‘เกษียร’ชำแหละสาเหตุ 3 ข้อ ทำไทยกระทบหนัก‘โควิด-19’
19 กุมภาพันธ์ 2563 ศ.ดร.เกษียร เตชะพีระ อาจารย์สาขาวิชาการเมืองการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เขียนบทความ “ความเสียดุล 3 ประการในความสัมพันธ์ไทยกับจีนที่ผ่านมา” เผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัว โดยระบุว่า การที่ผู้มีอำนาจของไทยดำเนินนโยบายเน้นใกล้ชิดกับจีนมากเกินไป ทำให้เกิดผลกระทบรุนแรงต่อไทยเองโดยเฉพาะเมื่อเกิดการระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 จึงควรปรับนโยบายเพื่อให้เกิดความสมดุลมากขึ้น ดังนี้
“ในฐานะประเทศเพื่อนบ้านใกล้เรือนเคียงในภูมิภาคประชิดติดกันและในฐานะที่จีนเป็นอภิมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอันดับสองของโลก การดำรงความสัมพันธ์กับจีนเป็นสิ่งที่ประเทศขนาดกลางอย่างไทยมิอาจหลีกเลี่ยงได้ และหากดำเนินการโดยรู้เท่าทัน ชาญฉลาดและมองการณ์ไกล ถือผลประโยชน์ของทุกภาคส่วนในชาติโดยรวมเป็นที่ตั้งอย่างสมดุล ก็อาจอำนวยประโยชน์แก่ประเทศไทยในด้านต่าง ๆ เป็นอเนกประการ”
“อย่างไรก็ตาม ในหลายปีหลังนี้ที่ประเทศไทยตกอยู่ภายใต้การปกครองของระบอบเผด็จการทหารและเผด็จการประชาธิปไตยในปัจจุบัน มีความโน้มเอียงผิด ๆ ที่เกิดขึ้นในการดำเนินนโยบายต่างประเทศของไทยต่อจีน จนมาปรากฏผลเสียหายหนักหน่วงร้ายแรงชัดเจนในวิกฤตโรคระบาด Covid-19 ปัจจุบัน ความโน้มเอียงดังกล่าวนำไปสู่การเสียดุล 3 ประการที่ผมเห็นว่าพึงปรับถ่วงแก้ไขโดยเร่งด่วน”
1) การเสียดุลในนโยบายต่างประเทศโดยรวมที่เน้นน้ำหนักจีนมากเกินไป จนไปลดทอนออกห่างจากมิตรประเทศอื่นที่สำคัญและมีศักยภาพสูงในภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ เอเชียใต้และโลกตะวันตก ทั้งในแง่เศรษฐกิจ การลงทุน การท่องเที่ยว ตลาดการค้า
2) การเสียดุลที่เน้นผลประโยชน์ด้านเศรษฐกิจและความมั่นคงกับจีนมากเกินไป จนไปลดทอนความสำคัญของการจัดวางระยะห่างด้านการเมืองให้เหมาะสม โดยเฉพาะระบอบและนโยบายที่ไทยไม่ควรลอกเลียนจีนในแง่การรวมศูนย์อำนาจรัฐ สิทธิมนุษยชน เสรีประชาธิปไตยและชนส่วนน้อย เนื่องจากระบบสถาบันการปกครอง ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมแตกต่างกัน
3) การเสียดุลที่เน้นแวดวงผู้กำหนดนโยบายและผู้มีส่วนได้เสียในประเทศของกลุ่มทุนใหญ่และราชการ แต่ละเลยภาคประชาสังคมโดยเฉพาะประชาชนรากหญ้าและผู้ประกอบการรายย่อยที่อาจได้รับผลกระทบจากนโยบายของไทยที่มุ่งเอื้อเฟื้อต่อจีนในบางด้าน
ในสภาพความเป็นจริงที่กระแสโลกาภิวัตน์ที่กระชับแน่นยิ่งขึ้นมาพร้อมกับความเสี่ยงทั้งภัยพิบัติธรรมชาติ (เช่น โรคระบาด สึนามิฟูกูชิมา) และภัยพิบัติที่มนุษย์ก่อขึ้น (สงครามการค้าของทรัมป์ต่อจีน, เบร็กซิท) ที่จะกระทบต่อประเทศไทยทางด้านเศรษฐกิจการค้า หัตถอุตสาหกรรมผ่านสายโซ่อุปทาน/สายโซ่มูลค่าโลก และสาธารณสุขผ่านพาหะโรคระบาดจากนักเดินทางและนักท่องเที่ยว การปรับแนวนโยบายไทยต่อจีนให้กลับมาได้ดุลยิ่งขึ้นเป็นสิ่งจำเป็นทั้งในระยะสั้นและยาว”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี