‘บิ๊กตู่’มอบอำนาจผู้ว่าฯ‘ปิดพรมแดน’ ประกาศกร้าวคุม‘โควิด’ไม่ได้‘ย้าย’ทันที
เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 19 มีนาคม 2563 ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (รมว.กห.) ในฐานะประธานศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมและมอบโนบาย พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทีมแพทย์ปฏิบัติการเฝ้าระวังควบคุมป้องกันโรคโควิด-19 โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ,นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข รวมถึงผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข และบุคลากรทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้อง ให้การต้อนรับ โดยใช้เวลาในการประชุมกว่า 2 ชั่วโมง (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : 'บิ๊กตู่'เชิญอาจารย์หมอผู้เชี่ยวชาญโรคระบาด ระดมสมองฝ่าวิกฤติไวรัสโควิด-19)
จากนั้นเวลา 13.00 น. นายกฯ แถลงผลภายหลังการประชุมฯ โดยกล่าวตอนหนึ่ง ว่า สิ่งสำคัญที่สุดวันนี้รัฐบาลได้ประกาศมาตรการไปแล้ว 6 มาตรการ ซึ่งเป็นการให้อำนาจกับฝ่ายปกครอง กระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้ว่าฯกทม. ซึ่งสามารถกำหนดมาตรการเพิ่มเติมจากกรอบใหญ่ที่ให้ไป เช่น การปิดสถานที่ต่างๆ วันนี้ให้ไปในเฉพาะกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ถ้าจะปิดในต่างจังหวัดก็ได้ ถ้าเป็นสถานที่ที่เข้าข่ายที่มีความเสี่ยง ผับต่างๆ ซึ่งตอนนี้ทราบว่าจังหวัดที่มีข่าวเรื่องผับใหญ่ก็ปิดไปแล้วก็มีอำนาจในการปิดตรงนี้ การปิด 14 วัน เมื่อจะเปิดใหม่ต้องไปสอบตรวจว่ามีความปลอดภัย ความพร้อมเพียงพอหรือไม่ ถ้ายังไม่สามารถขยายอีกได้นั้นคืออำนาจที่ตนได้ให้กับพื้นที่ไปแล้ว
นายกฯ กล่าวต่อว่า ดังนั้น 14 วันนี้ตนอยากขอร้องไปยังข้าราชการระดับพื้นที่ โดยเฉพาะผู้ว่าฯ คณะกรรมการโรคติดต่อประจำจังหวัด ประจำพื้นที่ต้องทำงานอย่างเด็ดขาด และต้องรายงานผลการปฏิบัติทุกมาตรการที่รัฐบาลออกไปแล้วให้ตนทราบทุกวัน ผ่านช่องทางของกระทรวงมหาดไทย เข้ามาที่ศูนย์ฯโควิด-19 ซึ่งตนติดตามทุกวัน ตั้งแต่สนามบินต้นทาง สนามบินในประเทศมาสู่ในเรื่องของการคัดกรอง คัดแยก ซึ่งมีการรายงานมายังตนทุกวัน ทั้งนี้ เพื่อให้ทราบและติดตามสถานการณ์ และปรับมาตรการต่างๆ ให้เพิ่มขึ้น
“วันนี้เรากำลังสกัดกั้นการนำเชื้อเข้ามาในประเทศ ถึงบอกว่าการเข้ามาต้องมีใบรับรองแพทย์ ประกันสุขภาพ โดยทุกคนที่เข้าประเทศไทยต้องมี ซึ่งเดิมเฉพาะ 4 ประเทศบวก 2 เขตปกครองพิเศษ แต่ทุกวันนี้ทุกประเทศที่เข้ามา ทั้งนี้ เพื่อสกัดกั้นการเข้ามาให้เหลือน้อยที่สุด เพื่อจะควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดได้ และติดตามด้วยแอพพลิเคชั่น” นายกฯ กล่าว
เมื่อถามว่าเพื่อนบ้านประเทศไทยเริ่มประกาศปิดพรมแดน ในส่วนของไทยจะมีมาตรการดังกล่าวเพิ่มหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ทำไมเราต้องแปลไทยเป็นไทยด้วยไม่รู้ เมื่อสักครู่ตนได้พูดไปแล้วว่าต่างประเทศที่จะเข้ามาต้องมีใบรับรองแพทย์ ส่วนรอบบ้านเราก็มีความเกี่ยวกับผู้ว่าฯ จะปิดช่องทางพรมแดนหรือไม่อยู่ที่อำนาจผู้ว่าฯ เพราะได้ให้อำนาจไปแล้ว และให้รายงานตนมา
เมื่อถามว่าหากเป็นคำสั่งหรือมติจากรัฐบาลจะเข้มแข็งและน่าเชื่อถือมากกว่าหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า “หากผู้ว่าฯทำไม่ได้ก็ย้ายผู้ว่าฯ จะยากตรงไหน”
เมื่อถามว่าขณะนี้เรามีสัญญาณความเสี่ยงอะไรที่สถานการณ์จะยกไปสู่ระยะที่ 3 นายกฯ กล่าวว่า ให้ถามที่ประชุมฯ ถามหมอจะบริหารให้ตามข้อมูลของหมอ
ผู้สื่อข่าวยังถามถึงกรณีตำรวจติดตามรัฐมนตรีกระทรวงการคลังมีข้อกังวลอะไรหรือไม่ นายกฯ ปฎิเสธตอบคำถาม แต่ขอให้สื่อช่วยเผยแพร่ข้อมูลสถานการณ์โควิด-19 ตามที่รัฐบาลได้แถลงในแต่ละวันด้วย
ด้านนายอนุทิน กล่าวว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีการสังเกตอาการของ ครม.ทุกคนอยู่แล้ว และมีการคัดกรองทุกคน ก่อนที่จะเข้าร่วมประชุม โดยขณะนี้เห็นว่ายังไม่จำเป็นให้มีการประชุม ครม.ผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์จากที่บ้าน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี