1.คราวที่แล้วเก็บข้อมูลมาบอกกล่าวเล่าสู่กัน กรณีการกันเป็นพยานในคดีวินัยของคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน(ก.พ.) ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 ประกอบ
กฎก.พ.ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการให้บำเหน็จความชอบ การกันเป็นพยาน การลดโทษ และการให้ความคุ้มครองพยาน พ.ศ.2551 โดยกล่าวถึงการกันเป็นพยานและการลดโทษ คดีวินัยโดยไม่ได้พูดถึงการยกเว้นการดำเนินคดีวินัยกรณีมีส่วนร่วมกระทำผิดวินัยแต่อย่างใด
2.คราวนี้จะขอหยิบเรื่องการกันเป็นพยานในส่วนของการดำเนินการของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) มาบอกเล่าสู่กันฟังจะได้ เปรียบเทียบกันได้เป็นคู่ขนานกันไปครับ
3.ในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 103/6 กำหนดไว้โดยสรุปว่าบุคคลหรือผู้ถูกกล่าวหารายใดซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำความผิดกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งเป็นผู้ถูกกล่าวหารายอื่น หากได้ให้ถ้อยคำหรือแจ้งเบาะแสหรือข้อมูลอันเป็นสาระสำคัญในการที่จะใช้เป็นพยานหลักฐานในการวินิจฉัยชี้ข้อมูลการกระทำผิดของเจ้าหน้าที่ของรัฐรายอื่นนั้นและคณะกรรมการป.ป.ช.เห็นสมควรจะกันผู้นั้นไว้เป็นพยานโดยไม่ดำเนินคดีก็ได้ (เฉพาะคดีอาญาใช่ไหมครับ) ทั้งนี้ตามหลักเกณฑ์วิธีการและเงื่อนไขที่คณะกรรมการป.ป.ช.ประกาศกำหนด
4.ในประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเรื่องหลักเกณฑ์วิธีการและเงื่อนไขในการกันบุคคลหรือผู้ถูกกล่าวหาไว้เป็นพยานโดยไม่ดำเนินคดี พ.ศ.2554 ข้อ 4 ได้กำหนดลักษณะของบุคคลหรือผู้ถูกกล่าวหาที่ได้รับการกันเป็นพยานไว้ ประกอบกับข้อ 10 วรรคหนึ่งประกาศฉบับนี้ กำหนดว่าในกรณีที่คณะกรรมการป.ป.ช.เห็นว่ามีเหตุอันสมควรที่จะกันบุคคลหรือผู้ถูกกล่าวหารายใดไว้เป็นพยาน ให้คณะกรรมการป.ป.ช.มีมติให้กันบุคคลหรือผู้ถูกกล่าวหานั้นไว้เป็นพยานในคดีต่อไป โดยมติดังกล่าวจะต้องระบุเหตุผลแห่งการพิจารณาไว้ด้วยว่าสมควรจะกันบุคคลหรือผู้ถูกกล่าวหารายดังกล่าวนั้นไว้เป็นพยานด้วยเหตุใด
5.จะเห็นได้ว่าทั้งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ.2542 และประกาศของคณะกรรมการป.ป.ช.ดังกล่าวข้างต้นกำหนดว่าการกันเป็นพยานนั้นเฉพาะเป็นพยานในคดี (อาญา) เท่านั้นโดยมิได้กล่าวอ้างไปถึงการดำเนินการทางวินัยแต่ประการใดเลย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี