วันเสาร์ ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
กักตัว14วันล้มเหลว! 'จตุพร'จี้รัฐแก้ปัญหา'คนอดตาย' ก่อนเคอร์ฟิวล็อกดาวน์ประเทศ

กักตัว14วันล้มเหลว! 'จตุพร'จี้รัฐแก้ปัญหา'คนอดตาย' ก่อนเคอร์ฟิวล็อกดาวน์ประเทศ

วันอาทิตย์ ที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2563, 18.43 น.
Tag : การเมือง เคอร์ฟิว จตุพร จตุพร พรหมพันธุ์ นปช. ประกาศเคอร์ฟิว รัฐบาล ไวรัสโคโรนา โควิด-19
  •  

"จตุพร"ร้องรัฐควรแก้ปัญหาปชช.จะอดตายให้ได้ก่อนประกาศเคอร์ฟิว24ชม. เผยมาตรการกักตัว14วันล้มเหลว เหตุคนของรัฐทำผิดพลาดซ้ำซาก แนะอย่าเพิ่งกู้เงิน อ้างไม่รู้โควิดจะนานแค่ไหน ขอเก็บไว้เป็นมาตรการสุดท้ายเพื่อฟื้นฟูประเทศ จี้รัฐงดเก็บค่าไฟ ช่วยจ่ายค่าเช่าบ้าน บี้กลุ่มทุนใหญ่ลดกำไรสินค้าช่วยคนเดือดร้อนทั่วประเทศ

เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2563 นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เปิดเผยผ่านรายการ "ลมหายใจพีซทีวี เวทีทัศน์" ว่า มาตรการกักตัวเพื่อแก้ปัญหาโควิด-19 ของรัฐบาลเกิดความล้มเหลวต่อเนื่อง เพราะกลไกรัฐปฏิบัติหน้าที่ผิดพลาดบ่อยครั้ง พร้อมไม่ซึมซับบทเรียน และปรับปรุงให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ


อย่างไรก็ตาม นายจตุพร ออกตัวว่า การพูดครั้งนี้ไม่ต้องการให้เกิดความผิดพลาดขึ้นอีก เพราะที่ผ่านมาล้วนหนักหนา จึงขอสื่อถึงผู้มีอำนาจอย่างสร้างสรรค์ และไม่ได้วิพากษ์วิจารณ์เพื่อทำลายล้าง อีกทั้งขอเรียกร้องให้รัฐบาลคำนึงถึงความจำเป็นของประชาชนกำลังอยู่ในสภาพอดตาย ดังนั้น รัฐควรมีมาตรการเร่งด่วนมาแก้ปัญหาให้ได้ก่อนจะมุ่งเดินหน้าประกาศเคอร์ฟิว 24 ชั่วโมงตามการส่งสัญญาณของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม

พร้อมระบุว่า ในสถานการณ์การแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 ขณะนี้ ได้สร้างความวิตกกังวล ทำลายเศรษฐกิจ ทำลายอาชีพย่อยยับที่สุด ตนพูดวันนี้ต้องการเสนออย่างสร้างสรรค์ ไม่ได้วิจารณ์แบบทำลายล้าง ยิ่งเมื่อนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้านสื่อถึงผู้นำรัฐบาล เพื่อให้ความร่วมมือฝ่าฟันต่อสู้กับโควิด-19 ซึ่งเป็นบรรยากาศที่ดี และอยากให้เกิดขึ้นในประเทศไทย

นายจตุพร เปิดเผยถึงความผิดพลาดของกลไกในสถานการณ์โควิด-19 ระบาดทั่วประเทศ จนประชาชนมีความยากลำบากว่า ต้องยอมรับความจริง ประชาชนเดือดร้อน เป็นทุกข์ แต่มีคนส่วนน้อยมีความสุข ดังนั้น หมอ พยาบาล เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ร้องขอบริจาคชุดป้องกันการเชื้อโรคนั้น สะท้อนถึงการตั้งงบประมาณอย่างอนาถา แต่งบกลาโหมขอซื้อเรือยกพลขึ้นบกแบบไม่รู้กาละ เทศะ แม้ถอนวาระออกไป แต่ควรซึมซับบทเรียนว่า เวลานี้ประชาชนพร้อมจะไม่ทนแล้ว

"อะไรก็ตามไปกระทบกระเทือนความรู้สึกของประชาชน แม้เขาจะอยู่ที่บ้าน แต่แรงเหวี่ยงที่เกิดจากโซเชียลมีเดียอันทรงอนุภาพนั้น ได้ส่งสัญญาณเตือนว่า ทำอะไรให้คิดถึงหัวใจประชาชนไว้บ้าง"

นายจตุพร ย้ำว่า ถ้าประเทศต้องอยู่อย่างอนาถาควรเท่ากันทุกส่วน เมื่องบประมาณไม่มีเหลือ และโรงพยาบาลร้องขอให้บริจาค และการบริจาคไม่มีใครต่อว่ากัน เพราะเป็นเรื่องของสังคมที่อยู่ด้วยความดีงามกัน แต่หากประทศมีมีเงินซื้ออาวุธ ไม่มีเงินซื้ออุปกรณ์การแพทย์ให้บุคลากรสาธารณสุขทำสงครามกับโควิด-19 แล้ว ถือเป็นความล้มเหลวของการบริหารงบประมาณอย่างสิ้นเชิง

วันนี้กระทรวงพาณิชย์ ตายไปหนึ่งแล้วจากกรณีหน้ากากอนามัย และไข่ไก่ราคาแพง ซึ่งตนเชื่อว่านายกฯ มีข้อมูลครบถ้วนว่าใครไปหากินบนความหายนะของประเทศชาติ ซึ่งเลวชนิดหาคำจำกัดความไม่ได้ แล้วยังมาเกิดกรณีกลาโหมของบประมาณอีก แต่ต้องยอมถอยออกไป

นอกจากนี้ ที่ผ่านมา ยังมีความผิดพลาดจากกรณีนักเรียนไทย หรือคนไทยเดินทางกลับจากสหรัฐมาไทย เมื่อห้ามต่างชาติเข้าไทยแล้ว จะห้ามคนไทยกลับประเทศไม่ได้ ดังนั้น เมื่อลงเครื่องบินที่สนามบินสุวรรณภูมิบอกถึง รัฐไม่มีมาตรการรองรับ จึงอนุญาติให้คนไทยชุดหนึ่งกลับบ้าน ซึ่งเป็นความผิด แต่สังคมไทยกลับวิพากษ์คนไทยกลับจากสหรัฐบางส่วนว่า หนีการกักตัว

อีกทั้ง ยังส่งกลุ่มคนไทยเดินทางกลับอีกชุดไปกักตัวที่ฐานทัพเรือสัตหีบ และเจ้าหน้าที่บอกว่า กระทันหัน เพิ่งรู้ จึงเตรียมอาหารไว้ให้ไม่ทัน สิ่งเหล่านี้ถือเป็นมาตรการกักตัวล้มเหลว อนุญาติให้กลับบ้าน แล้วสั่งให้มารายงานตัวอีก

กรณีเช่นนี้สะท้อนว่าความผิดพลาดนี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเหล่านับแต่กรณีผีน้อย (แรงงานไทยลักลอบทำงานที่ประเทศเกาหลีใต้) รู้ทั้งรู้อยู่แล้วว่า มาตรการกักตัวอยู่บ้านนั้น ถ้าไม่รับผิดชอบกันจริงแล้วทำกันยาก ดังนั้น ชี้ให้เห็นว่า ผ่านมากันหลายเดือน จนมีคนเสียชีวิต 23 ศพ คนติดเชื้อถึง 2,169 รายแล้ว จึงสะท้อนประสิทธิภาพของผู้ปฏิบัติงาน แม้ไม่มีฝ่ายใด คนใดต้องการให้เกิดความผิดพลาดขึ้นก็ตาม

"สถานการณ์โควิด-19 เป็นโรคที่เสียชีวิตน้อยแค่ 23 ศพ (ข้อมูลจากศูนย์ ศบค.เมื่อ 5 เม.ย.) แต่เสียสติ วิตกกังวลกันมาก จึงขอเรียนว่า พอเสียทีเถอะ ไม่มีใคร (ประชาชน) ทำผิดตามมาตรการของตัวเอง (รัฐ) ประกาศ นอกจากกลไกของตัวเองไปทำผิดเสียเอง จนสังคมเกิดความชุลมุน วุ่นวายขึ้นมา แล้วควบคุมกันไม่ได้"

ส่วนการประกาศเคอร์ฟิวและนายกฯยังส่งสัญญาณหากเชื้อโควิดไม่ลดแพร่ระบาดแล้วจะเพิ่มมาตรการเคอร์ฟิว 24 ชั่วโมงนั้น จัดเป็นการล็อกดาวน์ประเทศหรือปิดประเทศ แต่หลายคนเสนอก่อนหน้านี้เรื่องการล็อกดาวน์ เพราะสถานการณ์ประเทศเลยเถิดการล็อกดาวน์กันมาแล้ว

มาตรการเคอร์ฟิวนั้นมีคนไม่กี่จำพวกนั้นเกิดปัญหาในการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 แต่ไม่เกิดกับคนส่วนใหญ่ รวมถึงบังคับมาตรการให้ใส่หน้ากากอนามัย ไม่รู้มาบังคับกันเพื่ออะไร และยังมีมาตรการแจก 5 พันบาทเพื่อคน 3 ล้านคนแต่มีคนลงทะเบียน 21 ล้านคน รวมใช้งบกว่า 3 แสนกว่าล้าน แล้วยังสั่งให้คนไม่มีคุณสมบัติไปถอนชื่อออกเพื่อไม่ให้มีความผิด

ตนคิดว่า มาตรการนี้จะเป็นปัญหา แม้จะแจกให้ได้แค่ 3 ล้านคน จะถูกคน 18 ล้านด่าเอา เพราะวันนี้คนทุกข์ล่วงหน้าไปแล้ว ถ้าล็อกดาวน์กัน 24 ชั่วโมงอีก คนจะไม่มีข้าวกินกันทุกบ้าน เพราะบ้างครอบครัวหาเช้ากินค่ำ ผมว่าคนไทยจะตายกับการอดตาย และตัวเลขล่าสุดจะมากกว่า 23 ศพที่ผู้ป่วยติดเชื้อโควิดตายเสียอีก

"ก่อนที่ท่านจะคิดเคอร์ฟิว 24 ชั่วโมงหรือเรียกว่าล็อกดาวน์นั้น ท่านต้องให้เขามีข้าวกินเสียก่อน ถ้าเขายังอด อย่าไปทำเลยเชื่อผม วันนี้ท่านเคอร์ฟิว 4 ทุ่มถึงตี 5 เพื่อต้องการจัดการกับมนุษย์บ้างจำพวกเท่านั้นเอง แต่วันนี้มีกลไกเอ็กซ์เรย์กันได้ ตามตัวกันได้ จึงไม่จำเป็นต้องล็อกดาวน์กันแล้ว"

นายจตุพร ย้ำว่า ถ้ายังล็อกดาวน์ควรแก้ปัญหาปากท้องประชาชนให้ได้ก่อน เพราะมีบ้างอาชีพยังทำงานกันได้อยู่ และไม่รู้ว่ารัฐจะจ่ายเงิน 5 พันได้เมื่อไร

นายจตุพร เรียกร้องว่า เพื่อไม่ให้คนเดือดร้อน รัฐควรยกเลิกค่าไฟฟ้าให้ประชาชนดีกว่าลดให้ 3% ทั้งที่การไฟฟ้าทำรายได้ให้รัฐมหาศาล โดยเก็บค่าไฟในราคาที่เท่ากัน แต่มาจากแหล่งผลิตที่แตกต่างกัน คือ จากน้ำ ถ่านหิน และแก๊ส

ส่วนการพักหนี้นั้น สถาบันการเงินของรัฐได้พักหนี้ไปแล้ว จึงอยากเห็นสถาบันการเงินเอกชนพักชำระหนี้ตามรัฐ สำหรับคนเช่าบ้าน รัฐต้องมีมาตรการเยียวยา อีกทั้งราคาสินค้า กลุ่มทุนรายใหญ่ควรลดราคาหรือลดกำไรลงมา จะได้ขายปริมาณในจำนวนที่มากขึ้นอีก

"บางคนทั้งตระกูลมีสินทรัพย์เกือบล้านล้านแล้ว มโหฬาร แต่เราต้องการแสดงให้เห็นว่าบรรดาเจ้าสัวทั้งหลายลดกำไรของตัวเองลงมา ซึ่งผมไม่ได้ชวนให้ท่านขาดทุน แต่ยามนี้คนเดือดร้อน มีคนตกงาน 6.5 ล้านคนแล้ว ควรแสดงการลดกำไรลงมาหน่อย"

สรุปความง่ายๆ คือ ถ้ายังแก้ปัญหาปากท้องไม่ได้ ควรใช้กลไกสาธารณสุข มหาดไทย ตรวจสอบ ติดตาม สกัดการแพร่เชื้อไวรัสโควิดได้ เพียงแต่ให้การบริหารอย่างมีประสิทธิภาพ

ส่วน พรก.เงินกู้ 3 ฉบับ โดยเฉพาะการกู้ 1.6 ล้านล้านนั้น สถานการณ์ขณะนี้ การกู้เงินควรเป็นมาตรการสุดท้าย เพราะได้รัฐตัดงบ 10% จากการกระทรวงรวมมาเป็นงบกลาง 5 แสนล้านแล้ว

"ผมไม่รู้ว่า โควิดจะจบลงเมื่อไร สมมุติว่าจบใน 3 เดือน จากนั้นประเทศต้องฟื้นฟูอีกมาก และหนีการกู้เงินไปไม่พ้น แต่เวลานี้งบลงทุนพักไว้ก่อน จัดซื้อจัดจ้างที่ไม่จำเป็นพักไว้ก่อน แล้วนำมาสู้โควิด เอาให้คนรอดก่อน ผมไม่รู้ว่า งบลงทุน หรือการสร้างสะพานช้าไปเป็นปีใครจะตายกันไปบ้าง คงมีแต่ผู้รับเหมาเท่านั้นเดือดร้อน จึงฝากให้กันให้คิดว่า มาตรการเงินกู้เอาไว้ที่หลังได้หรือไม่"

นายจตุพร กล่าวถึงไฟป่าในจังหวัดเชียงใหม่ว่า ตนได้ติดตามเพจของนายสมบัติ บุญงามอนงค์ เห็นได้ชัดเจนในจังหวัดเชียงใหม่รวมถึงบางจังหวัดของภาคเหนือมีไฟป่าทวีความรุนแรง มีเจ้าหน้าที่เสียชีวิต ซึ่งคนเหล่านี้เป็นเสมือนวีรชนในการทำหน้าที่พิทักษ์รักษาไว้ ซึ่งป่าและปีนี้ถือว่ารุนแรงในรอบหลายๆปีตนในฐานะคนเคยไปใช้ชีวิตอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่เป็นครูดอยสอนหนังสือก็ไม่เคยเห็น ว่าไฟป่าจะหนักขนาดนี้ ค่าฝุ่นละอองเกินมาตรฐานหลายเท่าดังนั้นก็เป็นกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ของรัฐและประชาชนจิตอาสาทั้งหลายที่ร่วมในการเข้าไปดับไฟป่าและต้องประณามคนที่มีหน้าที่ในการจุดซ้ำแล้วซ้ำอีก

ทั้งนี้ จากที่ตนได้ติดตามการทำหน้าที่ของกรมอุทยาน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมการคิดเรื่องการดับไฟป่านั้น จะต้องยกเครื่องกันอย่างมโหฬารรัฐมนตรีกระทรวงทรัพย์ฯ นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ ซึ่งเป็นคนหนุ่มจะต้องคิดว่าในต่างประเทศที่เจอหนักกว่าเมืองไทยนั้นมีอุปกรณ์ที่มาตรฐานกันอย่างไร

"วันนี้เมื่อเจอเรื่องใหญ่เราเองยังไม่เท่าทันและไม่พร้อมที่จะเจอเรื่องใหญ่ ดังนั้น รัฐต้องจัดให้เพียงพอ ไม่ใช่รอรับแต่บริจาคจากประชาชนจนมีคนตั้งคำถามว่า จะให้ประชาชนบริจาคกันทุกเรื่องเลยหรือแล้วภาษีที่ประชาชนจ่ายไปหายไปไหน"

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • \'อ.ยิ่งศักดิ์\'ฟาดยับ \'รัฐบาล\'ทำอะไรกัน? \'ลำไย\' อ.จอมทอง ดิ่งกิโลละ 1 บาท (ชมคลิป) 'อ.ยิ่งศักดิ์'ฟาดยับ 'รัฐบาล'ทำอะไรกัน? 'ลำไย' อ.จอมทอง ดิ่งกิโลละ 1 บาท (ชมคลิป)
  • ‘ธรรมนัส’มั่นใจรัฐบาลไปรอดแม้เสียงปริ่มน้ำ เปรยการเมืองไม่มีมิตรแท้ศัตรูถาวร ‘ธรรมนัส’มั่นใจรัฐบาลไปรอดแม้เสียงปริ่มน้ำ เปรยการเมืองไม่มีมิตรแท้ศัตรูถาวร
  • เปิดหน้า สทร.! สะท้อน‘ทักษิณ’ล้างมือการเมืองไม่ได้ ต่อไปคงไปโผล่ทำเนียบฯ เปิดหน้า สทร.! สะท้อน‘ทักษิณ’ล้างมือการเมืองไม่ได้ ต่อไปคงไปโผล่ทำเนียบฯ
  • ‘อนุดิษฐ์’ประกาศนำทัพ‘กธ.’ฝ่าวิกฤติการเมือง ยกระดับสู่สถาบัน ชู‘การุณ’ขุนพลภาคสนาม ‘อนุดิษฐ์’ประกาศนำทัพ‘กธ.’ฝ่าวิกฤติการเมือง ยกระดับสู่สถาบัน ชู‘การุณ’ขุนพลภาคสนาม
  • ทุกวิกฤตย่อมมีโอกาส! \'ไผ่\'เชื่ออายุรัฐบาลที่เหลือ 2 ปี ไม่ถึงทางตัน ทุกวิกฤตย่อมมีโอกาส! 'ไผ่'เชื่ออายุรัฐบาลที่เหลือ 2 ปี ไม่ถึงทางตัน
  • ‘คปท.’แถลงการณ์ 3 ข้อ ฉะรัฐบาลล้มเหลว ปล่อย‘นักโทษ’แทรกแซง จี้‘ครม.’ลาออกยกคณะ ‘คปท.’แถลงการณ์ 3 ข้อ ฉะรัฐบาลล้มเหลว ปล่อย‘นักโทษ’แทรกแซง จี้‘ครม.’ลาออกยกคณะ
  •  

Breaking News

'กัน จอมพลัง'ไม่ทน! เห็นคลิปหลานชายทำร้ายตาวัย 80 บุกมาสอนหลานถึงบ้าน

'ทิดประดิษฐ์'อดีตเจ้าอาวาสวัดพระพุทธฉาย โชว์ส่งมอบเอกสารวัด ปัดข่าวหอบเงินหนี

'สะพานเข้าชุมชนถล่ม' ชาวบ้านกว่า30หลังคาเรือน-ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก

‘ขอนแก่น’ยกขบวนศิลปินดัง-สินค้าเด็ด‘ของดีเมืองแคน’บุกเวสต์เกต ครบจบถึง 14 ก.ค.นี้

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved