เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2563 ศาลรัฐธรรมนูญ ออกนั่งบัลลังค์อ่านคำวินิจฉัยในคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยเพื่อมีคำสั่งยุบพรรคอนาคตใหม่ ตามมาตรา 92 วรรรคหนึ่ง( 3) ประกอบ มาตรา 72 พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 กรณีพรรคอนาคตใหม่กู้ยืมเงินจากนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ จำนวน 191.2 ล้านบาท
ทั้งนี้ ศาลรัฐธรรมนูญ ได้วินิจฉัยว่า ตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ กฏหมายพรรคการเมือง ต้องมีมาตรการควบคุมการบริหารเพื่อให้พรรคการเมืองเป็นสถาบันของประชาชน จึงต้องพิจารณาเรื่องที่มาของทรัพย์สินที่ใช้ในพรรคการเมือง ว่ามีที่มาอย่างไร ได้มาโดยไม่ชอบด้วยกม.หรือไม่ กฏหมายจึงกำหนดไม่ให้พรรคการเมืองไปเกี่ยวข้องกับเงินบริจาคที่มิชอบ
ในประเด็นพรรคการเมืองสามารถกู้ยืมเงินได้หรือไม่ เห็นว่า การดำเนินกิจกรรม ต้องอาศัยเงินรายได้ตามที่กฏหมายกำหนดไว้ เงินส่วนใดที่นำมาทำกิจกรรม หากได้มาโดยมิชอบ ไม่เป็นไปตามกฏหมายกำหนด แม้ไม่ได้กำหนดให้กู้ยืม แต่ก็ไม่ได้รับรองให้ทำได้ เงินกู้ไม่ใช่รายได้ แต่ก็เป็นรายรับ จึงต้องทำตามที่กฏหมายเท่านั้น
เมื่อพิจารณาตาม กฏหมายพรรคการเมือง บริจาค หมายความรวมถึงการให้ประโยชน์อื่นใดด้วยการให้ประโยชน์อื่นใดแก่พรรคการเมือง เป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ การให้กู้ โดยไม่คิดไปตามปกติทางการค้า ย่อมถือว่าเป็นประโยชน์อื่นใดต่อพรรคการเมือง จึงต้องอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ ด้วยเหตุนี้ คำว่าบริจาค และ ประโยชน์อื่นใด เป็นความหมายเฉพาะในกฎหมาย เพื่อกำหนดให้พรรคการเมืองทำรายได้ให้โปร่งใส ตรวจสอบได้ เป็นประชาธิปไตยในพรรค ให้พรรคไม่เป็นเครื่องมือของใคร
ข้อเท็จจริงของผู้ถูกร้องที่ยื่นต่อผู้ร้อง พบว่า ผู้ถูกร้องมีรายได้กว่า 71 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายกว่า 72 ล้าน พบค่าใช้จ่ายสูงรายได้เพียงล้านบาท แต่พรรคอนาคตใหม่กลับทำสัญญากู้ยืมเงินจากนายธนาธร รวม 2 ฉบับ จำนวน 191.2 ล้านบาท และมีการคิดดอกเบี้ยและเบี้ยปรับที่ไม่เป็นไปตามปกติทางการค้าถือเป็นประโยชน์อื่นใด และสัญญาฉบับที่ 2 โดยที่ยังมีหนี้เงินกู้เดิมค้างอยู่ไม่เป็นไปตามปกติวิสัยของการให้กู้ยืมเงิน ซึ่งเป็นการให้ประโยชน์อื่นใดแก่พรรคอนาคตใหม่ ซึ่งรวมผลประโยชนอื่นใดจากการกู้เงิน 191.2 ล้านบาท และเงินบริจาคของนายธนาธร 8 ล้านบาทย่อมชัดแจ้งว่าเป็นการรับบริจาคเงินหรือผลประโยชน์อื่นใดโดยไม่เป็นไปตามกฎหมาย
การที่พรรคการเมืองเป็นหนี้ย่อมทำให้เกิดความได้เปรียบทางการเงินกลายเป็นผู้บงการ และครอบงำพรรคพรรค ทำให้พรรคการเมืองเป็นธุรกิจทางการเมือง เป็นการหลีกเลี่ยงการรับบริจาคเงินหรือทรัพย์สิน ผลประโยชน์อื่นใดตามมาตรา 66 จึงเป็นการฝ่าฝืนมาตราร 72 เป็นเหตุให้สั่งยุบพรรคอนาคตใหม่ ตามมาตรา 92 วรรคสอง และตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค เป็นเวลา 10 ปีและห้ามมิให้กก.บห.ไปจดพรรคขึ้นใหม่ หรือมีส่วนร่วมตั้งพรรคใหม่ 10 ปี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี