"ช่อ"ตกเป็นจำเลยอีกคดี! หลังศาลประทับรับฟ้องคดี"มาดามเดียร์"ฟ้องหมิ่น"ช่อ"ถือหุ้นสื่อเครือเนชั่น ทั้งที่เป็นส.ส.อยู่ นัดสอบคำให้การ20เม.ย.นี้
เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2563 ที่ห้องพิจารณาคดี 709 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลได้อ่านคำสั่งในชั้นไต่สวนมูลฟ้องว่าคดีมีมูลหรือไม่ หมายเลขดำ อ.3095/2562 ที่ น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี หรือมาดามเดียร์ อายุ 35 ปี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชาชน (พปชร.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.พรรณิการ์ วานิช หรือช่อ อายุ 31 ปี อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคอนาคตใหม่ เป็นจำเลย ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นในการโฆษณา
กรณีเมื่อวันที่ 18 พ.ย.2562 จำเลยได้จัดแถลงข่าวที่ทำการพรรคอนาคตใหม่ต่อสื่อมวลชนตอนหนึ่งว่า พรรคอนาคตใหม่มีประเด็นที่ต้องจับตาและต้องทวงถามต่อบางเจ้าซึ่งไม่ได้กระทบต่อพรรคอนาคตใหม่เท่านั้น แต่กระทบต่อประชาชนที่รับรู้ข้อมูลข่าวสาร คือการเป็นเจ้าของสื่อของนักการเมืองตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ห้ามไม่ให้ผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งถือครองหุ้นสื่อเพื่อประโยชน์แก่ตัวเองและเป็นโทษแก่ผู้ที่เป็นศัตรูของนักการเมืองที่เป็นผู้ถือหุ้นดังกล่าว แต่ในประเทศไทยมีนักการเมืองที่เกี่ยวพันเป็นเจ้าของสื่อที่ชัดเจน แต่ไม่สามารถดำเนินการตามกฎหมายกับนักการเมืองผู้นั้นได้คือ คุณวทันยา เป็น ส.ส.พรรคพลังประชารัฐและได้ลาออกจากตำแหน่งของผู้บริหารของเครือเนชั่นและให้สามีคือคุณฉาย บุนนาค ดำรงตำแหน่งของผู้บริหารเนชั่นแทน ทำให้เกิดคำถามการถือครองหุ้นสื่อของ ส.ส.หลายสิบคนในสภา กลายเป็นคดีความเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม แต่ประจักษ์ชัดเจนว่าสามีของส.ส.ท่านหนึ่งถือหุ้นสื่อ เป็นเจ้าของสื่อ กฎหมายกลับไม่สามารถทำอะไรได้ ไม่เพียงเท่านั้น เนชั่นแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ได้กระทำการอันเป็นคุณกับพรรคการเมืองบางพรรคและเป็นโทษแก่พรรคการเมืองบางพรรคอย่างเป็นระบบอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ก่อน จนถึงหลังเลือกตั้ง และอื่นๆ ซึ่งล้วนเป็นความเท็จ
การแถลงข่าวของจำเลยทำให้สื่อมวลชนและประชาชนที่ได้รับฟังมีความรู้สึกและเข้าใจในความหมายทันทีว่าโจทก์ ซึ่งเป็น ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ กระทำการอันเป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญเป็นนักการเมืองที่มีความเกี่ยวพันเป็นเจ้าของสื่อ แต่ไม่สามารถดำเนินการตามกฎหมายกับโจทก์ได้เนื่องจากโจทก์ได้ลาออกจากผู้บริหารเครือเนชั่น โดยให้ผู้เป็นสามีดำรงตำแหน่งผู้บริหารแทน การกระทำของจำเลยทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย เนื่องจากโจทก์ไม่เคยดำรงตำแหน่งใดๆ ในบริษัทเนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และบริษัทเนชั่น บรอดเคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และโจทก์ไม่เคยเป็นผู้บริหารบริษัทในเครือดังกล่าวแต่อย่างใด โจทก์จึงไม่เคยกระทำการอย่างใด อันมีลักษณะขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560
ดังนั้นการกระทำของจำเลยตามฟ้องที่ใส่ความโจทก์ต่อบุคคลที่สามจึงเป็นเท็จ ทำให้โจทก์เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชังได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง ขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 , 328 ด้วย
ศาลพิเคราะห์คำเบิกความของพยานโจทก์ในชั้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีมีมูลจึงให้ประทับรับฟ้องคดีไว้พิจารณา นัดพร้อมคู่ความและออกหมายเรียกจำเลยมาสอบคำให้การในวันที่ 20 เม.ย.นี้ เวลา 09.00 น.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี