บิ๊กแดงสะบัดปากกาอีกยก
เซ็นเด้งพันเอก
เซ่นคดีกราดยิงที่โคราช
แม่ทัพภาค2เก้าอี้ยังเหนียว
‘บิ๊กตู่-บิ๊กป๊อก’แอ่นอกรับ!
ยังพักอาศัยอยู่ในค่ายทหาร
แต่พร้อมออกตามระเบียบ
ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเรียกประชุมผู้นำเหล่าทัพ จัดระเบียบสวัสดิการทหารตามระเบียบสำนักนายกฯด้าน“บิ๊กแดง” ผบ.ทบ.เซ็นย้ายผู้พัน ต่อหน้าศาลพระเจ้าตากสิน ลั่นใครทำอะไรไว้ ต้องได้รับผล ยันให้ความเป็นธรรม มทภ.2 ในขณะที่“บิ๊กตู่-บิ๊กป๊อก”ยอมรับยังอาศัยอยู่ในค่ายทหาร เพราะมีเหตุจำเป็นเรื่อง การรักษาความปลอดภัย แต่อนาคตไปอยู่บ้านหลังใหม่ของตัวเองอยู่แล้ว
เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ที่กองบัญชาการกองทัพเรือ โดยมี พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) เป็นประธาน มี พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ พล.อ.อ.มานัต วงศ์วาท ผู้บัญชาการทหารอากาศ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และพล.อ.ณัฐ อิทรเจริญ ปลัดกระทรวงกลาโหม เข้าร่วมประชุม
ทั้งนี้ที่ประชุมได้หารือเพื่อกำหนดแนวทางปฏิบัติ เรื่องทหารเกษียณอายุราชการไปแล้ว จะต้องออกจากบ้านพักหลวง ส่วนสวัสดิการต่างๆ ที่อยู่ในความดูแลของเหล่าทัพ หากเข้าข่ายเป็นกิจการเชิงธุรกิจ จะต้องทำให้ถูกต้องตามระเบียบกระทรวงการคลัง
ปฎิบัติตามระเรียบก.คลัง
โดยก่อนการประชุม พล.อ.พรพิพัฒน์ กล่าวว่า เรื่องกิจการสวัสดิการ ทุกอย่างดำเนินการตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี พ.ศ. 2547 ว่าด้วยการจัดระเบียบภายในส่วนราชการ และสามารถยืนยันได้ว่า ไม่ได้ปฏิบัตินอกกรอบ หรือปฏิบัติอย่างไม่มีหลักเกณฑ์ สวัสดิการใดที่มีเอกชนหรือบุคคลภายนอกเข้ามาใช้ประโยชน์เป็นจำนวนมากในเชิงธุรกิจ กองทัพก็มีความยินดีที่จะให้เป็นไปตามระเบียบของกระทรวงการคลัง โดยให้กรมธนารักษ์เข้ามากำกับดูแล
“ที่ผ่านมาแต่ละเหล่าทัพ รวมถึง กองบัญชสการทหารสูงสุด ก็มีการติดต่อทำข้อตกลงกับกรมธนารักษ์อยู่แล้ว แต่ในส่วนของกองทัพบก อาจจะมีกิจการในลักษณะนี้เป็นจำนวนมาก จึงต้องเป็นการทำข้อตกลงความร่วมมือ (MOU)” พล.อ.พรพิพัฒน์ กล่าว ส่วนเรื่องข้าราชการในกองทัพที่เกษียณอายุราชการแล้ว ยังคงพักอาศัยอยู่ในบ้านพักของข้าราชการนั้น พล.อ.พรพิพัฒน์ กล่าวว่า หลักเกณฑ์โดยทั่วไป ไม่ใช่เฉพาะเพียงทหาร บ้านพักของทุกส่วนราชการ เมื่อเกษียณอายุราชการแล้วต้องส่งคืน ซึ่งมีบางกรณียังไม่พร้อมที่จะย้ายออกในทันที กองทัพก็มีการอนุโลมเป็นบางกรณี และไม่มีเฉพาะนายทหารชั้นผู้ใหญ่ แต่ยังรวมไปถึงนายทหารชั้นประทวนด้วย ขอย้ำว่าต้องพิจารณาเป็นกรณีไป พิจารณาตามความเหมาะสม เพราะบ้านพักถือเป็นสวัสดิการ 1 ที่ทำให้กำลังพลมีความเป็นอยู่ที่สุขสบาย ต้องยอมรับว่าสังคมไทยเป็นสังคมแห่งความเมตตา เมื่อถามถึง กรณีของ พล.ท.พงศกร รอดชมภู ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ รวมถึง กรณีที่จองสิทธิ์เข้าพัก แต่ไปดำเนินการเปิดให้คนนอกเข้ามาเช่าต่อ พล.อ.พรพิพัฒน์ กล่าวว่า ไม่ขอให้ความเห็น เพราะทราบว่าคืนบ้านพักแล้วและเป็นคนละประเด็นกัน
‘บิ๊กแดง’เซ็นย้าย’พันเอก’อีกรอบ
ด้าน พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ตนกำลังเซ็นคำสั่งปรับย้ายนายทหารระดับพันเอก และเซ็นย้ายจริง ไม่ได้พูดเล่น เพราะเซ็นต่อหน้าศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ใครทำอะไรไว้ ต้องได้รับผล และศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชมีความศักดิ์สิทธิ โดยเป็นเรื่องเกี่ยวข้องในหลายส่วน ที่กำลังพลร้องเรียนมา โดยเฉพาะในส่วนของพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 หลังเกิดเหตุรุนแรง เมื่อถามว่า ในส่วน พล.ท.ธัญญา เกียรติสาร แม่ทัพภาคที่ 2 ถูกปรับย้ายด้วยหรือไม่ พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า ต้องให้ความเป็นธรรม เป็นกรณีไป ไม่ใช่เลือดเข้าตา ก็จะสั่งย้ายหมด ซึ่งเจ้าหน้าที่ทุกคนก็มีความตื่นตัวในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
ให้เอกชนดูแลศูนย์ร้องเรียน
เมื่อถามว่า การตั้งศูนย์ร้องเรียนสายตรงมายัง ผบ.ทบ.จะดำเนินการอย่างไร พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า เราให้เอาท์ซอร์ซ ดำเนินการเป็นเอกชนทั้งหมด เพื่อไม่ให้ความลับรั่วไหล ส่วนการพิจารณาว่า ข้อร้องเรียนไหนเป็นเรื่องจริง หรือใส่ร้าย ตนในฐานะผู้บังคับบัญชา ฟังดูก็รู้แล้วว่าอะไรเท็จ อะไรจริงและวันที่ 19ก.พ.ตนจะให้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) แถลงรายละเอียด ส่วนการลงนามบันทึกข้อตกลง (เอ็มโอยู) ในโครงการจัดสวัสดิการในเชิงธุรกิจของกองทัพบก ร่วมกับกรมธนารักษ์ กว่า 40 รายการนั้น ทุกอย่างดำเนินการตามลำดับ ไม่ได้ขีดเส้นหรือกำหนดกรอบเวลาแต่อย่างใด เมื่อถามว่า นักกฎหมายแนะนำเครือญาตผู้เสียหาย ฟ้องร้องกองทัพ และ ผบ.ทบ.พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า การก่อเหตุเป็นเรื่องส่วนบุคคล ไม่ใช่คำสั่งกองทัพ หากทหารมีเรื่องกับทหาร ต้องขึ้นศาลทหาร แต่ถ้าหาก ทหารมีเรื่องกับพลเรือน ต้องขึ้นศาลพลเรือน ต้องแยกให้ออก
ป๊อกพร้อมย้ายบ้านพ้นค่ายทหาร
วันเดียวกันพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ในฐานะอดีตผู้บัญชาการทหารบก กล่าวถึงระเบียบการพักอาศัยในบ้านพักสวัสดิการทหารว่า ไม่ว่าจะมีกฎระเบียบออกมาอย่างไรก็ต้องปฏิบัติตาม ตนก็เตรียมบ้านไว้แล้ว แต่เพราะความสะดวกจึงยังอยู่ ไม่ได้มีจุดประสงค์ใด เดิมทีตนก็ไม่ค่อยได้อยู่บ้านพักสวัสดิการ แต่ตอนทำงานเดินทางไม่ไหว เพราะไกล แต่ถ้ามีกฎระเบียบอย่างไรก็พร้อมปฏิบัติ
เมื่อถามว่า กฎระเบียบที่ว่านี้ต้องเขียนให้ชัดเจนขึ้นมาหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ของเดิมมีอยู่แล้วว่าจะอนุโลมให้อยู่นานเท่าใด เป็นระเบียบภายใน และจากการเป็นผู้บังคับบัญชามา พบว่าบางคนเกษียณแล้วเขายังไม่มีบ้านของตัวเอง เราก็อนุโลมจนเขาหาที่อยู่ได้ บางทีเกิน 6 เดือน แต่ที่ให้ได้เพราะบ้านพักว่างก็ให้เขาอยู่ดูแล แต่ถ้าบ้านพักเต็มก็ต้องออก
“ผมเคยมีนายทหารแก่ เขาซื่อสัตย์และไม่ได้เตรียมตัว เวลาเกษียณไม่มีบ้าน ก็อนุโลมให้อยู่ ลูกเด็กเล็กแดงก็ยังเรียนหนังสือ พอถึงช่วงหนึ่งก็ให้ออกโดยจะดูตามความเหมาะสม” พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว
บิ๊กตู่พร้อมกลับไปอยู่บ้านตัวเอง
ด้านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าว ถึงกรณีในฐานะเป็นอดีตผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) เห็นด้วยหรือไม่กับการปฏิรูปให้กรมธนารักษ์เข้ามาดูแลการจัดสวัสดิการในเชิงธุรกิจของกองทัพบก ว่า จริงๆแล้วเรื่องนี้มีกฎระเบียบอยู่ทุกตัว ดังนั้นการทำงานเพื่อให้เกิดความชัดเจนเกิดขึ้นตนก็ไม่ขัดข้องในการให้กรมธนารักษ์เข้ามาดูแล โดยมาดูในเรื่องการบริหารต่างๆ ซึ่งที่ผ่านมาตนก็เคยเป็นผู้บังคับหน่วยมาก่อนก็เห็นว่ามีการพยายามดำเนินการมาโดยตลอด เพียงแต่มีใครบางคนที่ไม่ทำตามนั้น เมื่อพบปัญหาก็ต้องให้มีการตรวจสอบ ให้เกิดความชัดเจนเกิดขึ้นเกี่ยวกับเรื่องสวัสดิการของกองทัพบก
เมื่อถามถึงกรณีบ้านพักของนายกฯ แม้ว่าจะอยู่ในข่ายได้รับการยกเว้น แต่ก็ถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการใช้บ้านพักทหาร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “เรื่องบ้านพักของผม ผมคิดว่าไม่ตอบคำถามนี้ผมก็ทำงานรับใช้ชาติมาตลอดชีวิต กฎระเบียบจะว่ายังไงก็ตามวันนี้ ผมก็ยังทำงานอยู่ ปัญหาของผมก็คือเป็นนายกฯ มีปัญหาเรื่องการ รปภ. จึงต้องมีสถานที่ที่เหมาะสมในเรื่องการรปภ.ในฐานะเป็นผู้นำประเทศ และเรื่องอื่นๆด้วยหลายๆอย่าง แต่ผมก็เตรียมการไปอยู่บ้านของผมอยู่แล้ว”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี