"แรมโบ้"ส่งจดหมายเปิดผนึกถึง"ผู้นำฝ่ายค้าน" น้อมรับ"กระแสพระราชดำรัส" ปฏิบัติเพื่อชาติพ้นวิกฤตโควิด-19
เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2563 นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ได้ส่งจดหมายเปิดผนึกถึง นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย โดยระบุว่า ต้องขอขอบคุณท่านเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้แสดงจุดยืนชัดเจนในการแถลงการณ์ของท่าน เพื่อให้ความร่วมมือต่อรัฐบาลในการแก้ไขปัญหากับโรคร้ายไวรัสโควิด-19 ที่กำลังคุกคามประชากรโลกอย่างหนักอยู่ในขณะนี้ แต่กระผมสงสัยเหลือเกิน ในขณะที่ผู้นำฝ่ายค้านและหัวหน้าพรรคเพื่อไทยแสดงจุดยืนชัดเจน และบรรดาสมาชิกบางคนของพรรคท่าน และสมาชิกพรรคร่วมฝ่ายค้านที่ท่านเป็นผู้นำ ยังไม่หยุดวาทกรรม โจมตีใส่ร้ายเสียดสีรัฐบาลและนายกรัฐมนตรีตลอดเวลา เสมือนหนึ่งว่า ไม่เคารพในความเห็นและจุดยืนของท่านผู้นำฝ่ายค้าน
ทั้งนี้ ท่านเป็นผู้หลักผู้ใหญ่คนหนึ่งของบ้านเมืองที่น่านับถือ และเป็นตัวอย่างที่ดีของผู้นำทางการเมือง ซึ่งในขณะที่ประเทศชาติกำลังต้องการความร่วมมือ ร่วมแรงร่วมใจ ความสามัคคีของคนในชาติ เพื่อให้ประเทศไทยก้าวผ่านพ้นวิกฤติของโรคร้ายนี้ไปให้ได้
ในขณะที่สถาบันหลักของปวงชนชาวไทย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทั้งสองพระองค์ทรงพระราชทานอุปกรณ์ทางการแพทย์มากมาย และเฝ้าติดตามสถานการณ์ ด้วยความห่วงใย คอยช่วยเหลือและเป็นกำลังใจให้พสกนิกรตลอดมา พระองค์ท่านพระราชทานกระแสพระราชดํารัสในตอนหนึ่ง "มีอะไรที่จะมีส่วนช่วยเหลือ ที่จะแก้ไขปัญหาก็ยินดี เพราะว่าก็เป็นปัญหาของชาติ ซึ่งเรื่องโรคระบาดนี่ ก็ไม่ใช่ความผิดของใคร แล้วสิ่งที่เกิดขึ้น ก็คือเรามีหน้าที่ที่จะดูแลแก้ไขให้ดีที่สุด" "ประเทศของเรานี่ น่าภูมิใจว่าทำได้ดีและก็ทุกคนก็ร่วมใจกัน ก็ดีกว่าที่อื่นอีกหลายที่ แต่บางทีก็ต้อง เน้นเรื่องการทำงานมีระบบ ด้วยความเข้าใจและมีระเบียบวินัยในการแก้ไขปัญหา โดยมีเป้าหมายว่า เราจะต้องต่อสู้ให้โรคนี้สงบลงไปได้ในที่สุด เพราะว่าโรคมาได้ โรคก็ไปได้ โรคจะไม่ไปถ้าเราไม่แก้ไขปัญหา เราไม่แก้ไขให้ถูกจุดหรือเราไม่มีความขันติอดทนที่จะแก้ไข บางทีก็ต้องสละในความสุขส่วนตัวบ้าง หรือเสียสละในการกล้าพอที่จะสร้างนิสัยหรือสร้างวินัยในตัวเอง ที่จะแก้ไขเพื่อตัวเอง เพื่อส่วนรวม"
จึงใคร่ขอเรียนท่านผู้นำฝ่ายค้าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย สมาชิกพรรคเพื่อไทย และบรรดาสมาชิกพรรคร่วมฝ่ายค้าน ควรน้อมรับกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ใส่เกล้าใส่กระหม่อม น้อมนำไปปฏิบัติเพื่อร่วมมือกับรัฐบาลในการนำประเทศก้าวผ่านวิกฤตโรคภัยร้ายไวรัสนี้ไปให้ได้ ควรยุติบทบาทการเล่นการเมืองในลักษณะที่จะสร้างบรรยากาศให้เกิดความแตกแยก โดยการโจมตีใส่ร้าย ป้ายสีรัฐบาลในช่วงภาวะวิกฤติเช่นนี้ แต่ควรจะเสนอแนวทางที่สร้างสรรค์ สร้างบรรยากาศความเป็นกัลยาณมิตรให้กำลังใจรัฐบาลและผู้ปฏิบัติงานให้มีขวัญและกำลังใจกับการที่จะทุ่มเทแก้ไขปัญหาปกป้อง ชีวิตของพี่น้องประชาชนคนไทยทั้งมวลให้ปลอดภัยมากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ดังนั้น ผมเห็นว่าเมื่อท่านมีเจตจำนงแน่วแน่ตามแถลงการณ์จุดยืนของท่านแล้ว ท่านควรจะชี้แจงทำความเข้าใจกับสมาชิกพรรคของท่านและสมาชิกพรรคร่วมฝ่ายค้านในบทบาทหน้าที่ เพื่อให้หยุดพฤติกรรมการใช้วาทะที่ไม่สร้างสรรค์ทั้งหลายทั้งปวง เพราะการพูดสวนทางกับแถลงการณ์ของท่าน ยิ่งจะทำให้ ประชาชนส่วนใหญ่มองว่า ท่านในฐานะผู้นำฝ่ายค้านและในฐานะหัวหน้าพรรคอีกตำแหน่งหนึ่ง เดินไปคนละทิศคนละทางกับสมาชิก ไม่สามารถควบคุมสมาชิกบางคนในซีกฝ่ายค้านให้หยุดพฤติกรรมก้าวร้าวได้ ซึ่งสมาชิกเหล่านั้น จะกลายเป็นบุคคลที่ทำลายศักดิ์ศรีและเครดิตในตัวผู้นำฝ่ายค้านและในฐานะหัวหน้าพรรคเสียเอง
สุดท้ายนี้ผมเชื่อมั่นว่า ท่านผู้นำฝ่ายค้าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย บุคคลที่ผมเคารพนับถือ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา และท่านเป็นบุคคลที่เป็นผู้ใหญ่ที่นักการเมือง ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านให้ความเคารพนับถือชื่นชมในความมีสปิริตทางการเมืองของท่าน โดยยึดถือสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชนเป็นหลัก ดังเช่นเดียวกันกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผู้นำฝ่ายรัฐบาล ท่านได้โปรดกรุณาช่วยกันควบคุมสถานการณ์ สร้างบรรยากาศทางการเมืองเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ให้เกิดความร่วมมือกันอย่างจริงใจ เพื่อความอยู่รอดปลอดภัยของประเทศชาติและประชาชน และเพื่อความสงบสุขอย่างแท้จริงของประชาชนชาวไทยต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี