“วิษณุ”เผย พรรคการเมืองต้องประชุมใหญ่สามัญประจำปี ตาม ม.43 พรบ.พรรคการเมือง ย้ำ ต้องมีมาตรการรองรับ 4 ข้อ เพื่อรายงานกกต.ในเม.ย.นี้ เผย กกต.รับทราบ เลื่อน-งด ไม่ได้
เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2563 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ ถึงข้อปฏิบัติของหน่วยราชการตามมาตรการแก้ปัญหา การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ว่า ในรายละเอียดนั้นหน่วยงานจะต้องไปปฏิบัติเอง โดยก.พ.ออกข้อกำหนดเรื่องวิธีการทำงาน นอกสถานที่ราชการปกติ เช่น การทำงานที่บ้าน การใช้วิธีเช่าอาคารแห่งหนึ่งเพื่อจัดที่นั่งระยะห่างให้เจ้าหน้าที่ทำงาน ซึ่งเราเองก็มีประสบการณ์มาแล้วเมื่อครั้งที่เข้าทำเนียบไม่ได้ นอกจากนั้นยังมีมาตรการการประชุมทางไกล เช่น การประชุมคณะกรรมการกฤษฎีกาบางชุดได้เริ่มทำแล้ว ซึ่งเป็นไปตามประกาศ คสช. เมื่อปีพ.ศ. 2557 หรือในการประชุมปกติ เช่น บอร์ดต่างๆ สามารถดำเนินการทำได้เลยบางทีก็ทำกันมาแล้วก่อนหน้านี้ แต่ถ้าเป็นการประชุมบริษัทหรือผู้ถือหุ้น ให้รอข้อกำหนดของทางกลต.ก่อน หากจะมีการจัดประชุมก็ต้องมีมาตรการเข้มงวด เช่น 1. ตรวจวัดอุณหภูมิ 2. สวมหน้ากากอนามัย 3. มีเจลให้ล้างมือ 4. ต้องมีการจัดที่นั่งหรือที่ยืนให้เว้นระยะห่างอย่างน้อย 1 เมตร หรือมากกว่าก็ยิ่งดี
“ถ้างดได้งด เลื่อนได้ก็เลื่อน แต่ถ้าเลื่อนไม่ได้ ให้จัดขึ้นภายใต้มาตรการรองรับ ทุกคนต้องช่วยกันปรับตัว ประชาชนก็ช่วยกันใช้ระบบออนไลน์ให้มากขึ้น ทุ่นเวลา ทุ่นการเดินทาง โดยหน่วยงานของรัฐ เช่น สำนักงานเขตถ้ายังไม่มีก็ต้องเพิ่มในส่วนนี้ขึ้นมา” รองนายกฯ กล่าว
นายวิษณุ กล่าวต่อว่า ส่วนการประชุมบางอย่างที่ไม่สามารถจะเลื่อนออกไปได้ เพราะ ไม่มีช่องทางเปิดเอาไว้ มติครม. ก็ไม่สามารถมีช่องได้ เนื่องจากต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ได้แก่ การประชุมสมัยสามัญของพรรคการเมือง ซึ่งเป็นไปตามพระราชบัญญัติพรรคการเมือง ม.43 ที่จะต้องมีการประชุม เพื่อรายงานต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)หรือนายทะเบียน ได้ทราบภายในเดือนเมษายน ของแต่ละปี ดังนั้นจึงต้องจัดให้มีการประชุม ซึ่งได้รายงานให้คณะรัฐมนตรีทราบไปแล้วเมื่อวันที่ 17 มีนาคมที่ผ่านมาและได้ประสานไปทางคณะกรรมการการเลือกตั้งเรียบร้อยแล้ว เพราะหากไม่จัดการประชุมก็จะถือว่าผิดพระราชบัญญัติพรรคการเมือง ถ้าจะประชุมแล้วไม่มีมาตรการรองรับก็จะผิดพระราชบัญญัติโรคติดต่อ
สำหรับการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)นั้นก็ยังคงประชุมไปตามปกติ โดยก่อนการประชุม 1-3 วัน เจ้าหน้าที่จะเข้าทำความสะอาดห้องประชุมให้เรียบร้อย และครม.ทุกคนก็จะสวมหน้ากากอนามัยเข้าประชุม รวมถึงจัดที่นั่งให้มีระยะห่างกัน 1.5 เมตร
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากสถานการณ์ขยายตัว ความเป็นไปได้ในการประชุมคณะรัฐมนตรีแบบเวิร์คแอทโฮม มีความเป็นไปได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า รอนายกรัฐมนตรีสั่งการ หากมีความจำเป็นถึงขนาดนั้นก็อาจจะทำได้ การทำไม่ยากทั้งโดยทฤษฎีและปฏิบัติ หรือโดยข้อกฎหมายอยู่แล้ว ดังนั้นไม่มีปัญหา และครม. ก็อาจจะง่ายกว่าคนอื่น ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการด้วยว่า ให้ลดจำนวน และจำกัดเจ้าหน้าที่ผู้เข้าร่วมประชุมครม. เพื่อไม่ให้เกิดความแออัด และจัดให้นั่งห่างกัน 1-1.5 เมตร เมื่อถามว่า รมต.2 คนที่ อยู่ระหว่างการกักตัว ต้องไปตรวจเชื้อซ้ำอีกรอบก่อนหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ก็ต้องแล้วแต่รมต.ทั้ง2คน
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีการเสนอให้เลื่อนการเปิดการประชุมสภาสมัยสามัญจาก 22 พ.ค. ให้ขยับออกไปก่อน นายวิษณุ กล่าวว่า ยังไม่มีใครพูดถึงเรื่องนั้น เพราะเรื่องนี้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ และข้อบังคับสภา ซึ่งถ้าหากจะไม่ใช่วันที่ 22 พฤษภาคม จะต้องเป็นไปตามมติสภา ที่จะต้องเกิดจากการเรียกประชุมสภาเสียครั้งหนึ่งก่อน แล้วตกลงกันว่าจะเลื่อนสมัยประชุมหรือไม่อย่างไร เพียงแต่ว่าหากยุ่งยากมากเกินไป ประธานสภาผู้แทนราษฎร ก็ไม่เรียกประชุมเท่านั้น หรืองดประชุมในสมัยประชุมนั้น เป็นอำนาจของประธานสภาฯ
“ส่วนถ้าเปิดประชุมวิสามัญก็อีกเรื่องหนึ่ง เพราะ1.ถ้ารัฐบาลขอเปิดโดยออกพระราชกฤษฎีกา หรือ 2.ประธานรัฐสภา เป็นคนกราบบังคมทูลขอเปิด นั่นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ต้องมีสมาชิกเข้าชื่อ 1ใน3 ของสมาชิกรัฐสภา 700 กว่าคน” นายวิษณุ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี