หากพบกักตุนจะไปทลายเอง! "ธรรมนัส"แถลงโต้ ไม่รู้จัก-ไม่เกี่ยวข้องปมกักตุนหน้ากาก พร้อมตั้งกก.สอบ"พิตตินันท์" ลั่นหากผิดจริงไม่เลี้ยงไว้แน่ ตัดพ้อ"ยินดีออกจากตำแหน่ง หากถึงวันที่ประชาชนไม่เอา"
เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2563 ที่รัฐสภา ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แถลงชี้แจงกรณีมีคนสนิทได้กักตุนหน้ากากอนามันจำนวน 200 ล้านชิ้น ว่า กรณีที่ นายศรสุวีร์ ภู่รวีร์รัศวัชรี ไปลงเฟซบุ๊กว่าขายหน้ากากอนามัยนั้น ยืนยันว่าตนเองไม่ได้รู้จักกับบุคคลผู้นี้ และไม่เคยไปเกี่ยวข้องกับธุรกิจของเขา สำหรับกรณีชอง นายพิตตินันท์ รักเอียด ซึ่งคณะทำงานตนเอง ส่วนตัวไม่ได้สอบถามนายพิตตินันท์โดยตรง ซึ่งนายพิตตินันท์เป็นอดีตผู้สมัคร ส.ส.สุราษฎร์ธานี เขต 6 ของพรรคพลังประชารัฐ และเรื่องนี้ได้เรียนไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แล้ว
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตอนที่สมัครเลือกตั้งตนได้รับรายงานว่านายพิตตินันท์มีคะแนนดี ก็อยากให้ทำงานการเมืองในพื้นที่ต่อไปและขอมาสมัครเป็นคณะทำงาน โดยดูแลเฉพาะจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ให้ทีมงานสอบถามแล้วว่าไปรู้จักกับนายศรสุวีร์อย่างไรปรากฎว่าได้มีการนัดเจอกันที่โรงแรมแห่งหนึ่งที่ กทม.เบื้องต้นทราบว่าเป็นการเจรจาเพื่อเอาหน้ากากไปแจกชาวบ้านในพื้นที่เขตเลือกตั้งของเขา โดยไม่มีการซื้อขายหน้ากาก
"นอกจากนี้ ได้แจ้งทีมงานแล้วว่าให้นายพิตตินันท์ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ว่าตัวเองไม่ได้เกี่ยวข้องกับวงจรนี้และเพื่อเอาผิดกับนายนายศรสุวีร์ ที่สุราษฎร์ธานี ผมไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับกระบวนการการขายหน้ากาก และได้ประสานงานกับสถานีตำรวจหนองปรือชลบุรีว่าให้ดำเนินการตรวจสอบโดยเร็วและหากมีการกักตุนหน้ากากจริง ผมจะนำไปทลายตรงนี้เอง นอกจากนี้ ยังได้ตั้งคณะตรวจสอบพฤติกรรมของนายพิตตินันท์ หากมีความผิดจริง จะไม่เอาไว้แน่นอน ใครก็ตามที่เป็นคณะทำงานผมหากไปเกี่ยวข้องกับการกักตุนหน้ากากอนามัย จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด จะไม่เลี้ยงเลยคนพวกนี้" ร.อ.ธรรมนัส กล่าว
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ส่วนตัวไม่ทราบว่ามีหน้ากากอนามัยถึง 200 ล้านชิ้นหรือไม่ หรือแค่โม้ แต่ได้ให้ตำรวจเข้าไปตรวจสอบและดำเนินคดีทันที แต่ส่วนตัวไม่เชื่อว่าจะมีหน้ากากจริง น่าจะเป็นคนที่อยากดังมากกว่า อย่างไรก็ตามประเด็นนี้สังคมให้ความสนใจ ดังนั้น การนำเสนอข่าวต่างๆอยากให้นำเสนอข้อเท็จจริงก่อน เพราะตนไม่อยากไปดำเนินคดี แต่จริงๆ แล้วที่สื่อที่เอาลงไปแต่เช้า ตนได้ให้ฝ่ายกฎหมายร้องทุกข์กล่าวโทษแล้ว
"ยืนยันว่าผมอยู่บนโลกความเป็นจริง และเรื่องอย่างนี้อาจเป็นโชคร้ายของนายศรสุวีร์ที่โพสต์เฟซบุ๊กอย่างนั้น ผมเอาจริงเอาจัง วันนี้จะรู้ว่ามีโรงงานจริงหรือเปล่าและได้สั่งการไปแล้ว แม้จะไม่ใช่หน้าที่ของผมในการกำกับดูแลเรื่องหน้ากากอนามัย แต่เมื่อมาพาดพิงเกี่ยวกับผม จึงต้องจัดการให้เรียบร้อย" ร.อ.ธรรมนัส กล่าว
เมื่อถามว่า จากเหตุการณ์นี้จะทำให้มีผลต่อตำแหน่งรัฐมนตรีหรือไม่ เนื่องจากเป็นรัฐมนตรีที่ได้รับคะแนนไว้วางใจจากสภาน้อยที่สุด ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า "คะแนนที่ออกมาหาก ส.ส.พรรคเศรษฐกิจใหม่ อีก 5 คน ลงคะแนนให้ผม คะแนนมันจะน่าเกลียด ที่บอกได้น้อย จริงๆ ไม่ใช่น้อยนะครับ ผมเข้ามาทำงานเพื่อบ้านเมือง ถ้าวันหนึ่งประชาชนไม่เอาเราแล้ว เราไม่มีประโยชน์ต่อบ้านเมืองแล้ว ไม่ต้องปรับคณะรัฐมนตรี ผมยินดีจะไปทันที ผมไม่ได้มีอาชีพเป็นนักการเมือง"
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี