เผยญัตติไว้วางใจ ‘ธรรมนัส’ น้อยที่สุด เหตุ 5 ส.ส.พรรคเศรษฐกิจใหม่งดออกเสียง ขณะที่ 3 ส.ส. เสรีรวมไทยโผล่อุ้ม ‘บิ๊กป้อม’ ด้าน 10 ส.ส. อดีตอนาคตใหม่ลงมติหนุน 6 รัฐมนตรี ด้าน‘ครูแก้ว’ ไม่กั๊กลงเสียงหนุนรัฐบาลด้วย
วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการออกเสียงในญัตติอภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ซึ่งผลการลงคะแนนของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสกรณ์ ได้รับคะแนนเสียงไว้วางใจ 269 เสียง ไม่ไว้วางใจ 55 เสียง และงดออกเสียง 7 เสียง ซึ่งถือว่าได้รับคะแนนไว้วางใจน้อยที่สุดใน 5 รัฐมนตรีที่ถูกยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ
ทั้งนี้โดยเสียงไว้วางใจที่น้อยสุดนั้นจากการตรวจสอบการลงญัตติของสำนักรายงานการประชุมและชวเลขฯ พบว่าเสียงของ 5 ส.ส.พรรคเศรษฐกิจใหม่ ที่ลงมติไว้วางใจรัฐมนตรีทั้ง 5 คน กลับมติเป็นงดออกเสียง นายนิยม วิวรรธนดิฐกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ, นายภาสกร เงินเจริญกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ, นายมนูญ สิวาภิรมย์รัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ, นายสุภดิช อากาศฤกษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ นางมารศรี ขจรเรืองโรจน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ขณะที่ 2 เสียง ที่งดออกเสียง คือ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ และ นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯคนที่หนึ่ง ซึ่งเป็นปกติของการทำหน้าที่ในสภาฯ ทั้งนี้พบว่า ร.อ.ธรรมนัส ได้ลงคะแนนเป็นไว้วางใจให้กับตนเองด้วย
ขณะที่เสียงลงมติของพล.อ.ประวิตร ที่พบว่าเป็นรัฐมนตรีที่ได้รับความไว้วางใจสูงสุด 277 เสียง ซึ่งมากกว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ถึง5 เสียง พบว่าเสียงที่สนับสนุนให้กับพล.อ.ประวิตร นั้นมาจากเสียงของ 5 ส.ส. พรรคร่วมฝ่ายค้าน แบ่งเป็น จากพรรคเสรีรวมไทย3 คน ได้แก่ น.ส.นภาพร เพ็ชร์จินดา ส.ส.บัญชีรายชื่อ, นายวัชรา ณ วังขนาย ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ นายอำไพ กองมณี ส.ส.บัญชีรายชื่อ ขณะที่พรรคเพื่อไทย จำนวน 2 คน ได้แก่ น.ส.พรพิมล ธรรมสาร ส.ส.ปทุมธานี และ นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ
อย่างไรก็ตามในการออกเสียงของ 2 ส.ส.พรรคเพื่อไทยนั้น ไม่พบการลงมติใดๆ ใน 5 รัฐมนตรีที่ถูกยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ขณะที่การออกเสียงของน.ส.นภาพร ก่อนหน้านั้นได้ชี้แจงต่อที่ประชุมสภาฯ ก่อนปิดสมัยประชุม ว่าการออกเสียงของตนเอง ส่วนพล.อ.ประยุทธ์ นั้น ได้ลงคะแนนไม่ไว้วางใจ แต่เกิดข้อผิดพลาดเพราะคะแนนไม่ขึ้น อย่างไรก็ดีในการชี้แจงดังกล่าวไม่ระบุข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นกับรัฐมนตรีคนอื่น ทั้งนี้ใน 4 รัฐมนตรีที่เหลือ คือ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ, พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย, ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนายดอน ปรมัติวินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งผลคะแนนเสียงทั้ง 4 รัฐมนตรีนั้น น.ส.นภาพร ยืนตามมติของพรรคร่วมฝ่ายค้านที่ให้ออกเสียงไม่ไว้วางใจ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเสียงไว้วางใจรัฐมนตรี ซึ่งมียอดลงคะแนนเกินกว่าจำนวนส.ส.ที่สังกัดพรรคร่วมรัฐบาล 11 เสียง นั้น จากการตรวจสอบการลงคะแนน พบว่า เป็นส.ส.ของพรรคประชาชาติ 1 เสียง คือ นายอนุมัติ ซูสารอ ส.ส.ปัตตานี, เป็นส.ส.สังกัดพรรคร่วมอดีตพรรคอนาคตใหม่ จำนวน 10 คน โดย 9 คนนั้นเปิดตัวว่าสังกัดพรรคภูมิใจไทย ได้แก่ 1.นายวิรัช พันธุมะผล ส.ส.บัญชีรายชื่อ, 2.นายฐิตินันท์ แสงนาค ส.ส.ขอนแก่น,3.นายกฤติเดช สันติวชิระกุล ส.ส.แพร่ , 4.นายกิตติชัย เรืองสวัสดิ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา, 5.ร.ต.ต.มณฑล โพธิ์คาย ส.ส.กทม , 6.นายอนาวิล รัตนสถาพร ส.ส.ปทุมธานี, 7.นายเอกการ ซื่อทรงธรรม ส.ส.แพร่, 8.นายโชติพิพัฒน์ เตชะโสภนมณี ส.ส.กทม. และ 9.นายสำลี รักสุทธี ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ10.นายสมัคร ป้องวงษ์ ส.ส.สมุทรสาคร ที่ยังไม่ทราบว่าย้ายไปสังกัดพรรคใด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับการออกเสียงของนายศุภชัย โพธิ์สุ ส.ส.นครพนม พรรคภูมิใจไทย ในฐานะรองประธานสภาฯ คนที่สอง ได้ออกเสียงไว้วางใจให้กับรัฐมนตรีที่ถูกยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจทั้งหมด 6 คน ขณะที่การออกเสียของนายชวน และนายสุชาติ นั้นใช้สิทธิงดออกเสียง ส่วนคะแนนไว้วางใจและไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีที่แตกต่างกันนอกจากที่จะนับเสียงลงคะแนนแล้วยังพบว่ามีส.ส. แสดงตนเป็นองค์ประชุมไม่เท่ากันด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี