ทอ.ยันไร้ปัญหา
โฆษกกลาโหมโต้แทน‘3ป.’
ต้องจ่ายค่าน้ำ-ค่าไฟฟ้าเอง
ทร.สานต่อบ้านสวัสดิการ
ผู้บัญชาการทหารอากาศ ยันทัพฟ้าไร้ปัญหาทหารเกษียณยึดบ้านหลวง เผยกติกา 7 วัน ก่อนเกษียณ ต้องย้ายออก แจงสวัสดิการบ้านพัก ให้สิทธิกำลังพลจบใหม่ เพราะรายได้น้อยนขณะที่โฆษกกลาโหมโต้’ศรีสุวรรณ’ ไม่มีกฎหมายข้อไหน ระบุ3ป.-100อดีตทหาร พักบ้านหลวงทำผิดกม.ชี้ค่าน้ำ-ไฟ ไม่ได้ให้ใช้ฟรี
เมื่อวันที่ 20กุมภาพันธ์ พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการดูแลบ้านพักทหารในส่วนของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ว่า ทุกอย่างเป็นไปในทางเดียวกันกับเหล่าทัพอื่น ซึ่งปกติแล้วเมื่อเกษียณอายุราชการแล้วก็จะออกจากบ้านพัก โดยไม่มีใครอยู่ยาว
ด้าน พล.อ.อ. มานัต วงษ์วาทย์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) เปิดเผยว่า กองทัพอากาศ ไม่มีปัญหาเรื่องทหารเกษียณไปแล้ว ยังอาศัยบ้านหลวง เนื่องจาก เมื่อใกล้เกษียณอายุราชการก่อน 7 วันทุกคนจะย้ายออกไปทันที โดย กองทัพอากาศจะใช้วิธีการให้นายทหารที่จบใหม่ จะได้สิทธิ์ในบ้านพักก่อน เนื่องจากมีรายได้น้อย และค่าใช้จ่ายแพง เมื่อเติบโตขึ้นไป พอที่จะมีรายได้ และเงินเดือนสูงขึ้นก็จะมีการส่งเสริมให้มีบ้านเป็นของตัวเอง ในลักษณะการเช่าซื้อ เมื่อบ้านสร้างเสร็จ ก็จะทยอยกันออกไป
ส่วนบ้านพักที่เหลือเป็นบ้านพักประจำตำแหน่งอย่างเดียวและเมื่อพ้นจากตำแหน่งแล้วก็ต้องย้ายออกเช่นกัน กองทัพอากาศ ไม่มีปัญหาในลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นแน่นอน เพราะเราคิดกติกาตรงนี้มาโดยตลอด และมีการปูพื้นฐานกันมายาวนานตั้งแต่ยุคก่อน ที่ได้วางระบบดังกล่าวเอาไว้ค่อนข้างเข้มแข็ง โอกาสที่จะอยู่ยาวแบบถาวรจึงไม่มีทหารอากาศจะเคารพในความคิดตรงนี้ และยึดมั่นในการปฏิบัติตรงนี้ทุกคนและทั่วหน้ากัน
จัดสวัสดิการให้ลูกทัพฟ้า
ในขณะที่ การจัดสรรที่ดินในการปลูกสร้างกองทัพอากาศนั้น เราก็มีเช่นเดียวกัน แต่เรามีระบบการจัดการที่ดีที่ดินก็ไปหามาและเข้าระบบสวัสดิการ ไม่มีเกินตัวซึ่งผู้บังคับบัญชาจะต้องไปดูว่ากำลังพลมีรายได้เท่าไรเพื่อให้พอดีกับการก่อหนี้ให้มีเงินเหลือพอมีกินและถ้าหากไม่ได้ออกนอกฐานบินก็ไม่ได้ใช้จ่ายอะไรอยู่แล้วซึ่งเรามองว่าเมื่อพอมีกินแล้วก็สามารถผ่อนที่และสร้างอนาคตได้ นี่คือหลักการของกองทัพอากาศถือเป็นวิธีการง่ายๆแต่ที่สำคัญทุกคนต้องยึดถือปฏิบัติ ที่จะต้องรักษากติกาตัวนี้ไว้จึงต้องมีวินัยในเรื่องการเงินการสร้างตัว
ทร.เผยเอกชนทิ้งงานสร้างบ้านพัก
ด้านพล.ร.ท.ประชาชาติ ศิริสวัสดิ์ รองเสนาธิการทหารเรือ ในฐานะโฆษกกองทัพเรือเปิดเผยว่า ตามที่ ได้มีการนำเสนอ ข่าวเกี่ยวกับโครงการ บ้านสวัสดิการกองทัพเรือพื้นที่สัตหีบ ระบุว่า โครงการดังกล่าวดำเนินการก่อสร้างตั้งแต่ปี พ.ศ.2551 จนถึงปัจจุบัน มีความคืบหน้าไปเพียงร้อยละ 50 เนื่องจากบริษัทผู้รับเหมาทิ้งงานเพราะขาดสภาพคล่อง หลายรายต้องกู้เงินมาต่อเติมเอง ส่งผลให้ข้าราชการกองทัพเรือที่เข้าร่วมโครงการ ได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมากว่า โครงการบ้านสวัสดิการ กองทัพเรือพื้นที่สัตหีบ ตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลพลูตาหลวง อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ซึ่งความเป็นมาของโครงการ สืบเนื่องมาจากวันที่ 11กรกฎาคม2551 กองทัพเรือได้อนุมัติให้จัดทำโครงการฯ โดยมีวัตถุประสงค์ของโครงการเพื่อให้ข้าราชการได้มีที่พักอาศัยเป็นของตนเอง ไม่ได้เป็นโครงการทางธุรกิจที่มุ่งหวังผลกำไรแต่ประการใด และยังได้จัดหาแหล่งเงินกู้อัตราดอกเบี้ยต่ำ ให้ด้วย
โดยเมื่อเริ่มต้นได้ว่าจ้างบริษัท เปรมยุดา คอนสตรัคชั่น จำกัด เป็นผู้ก่อสร้าง มีจำนวนบ้านในโครงการทั้งสิ้น 249 หลัง แต่ต่อมาบริษัทผู้รับเหมาขาดสภาพคล่อง ทำให้เกิดปัญหา ความล่าช้าในการดำเนินการก่อสร้าง คณะกรรมการดำเนินการโครงการบ้านสวัสดิการกองทัพเรือ ในพื้นที่สัตหีบ จึงได้มีหนังสือขอความร่วมมือเพื่อพิจารณาแนวทาง การแก้ปัญหางานก่อสร้างล่าช้า พร้อมทั้งลงมากำกับดูแลให้มีการจัดทำสัญญาจ้างก่อสร้างใหม่ ตลอดจนเพิ่มทางเลือกในการขอสินเชื่อโครงการฯ ระหว่างกองทัพเรือ กับธนาคารอาคารสงเคราะห์ รวมถึงอนุมัติคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาแนวทางในการจัดสร้างบ้านพักอาศัยราคาถูกและจัดหาแหล่งเงินกู้อัตราดอกเบี้ยต่ำเพื่อสร้างที่พักอาศัยให้กับข้าราชการ ในกองทัพเรือ (กบง.) ให้สอดคล้องกับโครงสร้างใหม่ของกองทัพเรือ
สั่งให้ดำเนินการแก้ไขแล้ว
พล.ร.ท.ประชาชาติ กล่าวต่อไปว่า จากปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้น กองทัพเรือมีความห่วงใยในความเดือดร้อนของข้าราชการ ที่ เข้าร่วมโครงการ จึงได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานแก้ไขปัญหาโครงการ บ้านสวัสดิการกองทัพเรือในพื้นที่สัตหีบ ขึ้นมา ดำเนินการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นมาโดยต่อเนื่อง. โดยมีเจ้ากรมส่งกำลังบำรุงทหารเรือเป็นหัวหน้าคณะทำงาน ปัจจุบันความก้าวหน้าของโครงการมีข้อมูลล่าสุดสำรวจ เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2562 มีบ้านสร้างแล้วเสร็จจำนวน 171 หลัง คิดเป็น 68.7 % คงเหลือ 78 หลังคิดเป็น 31.3 % จากการดำเนินการต่าง ๆ ดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น จะเห็นได้ว่า กองทัพเรือ ไม่ได้ปล่อยปละละเลย และพร้อมที่จะเร่งแก้ไขปัญหาต่าง ๆ มาโดยต่อเนื่อง ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับกำลังพลของกองทัพเรือในการมีที่พักอาศัยเป็นของตนเอง ที่นับว่าเป็นปัจจัยสำคัญในการดำเนินชีวิต อันจะนำมาซึ่งประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการปฏิบัติงาน และสนองนโยบายผู้บัญชาการทหารเรือ ที่มุ่งหวังให้กำลังพลของกองทัพเรือทุกนาย ปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งสะท้อนค่านิยม ของกองทัพเรือ “Seamanship”(ความเป็นชาวเรือ) ด้วยความ ซื่อสัตย์ความจงรักภักดี มีคุณธรรม จริยธรรม ความเป็นสุภาพบุรุษทหารเรือ ความเป็นผู้นำ ให้ปรากฏสู่สายตาประชาชน ภูมิภาค และประชาคมโลกเพื่อส่งมอบคุณค่าให้แก่ประชาชนและสังคมเป็น“กองทัพเรือที่ประชาชนเชื่อมั่นและภาคภูมิใจ” ตลอดไป
โฆษกกห.โต้กลับ”ศรีสุวรรณ”
พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม (กห.) กล่าวถึง นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นหนังสือร้อง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) สอบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว. กลาโหมพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดารมว. มหาดไทย และอดีตนายทหารที่เกษียณอายุราชการกว่า 100 คนที่ยังพักบ้านหลวง กระทำความผิด พรป.ปปช.2561 ม.128 ประกอบประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์การรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดโดยธรรมจรรยาของเจ้าหน้าที่รัฐ 2543 ที่บัญญัติห้ามไว้ ว่า ทั้งนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร และ พล.อ.อนุพงษ์ ตลอดจนถึง อดีตนายทหารเกษียณ ที่พักบ้านหลวง ไม่ได้ทำผิดกฎหมายแต่อย่างใด เพราะเป็นเรื่องระเบียบบ้ายพักสวัสดิการภายในหน่วยนั้นๆ ที่มีการอนุโลม ซึ่งต้องไปดูว่า เขียนไว้อย่างไร
ส่วนที่ นายศรีสุวรรณ ระบุว่า ใช้น้ำ-ไฟ ฟรี นั้น ไม่ใช่เรื่องจริง เพราะบ้านพักสวัสดิการ ไม่ว่าจะเป็น บ้านเดี่ยว ทาวเฮ้า ห้องพัก แฟต จะแยกมิเตอร์น้ำ มิเตอร์ไฟและให้กำลังพลผู้อยู่อาศัยเป็นผู้จ่าย ซึ่งปฏิบัติเช่นนี้เหมือนกันหมด ไม่ว่าจะเป็นบ้านพัก นายกฯ พล.อ.ประวิตรและ พล.อ.อนุพงษ์ ส่วนทหารบริการก็ไม่ได้ไปประจำ แต่ทำหน้าที่เป็นครั้งคราว
“ทหารเกษียณแล้ว แต่ยังพักบ้านหลวง ไม่มีกฎหมายระบุว่าทำผิด ส่วนค่าน้ำ-ค่าไฟ รับผิดชอบกันเอง ถือเป็นเรื่องสวัสดิการของหน่วย ที่มีการอนุโลม ทั้ง กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ ก็มีระเบียบบ้านพักสวัสดิการของตัวเองอยู่แล้ว เช่นเดียวกับบ้านพักครู”โฆษก กห. กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี