก่อนลงมติโหวตพบว่า มีองค์ประชุม 253 เสียงถือว่า ครบองค์ประชุม แต่ต่อมาเวลา 11.18 น. ในตอนโหวตลงมติมาตรา 6 ที่ห่างกันแค่ 1นาที ปรากฏว่า มีองค์ประชุมเหลือแค่ 245 เสียง หายไป 8 เสียง ซึ่งได้สอบถามทั้ง 8คนแล้ว ยืนยันว่า อยู่ในห้องประชุมครบโดยตลอด จึงเป็นไปได้อาจเกิดข้อผิดพลาดได้ใน 3 ประการได้แก่ 1.ปัญหาเครื่องลงคะแนนที่กดบัตรแล้ว คะแนนไม่ขึ้น 2 ส.ส.เสียบบัตรลงคะแนนผิด 3.เสียบบัตรแสดงตนเป็นองค์ประชุมแล้ว แต่ลืมกดปุ่มตอนลงมติ ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะลืมกดพร้อมกัน 8คน ทั้งนี้ได้คุยกับหลายคนแล้ว เพื่อให้การดำเนินการถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ จึงขอหารือให้โหวตลงมติกันใหม่ตั้งแต่มาตรา 6เป็นต้นไป จะได้ไม่มีใครไปยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยอีก ถ้าไปเริ่มโหวตตั้งแต่มาตรา6 ใหม่ คงไม่ทำให้เกิดความล่าช้า
ขณะที่นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ชี้แจงว่า การแสดงตนเป็นองค์ประชุมในทุกมาตรามีเสียงเกิน 249 เสียงมาตลอด แต่ความผิดพลาดในมาตรา 6 ที่ตอนแสดงตนเป็นองค์ประชุม เมื่อเวลา 11.17 น. มีผู้แสดงตนเป็นองค์ประชุม 253 เสียง แต่ตอนลงมติมาตรา 6 เวลา 11.18 น. กลับมีองค์ประชุมหายไป 8 คน จึงอาจมีความผิดพลาด 3ประการ ทั้งความผิดพลาดเรื่องเครื่องลงคะแนนอิเล็กทรอนิกส์ เรื่องการเสียบบัตรผิดพลาด และการหลงลืมในการเสียบบัตร อย่างไรก็ตามสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรยืนยันว่า การแสดงตนเป็นองค์ประชุมครบถ้วนมาตลอด
ขณะเดียวกัน ส.ส.8 คน ที่มีชื่อหายไประหว่างการโหวตลงมติมาตรา 6 อาทิ นายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติ ไทยพัฒนา นายธีรภัทร พริ้งศุลกะ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์, นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ต่างยืนยันว่า ได้อยู่ในห้องประชุมและได้ร่วมการแสดงตนเป็นองค์ประชุม และโหวตลงมติด้วย
จากนั้นนายชวนได้ขอความเห็นจากสมาชิกว่า ควรจะย้อนกลับไปลงมติใหม่ตั้งแต่มาตรา6 เป็นต้นมาหรือไม่ เพื่อมิให้ใครไปยื่นร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งสมาชิกได้แสดงความเห็นอย่างกว้างขวาง อาทิ นายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ และนายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย เสนอให้โหวตใหม่เฉพาะมาตรา6 ขณะที่นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ได้ยกคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญในอดีต ที่เคยวินิจฉัยให้ร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ 7ฉบับ ช่วงปี2551 ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ เนื่องจากมีองค์ประชุมไม่ครบระหว่างลงมติรายมาตรา ดังนั้นจึงไม่ต้องไปหาสาเหตุว่า ความผิดพลาดเกิดจากอะไร แต่ต้องไปแก้ไขให้ถูกต้องตามที่ศาลรัฐธรรมนูญเสนอให้แก้ไข จึงอยากให้เริ่มโหวตใหม่ตั้งแต่มาตรา 1ชื่อร่างพ.ร.บ.เป็นต้นมา เพื่อความปลอดภัย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งนี้หลังจากที่ประชุมได้ถกเถียงกันอย่างกว้างขวางเสียเวลาไปร่วม 45 นาที นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร จึงเสนอความเห็นให้ไปโหวตใหม่ทั้งหมด ตั้งแต่มาตรา 1 ซึ่งนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้านก็เห็นด้วยกับแนวทางของนายชวน ในที่สุดที่ประชุมจึงเห็นพ้องต้องกันให้ไปเริ่มโหวตลงมติใหม่ตั้งแต่ มาตรา1 ชื่อร่างพ.ร.บ.เป็นต้นมา โดยเริ่มโหวตใหม่ในเวลา 15.00 น. ซึ่งนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตกมธ.เสียงข้างน้อย ได้ขอถอนการอภิปรายที่สงวนความเห็นไว้ตั้งแต่ มาตรา1-31 เพื่อให้การประชุมเป็นไปด้วยความราบรื่นและรวดเร็วยิ่งขึ้น ทำให้ส.ส.ในห้องประชุมพากันปรบมือแสดงความพอใจ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี