เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2563 นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา'35 และอดีตกรรมการศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดอง สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) กล่าวถึงสถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้ว่า สถานการณ์บ้านเมือง ขณะนี้กำลังเผชิญวิกฤติรอบด้านและได้เดินทางมาถึงทางตันแล้ว ต้องล้างไพ่กันใหม่ ยากที่จะหาทางออกอย่างอื่น ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้
1.เศรษฐกิจล้มเหลว ประชาชนกำลังเดือนร้อนทุกหย่อมหญ้า แต่กลุ่มทุนใหญ่ไม่กี่กระกูลร่ำรวยมากขึ้นทุกวัน ขณะที่ทีมเศรษฐกิจรัฐบาลไร้เอกภาพ และไร้ความสามารถไม่มีวิสัยทัศน์ในการแก้ปัญหา คิดแต่จะแจกเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกกำลังถดถอย หากประเทศยังใช้ทีมเศรษฐกิจชุดเดิมจะเกิดวิกฤติลุกลามหนักกว่าปี2540
2.กระบวนการยุติธรรมไร้ความน่าเชื่อถือ กระบวนการยุติธรรมไทย 2 มาตรฐานเลือกปฏิบัติ ตั้งแต้ชั้นตำรวจ อัยการ ศาล และองค์กรอิสระ ผู้มีอำนาจเงิน อำนาจรัฐ และเครือข่ายระบบอุปถัมภ์แทรกแซงกระบวนการยุติธรรมให้ตัวเองไม่ต้องรับโทษได้ ขณะที่ประชาชนคนยากไร้ และคนที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามรัฐ เข้าไม่ถึงกระบวนการยุติธรรม บางคนยังถูกยัดข้อหากลายเป็นแพะ
3.การทุจริตประพฤติมิชอบคอร์รัปชั่น มากที่สุดเป็นประวัติศาสตร์ของเมืองไทย แม้นายกรัฐมนตรี ไม่มีธุรกิจของตัวเอง แต่คนทำธุรกิจ พ่อค้า ยังมีการจ่าย “ใต้โต๊ะ” เหมือนเดิม ข้าราชการบางหน่วยงานมีการซื้อ-ขายเก้าอี้หนักกว่ายุคก่อน โครงการเศรษฐกิจต่างๆของรัฐก็เอื้อประโยชน์ให้กลุ่มทุนใหญ่ทั้งทางตรงและทางอ้อม ขณะที่ผู้นำรัฐบาลก็ไม่มีมาตรการปราบปรามการทุจริตอย่างจริงจัง
4.สภาผู้แทนราษฎรเสื่อมทรุด ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ที่มีการซื้อ-ขายตัวส.ส.อย่างโจ่งแจ้งในราคา20-30 ล้านบาท เพื่อแลกกับการย้ายมาอยู่ข้างพรรคร่วมรัฐบาล การอภิปรายไม่ไว้วางใจก็มีข่าวฝ่ายค้าน “มวยล้ม ต้มคนดู” ส.ส.ฝ่ายค้านบางคนโหวตหนุนรัฐบาล แลกกับการที่ตัวเองไม่ถูกดำเนินคดี
5.ผู้นำไม่ทำตามสัญญา วันยึดอำนาจ 22พ.ค.2557 ผู้นำคณะรัฐประหารได้ให้สัญญาประชาคมว่าจะทำให้ประชาชนในชาติเกิดความรัก ความสามัคคี เพื่อปฏิรูปโครงสร้างทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และอื่นๆ ผ่านมา6ปีพิสูจน์ได้ชัดเจนแล้วว่าเป็นเพียงโฆษณาชวนเชื่อ ซื้อเวลา เพื่อให้ตัวเองอยู่ในอำนาจเท่านั้น
นายอดุลย์ กล่าวด้วยว่า ในขณะที่ประเทศมีวิกฤติรอบด้าน นิสิต นักศึกษา ทั่วประเทศ รวมทั้งนักเรียนระดับมัธยมศึกษา ได้ลุกขึ้นมาชุมนุมต่อต้านรัฐบาล เนื่องจากทนกับระบบเผด็จการซ่อนรูปไม่ไหว หากประชาชนทุกภาคส่วนเข้าร่วมชุมนุมและเดินลงถนน เชื่อว่า รัฐบาลจะควบคุมไม่อยู่แน่นอน จึงจำเป็นต้องเร่งปฏิรูปบ้านเมืองทุกด้านโดยเร่งด่วนก่อนที่จะหายนะไปทั้งระบบ จึงเรียกร้อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เร่งดำเนินการ 2.เรื่องอย่างเร่งด่วน คือ
1.แก้ไขรัฐธรรมนูญเปิดทางให้ตัวแทนประชาชนทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แล้วดำเนินการปฏิรูปประเทศทุกด้าน
2.สร้างความปรองดอง ด้วยการนิรโทษกรรมคดีที่มีแรงจูงใจทางการเมือง เพื่อหลอมรวมประชาชนทุกภาคส่วนให้เกิดความรักสามัคคี จากนั้นนายกรัฐมนตรี ต้องเสียสละด้วยการลาออก แล้วเปิดทางให้มีการล้างไพ่ทั้งระบบ ให้ผู้มีความรู้ ความสามารถ และเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน มีวิสัยทัศน์ และมีความกล้าหาญที่จะทำเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนอย่างแท้จริง เข้ามาจัดระเบียบประเทศใหม่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี