ศาลรธน.สั่งจำหน่ายคดี‘ไพบูลย์’ร้องวินิจฉัยชุมนุมค้านพรบ.นิรโทษกรรรมปี 57 เข้าข่ายกบฏหรือไม่
25 มีนาคม 2563 เว็บไซด์ศาลรัฐธรรมนูญ เผยแพร่คำสั่งศาลรัฐธรรมนูญในคดีที่ผู้ตรวจการแผ่นดินยื่นเรื่องพร้อมความเห็นขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามคำร้องของนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อที่ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญมาตรา 213 ว่า การที่พนักงานอัยการสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 4สำนักงานอัยการสูงสุด ยื่นฟ้องนายไพบูลย์กับพวกรวม 14 คน ที่ร่วมแสดงความคิดเห็นในการชุมนุมคัดค้านพ.ร.บ.นิรโทษกรรมเมื่อปี 57ต่อศาลอาญาในความผิดฐานเป็นกบฏ เป็นการกระทำที่ละเมิดสิทธิเสรีภาพขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่
โดยศาลเห็นว่าเมื่อพิจารณาข้อเท็จจริงตามคำร้องเป็นกรณีที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการที่พนักงานอัยการสั่งฟ้องนายไพบูลย์ในคดีหมายเลขดำที่อ. 832/2561ต่อศาลอาญาเฉพาะส่วนที่เกี่ยวกับความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 113 มาตรา 116 มาตรา 117 มาตรา 209 มาตรา 210 มาตรา 215 และมาตรา 216 ยกเว้นความผิดอาญาอื่นตามมาตรา362 มาตรา 364 มาตรา 365 และพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.และการได้มาซึ่งส.ว. 2550 มาตรา 76 และมาตรา 152 เป็นการกระทำที่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 4 มาตรา 5 มาตรา 34 มาตรา 44 มาตรา 211 วรรคสี่ และมาตรา 213
ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญได้เคยมีคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญที่ 11/2557 และคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญที่ 12/2557 โดยทั้งสองคำสั่งปรากฏชื่อนายไพบูลย์ เป็นผู้ถูกร้องที่ 33 และศาลรัฐธรรมนูญได้พิจารณาวินิจฉัยว่า การชุมนุมดังกล่าวเป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพในการชุมนุมตามรัฐธรรมนูญเพื่อแสดงออกซึ่งความคิดเห็นทางการเมือง และการกล่าวอ้างว่าผู้ถูกร้องทั้งหมดในคดีดังกล่าวรวมทั้งกลุ่มผู้ชุมนุมมีพฤติกรรมกระทำผิดกฎหมายโดยการขัดขวางการสมัครรับเลือกตั้งของบุคคลในคดีดังกล่าวนั้น เป็นเรื่องที่จะต้องดำเนินการตามกฎหมายในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
นอกจากนี้การกระทำของผู้ถูกร้องทั้งหมดและผู้เข้าร่วมชุมนุมเป็นเพียงการแสดงเจตนารมณ์ต่อรัฐบาลโดยเรียกร้องมุ่งหวังที่จะให้รัฐบาลลาออกเพื่อนำไปสู่การปฏิรูปและการแก้ไขปัญหาของประเทศก่อน หลังจากนั้นจึงจัดให้มีการเลือกตั้ง จึงไม่มีมูลกรณีเข้าลักษณะเป็นการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือเป็นการกระทำเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญตามรัฐธรรมนูญ 50 มาตรา68 วรรคหนึ่ง ประกอบกับศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งเป็นแนวบรรทัดฐานเกี่ยวกับการใช้สิทธิและเสรีภาพในการชุมนุมเพื่อแสดงออกซึ่งความเห็นทางการเมืองไว้แล้วว่า ไม่มีลักษณะเป็นการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ 50 มาตรา 68 วรรคหนึ่ง คำสั่งศาลรัฐธรรมดังกล่าวจึงย่อมมีผลผูกพันคู่กรณี และผู้เข้าร่วมชุมนุมหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องในแต่ละเหตุการณ์ของการชุมนุม รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามรัฐธรรมนูญ 60 มาตรา 211 วรรคสี่ กรณีจึงไม่มีเหตุต้องวินิจฉัยคดีนี้อีกตามพ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ 2561 มาตรา 51 จึงมีคำสั่งจำหน่ายคดี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี