‘ชวน’พร้อมผู้บริหารสภาพาสื่อชมห้องประชุม ‘สุริยัน’ ทดสอบระบบไมค์ ‘เสียงดีใช้ได้’ ย้ำส.ส.ต้องมีจิตสำนึก หลังเตรียมจัดเก้าอี้ไว้เฉพาะเพื่อการตรวจสอบ ‘การเสียบบัตรแทนกัน’ ด้าน ‘สรศักดิ์’ ปิ๊งไอเดีย เตรียมหาสถานที่จัดงานแต่งในสภา หลังเจอค่าน้ำค่าไฟปีละ 425 ล้านบาท
วันที่ 6 มีนาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่รัฐสภาเกียกกาย นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฏร และนายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาฯ พร้อมด้วยผู้บริหารข้าราชการสภาฯและสื่อมวลชน ได้ตรวจความพร้อมห้องประชุมสุริยัน ซึ่งเป็นห้องประชุมของ ส.ส.และห้องประชุมร่วมรัฐสภา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชวน ได้ร่วมทดสอบระบบเสียงภายในห้องประชุม อาทิ ระบบไมโครโฟน ระบบเสียงสัญญาณเพื่อเรียกลงคะแนนหรือแสดงตน โดยกล่าวตอนหนึ่งระหว่างทดสอบว่า เสียงดี ใช้ได้
โดยนายชวน กล่าวว่า วันนี้มาเพื่อดูความพร้อมเพิ่มเติม ซึ่งตามปกติมีการติดตามทุกสัปดาห์อยู่แล้ว และทราบว่าเรื่องระบบเสียงและระบบเสียบบัตรพร้อมใช้งาน อย่างไรก็ตาม ได้มีการหารือว่าสมมุติหากมีการเปิดประชุมสมัยวิสามัญ ห้องประชุมสุริยันจะพร้อมหรือไม่ พบว่าระบบท่อร้อยสายสำหรับการถ่ายทอดสดการประชุมยังไม่แล้วเสร็จ ซึ่งเจ้าหน้าที่ยืนยันงานส่วนนี้ว่าไม่มีปัญหาแน่นอน
ส่วนเรื่องเสียงออดเรียกประชุมนั้นต้องลดระดับความดังลง เพราะดังมากเกินไป เนื่องจากทางประธานในที่ประชุมจะต้องกดออดเพื่อให้ได้ยินภายในห้องประชุมเท่านั้น ส่วนภายนอกห้องประชุมควรมีระบบถ่ายทอดเสียงออกไป รวมทั้งห้องทำงานของส.ส.ก็ต้องพยายามทำให้เสร็จก่อนเปิดประชุมสมัยหน้า เพื่อให้ส.ส.ได้มีห้องทำงานเป็นของตัวเอง ส่วนโครงภายนอกทั้งหมดต้องใช้เวลาอีกเป็นปี ซึ่งตามสัญญาก่อสร้างต้องเสร็จภายในปี 2563
ผู้สื่อข่าวถามว่า ส่วนการออกแบบเครื่องลงคะแนนจะป้องกันการเสียบบัตรแทนกันได้หรือไม่นั้น นายชวน กล่าวว่า ตนมองว่าเป็นสำนึกรับผิดชอบของส.ส. เพราะเทคโนโลยีที่นำมาติดตั้งนั้นเป็นเพียงระบบอำนวยความสะดวกเท่านั้น อย่างไรก็ตามเมื่อห้องประชุมเสร็จเรียบร้อยและเข้าใช้งาน จะจัดโซนที่นั่งเพิ่มเติมจากเดิมที่แบ่งตามพรรคการเมือง แล้ว จะกำหนดให้ส.ส.นั่งตามหมายเลขที่กำหนดไว้ เพื่อสะดวกต่อการตรวจสอบในอนาคต
เมื่อถามว่าจะมีการต่อสัญญาก่อสร้างเป็นครั้งที่ 5 หรือไม่ นายชวน กล่าวว่า ตนเองไม่เกี่ยวข้องกับการต่อสัญญา และเป็นเรื่องของฝ่ายข้าราชการ แต่ก็ได้ติดตามทุกสัปดาห์ ทั้งนี้ ต้องทำให้เสร็จตามสัญญา ไม่ควรจะเปลี่ยนแปลงอีก เพราะถ้าต่อสัญญาอีกครั้งจะถูกวิจารณ์อย่างหนัก แต่อาจจะมีบางส่วนที่ล่าช้า อย่างระบบท่อร้อยสายที่ทางเลขาสภาฯรายงานว่าหาผู้รับเหมายาก นอกจากนี้ ผนังด้านหลังบัลลังก์ประธานที่ยังโล่งอยู่นั้น มีงบหลายสิบล้านบาททั้งฝั่งวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฏร โดยเจ้าหน้าที่ชี้แจงว่าได้มอบหมายให้ศิลปินเป็นผู้ออกแบบภาพด้านหลัง
ถามต่อว่า ส.ส.มีห้องประชุมเป็นของตัวเองแล้วจะนัดประชุมสภาฯเพิ่มหรือไม่ นายชวน กล่าวว่า ทำได้ เพราะตามปกติเราจะนัดประชุมสภาฯนัดพิเศษ เพิ่มวันศุกร์อยู่แล้ว เพื่อเคลียร์ญัตติต่างๆ และตนคิดว่าก่อนเปิดสมัยประชุมสภา จะเชิญประธานคณะกรรมาธิการชุดต่างๆหารือถึงระบบว่าจะสะสางญัตติที่ค้างอยู่อย่างไรให้ทันกับสถานการณ์ ไม่ใช่ญัตติภัยแล้งมาพูดช่วงน้ำท่วม
ถามอีกว่า ทำไมกฏหมายจึงผ่านสภาจำนวนน้อย นายชวน ชี้แจงว่า ที่กฏหมายน้อยเพราะรัฐบาลส่งเข้ามาน้อย แต่กฏหมายที่เข้าสภาแล้วก็ผ่านทั้งร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ที่มีกฏหมายเพระตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 77 กำหนดให้ต้องรับฟังความคิดเห็นของประชาชน แต่ทราบว่าขณะนี้รัฐบาลได้ให้ทุกกระทรวงพิจารณากฏหมายของตัวเองและเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี(ครม.)โดยเร็ว เพื่อส่งต่อให้สภาฯในสมัยประชุมหน้า
ด้านนายสรศักดิ์ เปิดเผยว่า จำนวนที่นั่งในห้องประชุมสุริยัน 1,209 ที่นั่ง โดยแบ่งออกเป็นที่นั่งสำหรับส.ส. จำนวน 800 ที่นั่ง และส่วนของครม. 59 ที่นั่ง ส่วนชั้นลอยซึ่งเป็นที่สำหรับประชาชนที่เข้ามาเยี่ยมชมสภา อีก 350 ที่นั่ง อย่างไรก็ตาม ในส่วนของส.ส.ยังสามารถเสริมเพิ่มได้อีก สำหรับกล้องวงจรปิด(ซีซีทีวี) ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง ซึ่งตามสเปคเดิมกำหนดไว้ 27 ตัว สำหรับค่าน้ำค่าไฟทั้งรัฐสภาต้องใช้งบประมาณถึงปีละ 425 ล้านบาท ดังนั้น ทางสภาฯจึงต้องหารายได้เข้ามา เนื่องจากสภามีห้องรับรองสามารถจุคนได้เป็นพันคน อาจให้ใช้เป็นสถานที่จัดสัมมนาหรือจัดงานแต่งงานได้ โดยทั้งหมดเตรียมของอนุญาตจากระทรวงการคลังแล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี