เบิร์ธเดย์เงียบๆ
‘บิ๊กตู่’งดให้เข้าอวยพร
“นายกฯ”ทำบุญส่วนตัว ครบ 66 ปี เงียบๆ งดเปิดเข้าอวยพร แต่มีประชาชนโพสต์อวยพรผ่านเฟซบุ๊คขอให้แข็งแรง แก้สารพัดวิกฤติ ด้าน“แรมโบ้อีสาน” ย้ำรัฐบาลพร้อมรับฟังทุกฝ่ายแก้โควิด-19 สวน เพื่อไทยอย่าตีกิน หวังผลการเมือง ระวังคนประชาชนสาปแช่ง ชพน.เฮ!ได้ ส.ส.เพิ่ม จากอดีตอนค.ย้ายซบ
เมื่อวันที่ 21 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ในวันที่ 21 มีนาคม เนื่องในวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 66 ปีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม นายกฯเดินทางเข้าตึกไทยคู่ฟ้า ที่ทำเนียบรัฐบาล เวลา 08.10น.พร้อมด้วย นายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ก่อนที่ในเวลา 08.45 น.นายกฯเดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาลโดยไม่มีการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนและไม่ให้ติดตามภารกิจแต่อย่างใด
นายกฯทำบุญวันเกิดครบ66ปี
มีรายงานว่า นายกฯใช้เวลาอยู่กับครอบครัวและเดินทางไปทำบุญส่วนตัวที่วัดเทวราชกุญชรวรวิหาร ในปีนี้พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้เปิดโอกาสให้คณะรัฐมนตรี(ครม.) ผู้บัญชาการเหล่าทัพ รวมถึงข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ เข้าอวยพรเหมือนทุกปี
ขณะที่ เฟซบุ๊กของ พล.อ.ประยุทธ์ แม้ไม่ระบุว่าวันนี้เป็นคล้ายวันเกิด แต่ได้มีประชาชนที่ทราบข่าวส่วนหนึ่ง เข้าไปอวยพรวันเกิดใต้ภาพนายกฯที่เช่น“สุขสันต์วันเกิดขอให้มีสุขภาพแข็งแรง ขอให้แก้ปัญหาโควิด-19 ให้ได้”
‘แรมโบ้’สวน’เพื่อไทย’อย่าตีกิน
วันเดียวกันนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ตอบโต้กรณีพรรคเพื่อไทย นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาดโฆษกพรรคเพื่อไทย และนายนพดล ปัทมะ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ พรรคเพื่อไทยกล่าวพาดพิงการทำงานของฝ่ายบริหารในการแก้ไขปัญหาไวรัสโควิด19ว่าแก้ไขช้ากว่าการแพร่ระบาดของเชื้อและผิดหวังในนโยบายของรัฐบาล ไร้มาตรการเข้มข้นแก้ไขไวรัสโควิด19 นั้นว่าจากที่ทั้งสองท่านจากพรรคเพื่อไทย แนะนำมาในเชิงตำหนิติเตียนรัฐบาล ตนขอให้เสนอแนะด้วยความจริงใจและบริสุทธิ์ใจไม่ใช่ตีกินใส่รัฐบาลเพื่อหวังผลทางการเมือง ซึ่งไม่ใช่เวลาที่จะตีกินหวังผลทางการเมืองใดๆ ในช่วงวิกฤติประเทศ”ใครเอาการเมืองมาเล่นช่วงนี้ มีแต่ประชาชนจะสาปแช่งแน่นอน”แต่ก็ไม่มีปัญหา สิ่งไหนที่ดีมีประโยชน์ต่อการนำมาแก้ไขปัญหา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีก็พร้อมเปิดใจรับฟังอยู่แล้ว ไม่เคยคิดว่า ใครเป็นศัตรูทางการเมือง
“เหตุวิกฤติภัยการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19เกิดขึ้นทั่วโลก มิใช่เกิดขึ้นที่ประเทศไทยประเทศเดียว มาตรการการแก้ไขป้องกันควบคุมไม่ให้แพร่ระบาด ท่านนายกรัฐมนตรี เรียกระดมประชุมคณะทำงานและทีมแพทย์สาธารณสุข ฝ่ายบริหารผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ทางการแพทย์ โดยประเมินสถานการณ์ทุกเวลาทุกนาทีทุกชั่วโมง เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดให้ได้ มีการเตรียมแผนมาตรการเข้มข้นสูงสุดทุกๆด้านซึ่งรัฐบาลก็ได้มีมาตรการประกาศออกมาเรื่อยๆเป็นระยะๆ ทั้งนี้ อาจจะกระทบความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนบ้าง ก็ต้องอดทนช่วยกันสู้วิกฤติผ่านไปให้ได้อย่างราบรื่น”
ยามมีภัยคนไทยจับมือช่วยกัน
ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ทุกคนก็ทราบกันดีว่าไวรัสโควิด-19 นี้ระบาดไปทั่วโลก บางประเทศที่เป็นมหาอำนาจ มีบุคคลากรและเครื่องมือทางการแพทย์พร้อมทุกอย่างกว่าประเทศไทยเราอย่างมากมายก็ไม่สามารถสกัดไวรัสนี้อยู่ ผู้คนติดเชื้อ เป็นหมื่นเป็นแสน เสียชีวิตหลายพันคนตามที่เป็นข่าว แต่ประเทศไทย ยังสามารถควบคุมได้ในระดับหนึ่งและยังสูญเสียน้อยกว่าประเทศเหล่านั้นมาก นั่นคือความตั้งใจ ความพยายามที่จะให้สูญเสียน้อยที่สุด
“แต่ท่านนายกรัฐมนตรี เน้นว่าทุกอย่างต้องเป็นไปตามแผนที่เตรียมการไว้อย่างมีขั้นตอน ขอให้ทุกคนมีความอดทน ถึงจะเกิดผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน แต่ก็จำเป็นป้องปกป้องชีวิตที่มีค่าของทุกคนไว้ จะทุกข์จะยากลำบากยังไง ก็ต้องอดทนสู้ด้วยกัน ยามมีภัย คนไทย ไม่เคยแพ้ เพราะคนไทยจับมือกัน ไม่ทิ่มแทงกันจึงทำให้ประเทศไทยรักษาเอกราชมาได้ถึงทุกวันนี้”นายสุภรณ์ ย้ำ
ชพน.เฮ!สส.อดีตอนค.ย้ายเข้า
เวลา 11.45 น.ที่บ้านเลขที่ 333 ถ. ราชวิถี นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา แถลงภายหลังการประชุมกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) มีผู้เข้าร่วมประชุม10คนเนื่องจากภายในเดือน เม.ย.ต้องมีการประชุมใหญ่ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจน จากคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ถึงแนวทางการปฏิบัติที่เหมาะสมว่าจะจัดการประชุมรูปแบบใดจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19แต่ของพรรคต้องเตรียมการไว้ก่อน พร้อมยังพิจารณาวาระการแก้ไขรัฐธรรมนูญ การรับสมาชิกใหม่และการวิเคราะห์ผลกระทบด้านเศรษฐกิจ
นายสุวัจน์ กล่าวว่าที่ประชุมได้ให้ความเห็นชอบรายงานการเงินของพรรคประจำปี2562ผลการดำเนินกิจการของพรรคในรอบปีที่ผ่านมา การให้ความเห็นชอบการแก้ไขข้อบังคับพรรค และการให้ความเห็นชอบเรื่องการย้ายสำนักงานใหญ่ ของพรรคชาติพัฒนาไปที่ จ.นครราชสีมา
นอกจากนี้ การรับสมาชิกใหม่ขณะนี้มีหลายท่านที่มาสมัครกับพรรค เช่น นายสมัคร ป้องวงศ์ ส.ส.สมุทรสาคร เขต 2 อดีตพรรคอนาคตใหม่ซึ่งขณะนี้นายทะเบียนพรรคชาติพัฒนาได้ส่งเรื่องไปยัง กกต.แล้ว เท่ากับตอนนี้พรรคชาติพัฒนา มี ส.ส. 4 คน
พร้อมเสนอ 8ประเด็นแก้ไขรธน.
ทั้งนี้ ประธานที่ปรึกษาฯกล่าวถึงการเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการแก้รัฐธรรมนูญซึ่งพรรคมีข้อเสนอ 8 ประเด็น คือ 1.พ.ร.บ.ยุทธศาสตร์ชาติ 20ปี ซึ่งขณะนี้สถานการณ์โลกเปลี่ยนแปลงไป จากเดิมที่กำหนดให้มีการทบทวนยุทธศาสตร์ทุก 5 ปี จึงอยากให้ทบทวนเป็นทุก 1 ปี 2.ระบบการเลือกตั้ง ควรเป็นในแนวทางเดิมปี 2540 คือ ใช้บัตร2ใบ คือเลือกผู้สมัครและเลือกพรรค เห็นว่าการทำไพรมารี่โหวต เก็บเงินค่าสมาชิกเป็นภาระของพรรคการเมือง
3.ที่มาส.ว. เราเห็นว่าเพื่อยึดโยงประชาชนจึงควรให้มาจากเลือกตั้ง 4.การสร้างความสมดุลในการตรวจสอบขององค์กรอิสระ 5.ในส่วนของงบประมาณ อยากให้ฝ่าย นิติบัญญัติ และฝ่ายบริหาร เสนอการแปรญัตติให้ตรงความต้องการประชาชน 6.การเสนอกฎหมายให้สิทธิ์เฉพาะส.ส. และประชาชนเท่านั้น 7.การแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องฟังเสียงส่วนใหญ่ด้วยการพิจารณา 3 วาระ ด้วยเสียงเกินกึ่งหนึ่งของสภา คือยึดหลักสมาชิก 2 สภาเป็นหลัก และ8.เห็นด้วยที่จะให้ผู้บริหารท้องถิ่นมาจากการเลือกตั้ง เพื่อยึดโยงประชาชน
‘ราเมศ’ติง‘อัจฉริยะ’อย่าลามปาม
ขณะที่นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กของนายอัจฉริยะ เรืองรัตนะพงศ์ว่า ให้หยุดการกระทำใส่ร้ายโจมตีพรรคประชาธิปัตย์ และบุคคลในพรรคฯ เพื่อให้เกิดความเสียหาย เพราะสิ่งที่ นายอัจฉริยะออกมาพูดนั้นเป็นข้อมูลที่ไม่มีหลักฐาน อีกทั้งเป็นความพยายามเชื่อมโยงด้วยคำพูด เรียงร้อยถ้อยคำเพื่อที่จะโน้มน้าวให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิดในข้อเท็จจริงหากนายอัจฉริยะมีหลักฐานที่อ้างว่าเด็ด ก็ควรดำเนินการตรวจสอบด้วยความตรงไปตรงมา และการใช้คำพูดที่ให้คนเข้าใจกำกวม มีลักษณะลามปามถึงผู้ใหญ่ในพรรคการเมืองใหญ่นั้น หากนายอัจฉริยะแน่จริงก็ต้องให้เอ่ยชื่อจริง นามสกุลจริง ออกมาเลย ส่วนนายอัจฉริยะเองก็เคยอยู่ในพรรคพรรคชาติไทยพัฒนามาก่อน ย่อมทราบดีว่าคนในพรรคย่อมมีความรักและผูกพันในพรรคของตน
“ดังนั้น หากมีใครมาพูดจาในลักษณะที่ทำให้พรรคเกิดความเสียหายก็ย่อมไม่มีพรรคการเมืองใดยอม รวมถึงพรรคประชาธิปัตย์ก็เช่นกัน ผมไม่เคยปกป้องใคร หากผิดก็ว่ากันไปตามผิด ถูกก็ว่ากันไปตามถูก แต่ที่พยายามเรียกร้องให้ปฏิบัติคือการตรวจสอบที่ตรงไปตรงมาให้ตรงประเด็นไม่ใช่การใช้วาทกรรมให้คนอื่นเกิดความเสียหายด้วยการพูดไม่หมด กำกวม อันเป็นการสร้างความเข้าใจผิด และก่อให้เกิดความไขว้เขวในสังคมได้” นายราเมศ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี