‘เกษียร’โต้‘สุวิทย์’ปมขู่ปชช.‘ไม่กักตัว-ไม่อยู่บ้าน-ห่วงแต่สิทธิ’ จะตายเพราะ‘โควิด’กันหมด
6 เมษายน 2563 ศ.ดร.เกษียร เตชะพีระ อาจารย์สาขาวิชาการเมืองการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เขียนบทความ “วิพากษ์คำขู่หลอกเด็กของสุวิทย์ เมษินทรีย์” เผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัว “Kasian Tejapira” เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2563 ที่ผ่านมา เนื้อหาเป็นการตอบโต้กรณีที่ นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัวเมื่อวันที่ 4 เม.ย. 2563 พร้อมกับคำขวัญ “Quarantine, No Human Rights; No Quarantine, No Human Left” โดย ศ.ดร.เกษียร ระบุดังนี้..
“ประโยคแรก "Quarantine, No Human Right" เป็น False statement หรือ Untruth (คำโป้ปดมดเท็จ) อย่าว่าแต่แค่กักตัวกันโรคเลย ต่อให้สถานการณ์ที่เลวร้ายกว่านี้เช่นตกเป็นเชลยศึกในสงคราม เชลยในคุกทหารของชาติศัตรูเหล่านั้นก็ยังมี Human Rights ติดตัวอยู่เสมอตามกฎหมายระหว่างประเทศ”
“ประโยคหลัง "No Quarantine, No Human Left" เป็น Pure Conjecture (เดาส่งทั้งเพ) เพราะแม้แต่ในการประเมินขององค์การอนามัยโลก โควิด-19 ก็ไม่สามารถฆ่ามนุษย์หมดโลกได้ และอย่างมากก็แพร่เชื้อให้มนุษย์ได้ราวกึ่งหนึ่งเท่านั้น มนุษยชาติยืดหยุ่นพลิกแพลงและมีสัญชาตญาณดำรงชีพดื้อรั้นเหนียวแน่นทนทายาดพอจะเอาตัวรอดจากโควิด-19 ได้แน่ แต่ที่สำคัญ เราต้องไม่ปล่อยให้ความกลัวโควิด-19 ถูกนักการเมืองอำนาจนิยมฉวยใช้มาหลอกหลอนจนสิ้นสติและสละสิทธิเสรีภาพของตนไปเพียงเพราะคำขู่ราคาถูก”
“สองประโยคต่อกัน "Quarantine, No Human Right; No Quarantine, No Human Left" เป็น False Dichotomy คือทางเลือกสองขั้วสุดโต่งที่หลอกลวงเหลวไหลทั้งคู่ เพื่อป้องกันโรค เราอาจจำเป็นต้องเลือกการกักกันตัวเพื่อป้องกันเชื้อโรคแพร่ระบาดได้ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่มีสิทธิมนุษยชนเหลือ ต่อให้เราถูกกักกันตัวก็ตาม และไม่ได้แปลว่ารัฐบาลจะใช้อำนาจตามพรก.ฉุกเฉินมากระทำยำเยียอย่างไรกับเราก็ได้ตามใจชอบ เหมือนเราไม่ใช่ผู้ใช่คนที่มีสิทธิ”
“และต่อให้เราไม่เลือกการกักกันตัวมาต่อสู้โรคระบาดโควิด-19 ก็มิได้หมายความว่ามนุษย์จะต้องตายเหี้ยนหมดโลกแน่นอน เราจะเลือกวิธีกักกันตัวหรือไม่ หรือจะใช้วิธีอื่น ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของการระบาดที่เหมาะสม ซึ่งเราพิจารณาได้ด้วยสติปัญญา ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความตื่นกลัว”
ขณะที่ข้อเขียนที่นายสุวิทย์ เผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัว “ดร. สุวิทย์ เมษินทรีย์ Dr. Suvit Maesincee” มีดังนี้..
“อยากให้ประเทศชาติ และคนในครอบครัว เป็นแบบไหน?สิ่งที่ทุกคนทำได้คือความร่วมมือ โดยเฉพาะในช่วงเวลาวิกฤตแบบนี้ทุกคนสามารถทำได้และจำเป็นต้องร่วมด้วยและช่วยกัน โดยเฉพาะผู้ที่อยู่หรือเป็นกลุ่มเสี่ยง ต้องกักตัวเองอย่างเคร่งครัด ใช้เวลาเพียง 14 วันเท่านั้น เพื่อตัวเอง เพื่อคนที่รัก และเพื่อประเทศชาติ #กักตัวช่วยชาติ ส่วนกลุ่มคนที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ขอให้ #STAYHOME หยุดเดินทางหากไม่จำเป็น”
“วินาทีนี้เราจำเป็นต้องหยุดวิกฤตนี้ได้แล้ว เพราะความจำเป็นนี้ที่จะต้องขอความร่วมมือ ก็เพื่อช่วยหยุดการกระจายเชื้อโรค ลดเจ็บ ลดป่วย ลดตาย รักษาบุคลากรทางการแพทย์”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี