นายกฯยืนยัน “ไบโอเมทริกซ์” โปร่งใสตรวจสอบได้ โวยมีชอบพวกอ้างชื่อเท่านั้น ย้อนเกล็ดฝ่ายค้านกล่าวหาเอี่ยว 1MDB เผยมีคนหมายแดงเข้าออกไทยด้วย “บัตรอีลิทการ์ด” สมัยรัฐบาลอดีต
เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2563 ที่รัฐสภา นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 ได้ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุมสภาฯ เพื่อพิจารณาญัตติการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นวันที่ 3 โดยนายศุภชัย ได้แจ้งที่ประชุมว่าคณะกรรมการการเลือกตั้งได้รับรองผลการเลือกตั้งให้นายเพชรภูมิ อาภรณ์รัตน์ ดำรงตำแหน่งเป็นส.ส.กำแพงเพชร เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ ทำให้มีส.ส.จำนวน 488 คน องค์ประชุมสภาฯเท่ากับ 244 คน ต่อมานายเพชรภูมิได้กล่าวคำปฎิญาณตนต่อที่ประชุมสภาฯก่อนเข้ารับหน้าที่ส.ส.
รองประธานสภาฯ กล่าวอีกว่า สรุปเวลาการอภิปรายที่ได้ใช้ไปแล้วว่า 1.คณะรัฐมนตรี ได้ใช้เวลาไปแล้วจำนวน 1.17 ชั่วโมง ขณะที่ ฝ่ายค้านใช้เวลาไปแล้ว 6.24 ชั่วโมง
จากนั้นเป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน โดยนายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจพิสูจน์บุคคลโดยเทคโนโลยีbiometric (ลายนิ้วมือและภาพถ่ายใบหน้า) เป็นโครงการที่เริ่มตั้งแต่ปี 2559 มีการตั้งราคา 1,735 ล้านบาท มีการประกวดราคาครั้งแรกและกำหนดรายละเอียดว่าจะต้องมีหนังสือค้ำประกันการเสียหาย 86 ล้านบาท และบริษัทต้องมีผลงานด้านไอที 86 ล้านบาทแต่ต่อมามีการยกเลิกเพราะหาผู้รับเหมาไม่ได้ พร้อมกับมีการกำหนดทีโออาร์ใหม่และประกวดราคาใหม่ 2126 ล้านบาท มีกิจการร่วมค้าเอ็มทีเป็นผู้ชนะการประกวด โดยไม่ต้องมีวงเงินค้ำประกันและผลงาน ต่อมาลงนามสัญญาในปี 2560 และต้องส่งมอบงาน 6 งวด สิ้นสุดเดือนพ.ค.2562 และต้องเสียค่าปรับในกรณีส่งมอบงานล่าช้าวันละ 5 ล้านบาท เดือนต.ค. 2561 ตม.ได้รายงานถึงปัญหาให้ผบ.ตร.ทราบถึงปัญหาเกี่ยวกับการเชื่อมต่อกับระบบสารสนเทศตรวจคนเข้าเมืองเดิม และเกิดการส่งมอบล่าช้า ซึ่งส่งผลให้ตรวจสอบบุคคลที่เป็นภัยต่อการก่อการร้ายไม่อาจทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นายวิสาร กล่าวว่า ต่อมาสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองให้ส่วนราชการบอกเลิกสัญญากับกิจการค้าเอ็มทีภายหลังเห็นความผิดปกติตั้งแต่การยกเลิกทีโออาร์ นอกจากจะไม่ยกเลิกสัญญากลับยังไปต่อรองอีกโดยแก้ไขให้เรื่องการส่งมอบได้รับการขยายเวลาออกไปจากเดิมที่กำหนดไว้ 600 วัน อีกทั้งยังมีการแก้ไขสัญญาในสาระสำคัญอีกด้วย กล่าวคือ เดิมเครื่องตรวจใช้ของเยอรมันยี่ห้อDermalog แต่แก้ไขมาเป็นจัดซื้อยของยี่ห้อ Logitech ซึ่งราคาตามท้องตลาดประมาณ 68,000 บาทต่อหนึ่งชุด แต่กลับมีการจัดซื้อในราคาประมาณ 280,000 บาท หนึ่งในผู้บริหารกิจการค้าเอ็มทีมีชื่อน.ส.วัชรี พรรณเชษฐ์ ซึ่งเป็นนักเรียนหลักสูตรผู้บริหารกระบวนการยุติธรรมระดับสูง (บยส.) รุ่นที่ 15 รุ่นเดียวกับพล.ต.อ.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ริเริ่มโครงการ อีกทั้งยังมีการอ้างชื่อมาดามหลังทำเนียบรัฐบาล คือ อาจารย์น้อง ภรรยาของนายกฯ เพื่อไม่ต้องรับผิดตามสัญญา โครงการนี้รัฐเสียหายแน่นอน โดยจากนี้จะไปดำเนินการร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อเอาผิดกับนายกฯตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157
นายวิสาร กล่าวว่า ที่สำคัญเครื่องมือbiometricวันนี้ใช้ได้จริงหรือไม่ เพราะมีการพูดถึงคดีวันเอ็มดีบี ข่าวบอกว่าคู่กรณีผ่านด่านตลอด มีหมายจับจากมาเลเซีย เราก็ไม่จับเขา ให้เข้าออกบ้านเราหลายครั้ง ที่สำคัญมีหมายแดงจากสิงคโปร์ ก็ไม่จับเขา ที่สำคัญโครงการนี้ นายกฯถูกล่าวหาเสียหายไปทั่วโลก ตนก็ยังไม่เชื่อ ขอให้นายกฯใช้โอกาสนี้ชี้แจง ตนได้ข้อมูลมาว่า มีนายพ. มีบริษัทชื่อ ส.กับข. ชื่อจริง นามสกุลจริง อยู่ที่ตน สิ่งที่ตนตกใจมากกว่านั้นคือมีเงินโอนเข้ามาในบัญชีหมื่นกว่าล้านบาท มาอย่างไร มาจากวันเอ็มดีบีหรือไม่ ซึ่งบัญชีอยู่ที่ตน เงินหมื่นก็ล้านบาทมาได้อย่างไร เพราะกฎธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ระบุว่า หากมีการโอนเงิน 2 ล้านบาท ต้องแจ้งที่มาที่ไปด้วย ตนจึงนึกถึงว่าเป็นไปได้หรือไม่เลือกตั้งที่ผ่านมา เป็นเงินเหล่านี้หรือไม่
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวชี้แจงต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในประเด็นที่ถูกกล่าวหาเรื่องความไม่โปร่งใสโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจพิสูจน์บุคคลโดยเทคโนโลยีไบโอเมทริกซ์(biometric) ลายนิ้วมือและภาพถ่ายใบหน้า ว่า โครงการนี้เป็นของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) โดยเป็นเงินงบประมาณที่ได้มาจากเงินค่าธรรมเนียมตรวจคนเข้าเมือง ที่ผ่านมา สตม.ใช้ระบบคัดกรองผ่านระบบลายนิ้วมือเป็นหลักแต่ต้องมีการเปลี่ยนมาเป็นลายนิ้วมือและภาพถ่ายใบหน้า ซึ่งเป็นระบบทั่วโลกหลายประเทศได้ใช้
นอกจากนี้ กระทรวงการคลังได้พิจารณาความคุ้มค่าก่อนการอนุมัติให้ใช้เงินแล้ว สตช.ทำสัญญากับกิจการค้าร่วมเอ็มที และคณะกรรมการตรวจรับพัสดุได้ตรวจรับเพื่อใช้ในราชการแล้วตั้งแต่เดือนส.ค. 2562 และมีการติดตั้งจำนวน 1,843 ชุด
“ขอความเป็นธรรมว่าในเรื่องของการเป็นเพื่อนร่วมรุ่นนั้นก็มีหลายคนเป็นเพื่อนร่วมรุ่นกัน ซึ่งไม่ได้หมายความว่าเป็นเพื่อนร่วมรุ่นกันแล้วจะต้องไปร่วมกระทำความผิด ถ้ามาเหมากันแบบนี้ผมคิดว่าหลายคนที่หนีไปก็มีเพื่อนร่วมรุ่นหมายความว่าจะต้องผิดทุจริตกันหมดอย่างนั้นเหรอ ผมคิดว่าอยู่ที่ตัวบุคคล ภรรยาผมเป็นอาจารย์มาก่อนและเตือนผมเสมอในเรื่องการทุจริตมาตลอด” นายกฯ กล่าวชี้แจง
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สำหรับการส่งมอบงานล่าช้านั้นมีปัญหาส่วนหนึ่งจากหน่วนงานเองด้วย โดยช่วงที่มีการกำหนดการส่งมอบงานปรากฎว่าเมื่อจะต้องมีการติดตั้งสัญญาณเพื่อให้เกิดการเชื่อมต่อกลับไม่สามารถดำเนินการได้ ไปจนถึงสถานที่ในการดำเนินการก็ไม่มีความพร้อมสำหรับการติดตั้ง ซึ่งเป็นความบกพร่องของฝ่ายเราเองด้วย
“ผมเคยจำได้ว่ามีการตรวจสอบการจัดซื้อรถถังโดยหน่วยงานของรัฐ มีการบอกว่าราคาในเว็บไซต์ถูกกว่า แต่การซื้อของแบบนี้จะซื้อผ่านทางเว็บไซต์ไม่ได้ เพราะการทำสัญญาจัดซื้อนั้นจะต้องซื้อระบบด้วย ที่แพง คือ ระบบ ระบบมาจากต่างประเทศ ถ้าเขาไม่ขายมาให้ก็ทำไม่ได้ ดังนั้น การดำเนินการต่างๆเป็นไปตามกติกา ซึ่งกรณีที่กล่าวมานั้นเป็นเพียงราคาของเครื่องเปล่าเท่านั้น ซึ่งจะต้องมีซอฟแวร์ด้วยถึงจะทำงานได้ และซอฟแวร์ใหม่จะต้องเชื่อมกับซอฟแวร์เดิมด้วย สรุปแล้วการจัดซื้อของจะต้องรวมการติดตั้งและการรับประกันด้วย” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกฯ กล่าวย้ำว่า การดำเนินการจัดซื้อทุกขั้นตอนผ่านการตรวจสอบของคณะกรรมการตรวจสอบแล้ว หากจะมีมาดามคนใดไปยุ่งเกี่ยวก็ต้องมีการพิสูจน์กันต่อไป แต่ผมเชื่อมั่นในภรรยา เวลานี้มีคนอ้างชื่อนายกฯ รองนายกฯเป็นจำนวนมาก มีแต่คนโง่เท่านั้นที่เชื่อ ถ้าอยากรู้ว่านายกฯสั่งการจริงหรือไม่ให้ถามที่ตนเองได้ เวลานี้มีการใส่ร้ายป้ายสีทางสื่อสังคมออนไลน์เต็มไปหมด
“อย่างเมื่อวานที่มีการพูดจาในเรื่องนี้ ผมกราบเรียนว่าเราจะต้องสืบหาข้อเท็จจริง เพราะเกิดความเสียหายกับหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องของการติดตามและตรวจพบว่าใครด่ากันด่ากันมา ซึ่งเป็นการไม่ดีเลยที่มีการปลุกระดมคนให้มาทะเลาะกัน ผมจะตรวจสอบด้วยว่าบางพรรคก็ทำ ทำเยอะด้วย ต้องตรวจสอบหาข้อเท็จจริงกันหมด ไม่ได้ขู่ใครแต่เป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย” นายกฯ กล่าว
ขณะเดียวกัน ช่วงหนึ่งนายกฯได้ตอบข้อกล่าวหาของนายวิสาร เตชะธีระวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทยว่ารัฐบาลมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่อง1MDB โดยพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ผมไม่อยากไปก้าวล่วงเพราะเป็นเรื่องของควาสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ผมยืนยันว่ามีสองคนที่เกี่ยวข้อง โดยหนึ่งคนรับโทษในเรือนจำไปแล้ว อีกคนหนึ่งที่มีการอ้างว่ามีหมายแดงและเข้าออกประเทศไทยนั้นได้ตรวจสอบอย่างเป็นทางการว่าหมายแดงได้ออกมาหลังจากนั้นไปแล้ว โดยก่อนหน้านั้นได้มีการเข้าออกประเทศเหมือนกับบุคคลทั่วไปเพราะยังไม่มีหมายแดง และวันนี้สิงคโปร์ ต้นทางที่ออกหมายแดงก็ได้ยกเลิกหมายแดงไปแล้ว และข้อสำคัญ คือ คนที่เข้าออกประเทศไทยคนนี้เขามีสิทธิของเขาพอสมควรเหมือนกันจากบัตรอีลิทการ์ด ซึ่งไม่รู้ว่าใครทำให้เขา
“บางเรื่องไม่ใช่เรื่องที่จะเอามาโจมตีกัน เพราะเสียหายต่อความเชื่อมั่นและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รู้สึกว่าท่านชอบเหลือเกินในการที่จะทำให้ต่างประเทศลดความเชื่อมั่นผมและประเทศไทย แต่ไม่เป็นไรครับผมทนได้ ขอบคุณครับ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี