โฆษก ปชป.ย้ำถ้าไม่ร่วมมือกัน ไม่สามัคคี-ไม่มีวินัย ไม่มีทางที่เราจะต่อสู้กับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19ได้
เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2563 นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงกรณีสถานการณ์การปฏิบัติตนตามข้อกำหนดต่างๆ ที่รัฐได้กำหนด ว่า
ขณะนี้เรากำลังต่อสู้กับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ทุกคนในประเทศจำเป็นที่จะต้องให้ความร่วมมือกันอย่างเต็มที่ ไม่ใช่เป็นหน้าที่ของทางภาครัฐอย่างเดียว ประชาชนทุกคนต้องปฏิบัติตนเพื่อให้เข้ากับมาตรการป้องกันด้วย ให้ความร่วมมือเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติตามกฎตามระเบียบ
นายราเมศ กล่าวว่า สิ่งที่ไม่สบายใจคือกรณีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่สนามบินสุวรรณภูมิที่มีกลุ่มประชาชนที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศแต่ไม่ได้ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ อยากให้ทุกคนคิดเพื่อประโยชน์ของสังคมส่วนรวมอย่าคิดเพื่อตนเอง การขอความร่วมมือไปกักต้ว 14 วัน นอกจากเป็นผลดีต่อตนเองแล้วที่ได้ตรวจคัดกรองเขื้อให้มั่นใจ และจะเกิดประโยชน์ต่อสังคมเป็นอย่างมาก ที่ขณะนี้เราต้องการจำกัดวงเพื่อแยกบุคคลที่ติดเขื้อ เพราะหากคัดกรองได้ก็จะป้องกันการขยายในวงกว้างได้ หากทุกคนไม่ร่วมมือกัน ไม่สามัคคี ไม่มีวินัย ไม่มีทางที่เราจะต่อสู้กับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดได้เลย
"ในส่วนของการเพิ่มเวลาการห้ามออกจากบ้าน อาจมีการขยายเวลาการประกาศเคอร์ฟิวเป็น 8 ชั่วโมง หรือ 10 ชั่วโมง นั้น คิดว่ารัฐบาลเป็นผู้มีข้อมูลดีที่สุด หากทุกคนไม่มีระเบียบวินัย รัฐจะดำเนินการออกกฏที่เข็มงวดมากขึ้นก็สมเหตุสมผล" นายราเมศ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี