สนธิรัตน์ปัดนัดสส.โชว์พลัง
จวกพวกปล่อยข่าวตัวทำวุ่น
“สนธิรัตน์” ปัดระดม สส.พปชร. 50 คน แสดงพลัง ย้ำสถานการณ์ตอนนี้ไม่ควรมีเรื่องวุ่นวายในพรรค จวกยับพวกข่าวปล่อย ทำสับสน พรรคเสียหาย “วิเชียร” ยันไม่เห็นใบลาออก “ณัฏฐพล” ลาออกพ้น กก.บห.ระบุหากแสดงเจตนา ถือว่ามีผลแล้ว รอ กกต.เคาะประชุมใหญ่ “แรมโบ้อีสาน” ขอเวลารบ.แก้ ปัญหาโควิด เร่งดูแลปชช. แนะฝ่ายค้าน ลงพื้นที่ช่วย ข้องใจรอสภาฯเปิด 22 พฤษภาคมไม่ไหวหรือ
เมื่อวันที่ 30 เมษายน นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)ให้สัมภาษณ์กระแสข่าวส.ส.พรรค พปชร.จะตบเท้าแถลงข่าวแสดงพลังในวันนี้
สนธิรัตน์ปัดระดมสส.แสดงพลัง
โดยนายสนธิรัตน์ย้ำว่าไม่มีการนัดหารือแกนนำพรรค ตามที่เป็นข่าวและยืนยันว่าไม่มี ส.ส.กทม.40-50 คน มาให้กำลังใจ ข่าวที่เกิดขึ้นเป็นข่าวปล่อยหมด ทำให้เกิดความสับสนในพรรค พปชร .เดิมทีจะมี ส.ส. 3-4 คน เข้ามาพบเพื่อมาปรึกษาหารือเรื่องงานก็ได้สั่งให้ยกเลิกทั้งหมด ไม่เช่นนั้น จะโดนลูกหลงไปด้วยว่าเดินทางมาให้กำลังใจ
จวกยับพวกปล่อยข่าวทำสับสน
ส่วนข่าวที่ระบุว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้ต่อสายคุยกับกลุ่มต่างๆในพรรค พปชร.นายสนธิรัตน์ ตอบว่า “ผมไม่ทราบ และยังไม่ได้คุยกับ พล.อ.ประวิตรเลย
“ส่วนตัวพยายามไม่ให้พรรค พปชร มีความวุ่นวาย เพราะสถานการณ์ตอนนี้ ไม่ควรให้มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น แต่เมื่อมีข่าว จะมีการรวมตัว ส.ส.มาให้กำลังใจเช่นนี้ ทำให้เกิดความสับสน และเป็นข่าวปล่อย ไม่รู้ใครต่อใครปล่อยข่าวกันอุตลุด ทั้งที่เป็นเรื่องไม่จริง”เลขาธิการพรรค พปชร.กล่าว
วิเชียรยันไม่เห็นใบลาออก”ณัฐพล”
ด้าน นายวิเชียร ชวลิต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะนายทะเบียนพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)ยืนยันว่ายังไม่เห็นใบลาออกจาก คณะกรรมการบริหารพรรคของ นายณัฐพล ทีปสุวรรณ ที่เพียงทราบจากข่าวเท่านั้น ถึงขณะนี้ ตนก็ยังไม่เห็นใครมายื่นใบลาออกกับตน ตามระเบียบข้อบังคับพรรค เมื่อมีการยื่นใบลาออกจาก กรรมการบริหารพรรคก็จะต้องดำเนินการภายใน 45วัน เมื่อยื่นมา ก็จะดำเนินการนำเรื่องเข้าสู่การประชุมใหญ่ของพรรคเพื่อเลือกกรรมการบริหารพรรคใหม่ทดแทน และต้องแจ้งรายชื่อกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)เพื่อจะได้นำไปประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาต่อไป ขณะนี้ทุกคนทราบดีว่ายังไม่สามารถประชุมใหญ่พรรคได้ ยังติดเรื่องโควิด-19อยู่ ซึ่งเดิมทุกพรรคจะจัดประชุมใหญ่ของพรรคได้ในเดือนเมษายน จึงต้องรอไปก่อนจนกว่าจะมีประกาศจากกกต.
ชี้แสดงเจตนาลาออกถือมีผลแล้ว
เมื่อถามว่าเมื่อมีข่าวออกมาว่ามีการยื่นใบลาออกแล้วแบบนี้ ถือว่ามีผลหรือไม่ นายวิเชียร กล่าวว่า ผู้ที่แสดงเจตนาจะลาออก ก็ถือว่ามีผลแล้ว แม้จะไม่เห็นใบลาออกก็ตาม แต่ถือว่าเจ้าตัวได้แสดงเจตนาให้ปรากฏแล้ว อาจจะเป็นการแสดงเจตนาต่อหัวหน้าพรรคหรือกรรมการบริหารคนอื่น ก็ถือว่ามีผลแล้ว สำหรับ ตนคงไม่ไปโทรเช็คตามข่าวว่าจะลาออกหรือไม่อย่างไร แต่ตนจะดูที่หนังสือใบลาออก เป็นหลักถ้าเจ้าตัวมีเจตนาจริงก็จะต้องมีหนังสือส่งมาที่ตนเพื่อดำเนินการต่อไป
‘แรมโบ้’ขอบคุณฝ่ายค้านห่วงใย
ขณะที่ นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงกรณีนายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้านและบรรดาพรรคร่วมฝ่ายค้าน ที่เรียกร้องให้มีการเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญว่า ขอบคุณความเป็นห่วงใยปัญหาปากท้องประชาชนซึ่งนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลทำงานหนัก เพื่อแก้ไขปัญหาความและบรรเทาทุกข์ให้น้อยที่สุด แต่ปัญหาโควิด-19 ที่เกิดขึ้นมานั้นมีผลกระทบทุกด้าน เป็นโรคระบาดระดับโลกนานาชาติก็โดนกันถ้วนหน้า และก็ไม่เคยมีรัฐบาลในอดีตโดนหนักอย่างนี้ ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ และเรื่องใหม่สำหรับทุกประเทศทั่วโลก รู้ว่ารัฐบาลจำเป็นต้องใช้มาตรการเข้มงวดไม่เช่นนั้นเราเอาไม่อยู่เหมือนต่างประเทศแน่เมื่อเริ่มควบคุมได้ก็มีการประเมินสถานการณ์เพื่อให้มีการปลดล็อกบางอย่าง ประชาชนได้ผ่อนคลาย เศรษฐกิจก็จะเริ่มกระเตื้องขึ้นมา โดยจะเริ่มต้นเดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป
ย้ำนายกฯดูแลช่วยปชช.เต็มกำลัง
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี รับฟังทุกฝ่ายที่มีข้อแนะนำที่ดี แม้แต่ความเห็นของพรรคร่วมฝ่ายค้านก็รับฟังตลอดมา อะไรที่เป็นประโยชน์ก็นำมาปรับใช้กับสถานการณ์ รัฐบาลมีคณะทำงานที่เอาปัญหาทุกอย่างก็มากองบนโต๊ะ ตัดสินใจร่วมกัน ไม่ใช่นายกฯตัดสินใจตามอำเภอใจ ทุกอย่างต้องมีความรอบคอบรัดกุมประมาทไม่ได้ ประชาชนที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจและการใช้ชีวิตประจำวันนั้นไม่มีใครหลีกเลี่ยงได้ หนักบ้าง เบาบ้างแตกต่างกันไป ก็ต้องอดทนด้วยกัน โดยสั่งการทุกภาคส่วนลงไปดูแลประชาชนอย่างเต็มกำลัง เป็นหน้าที่ของฝ่ายบริหาร ต้องรีบเร่งทำงานช่วยเหลือประชาชนก่อน เพื่อให้ชนะก้าวผ่านโรคโควิดร้ายนี้ให้ได้ การดูแลเยียวยาให้เงิน ถึงมือประชาชนมากที่สุด และเร็วที่สุด ที่บอกว่าฝ่ายค้านกลัว จะรั่วไหล ไม่ต้องห่วง ายกฯเอาจริงเอาจัง กับเงินทุกบาททุกสตางค์ต้องใช้จ่ายเพื่อประโยชน์ประเทศชาติและประชาชนอย่างคุ้มค่าที่สุดเท่านั้น
แนะฝ่ายค้านอดใจรอสภาเปิด22พค.
“ส่วนฝ่ายนิติบัญญัติในวันที่ 22 พฤษภาคมนี้ ก็จะมีการเปิดประชุมสภาสมัยสามัญแล้ว ตนก็ไม่เข้าใจว่าบรรดาฝ่ายค้านทั้งหลายจะเร่งเปิดประชุมสภาล่วงหน้าก่อนไปทำไม พวกท่านเอาเวลาช่วงนี้ก่อนเปิดสภาไม่กี่วันนี้ไปดูแลประชาชนในพื้นที่ดีกว่าไหมประชาชนในพื้นที่ถามหาผู้แทนของเขาอยู่ และให้ฝ่ายบริหาร รัฐบาลได้มีเวลาแก้ไขให้ปัญหาประชาชนไม่ดีกว่าหรือ รออีกไม่กี่วันแค่นี้จะเป็นจะตาย ใจจะขาดเช่นนั้นเลยเชียวหรือ ผมถามหน่อยว่า ใครคนใหนที่กล้าใช้เงินไปในทางที่ไม่ถูกต้อง คงไม่มีใครเอาชื่อเสียง ไปเสียหายหากินบนความเดือดร้อนบนความทุกข์ของพี่น้องประชาชน ตามที่ทางประธานวิปฝ่ายค้านกังวลอย่างแน่นอน”นายสุภรณ์ กล่าว
นายสุภรณ์ กล่าวอีกว่าขอให้สถานการณ์คลี่คลายมากกว่านี้อีกหน่อย นายกฯก็คงอยากฟังเสียงจากทางฝ่ายนิติบัญญัติในห้องประชุมสภาเช่นกัน เพราะทุกวันนี้นายกฯ ก็มีทีมงานเอาข้อมูลที่มีประโยชน์ ของทุกฝ่ายรวมทั้งข้อเสนอของฝ่ายค้านที่สร้างสรรค์ มาประมวลเพื่อประกอบการพิจารณาในแต่ละเรื่องทุกๆวัน เราจึงเห็นการค่อยๆทยอยปลดล็อกแต่ละจุดๆ ไปเรื่อยๆ เพื่อให้เศรษฐกิจเริ่มขยับตัว และการช่วยเหลือประชาชนระดับรากหญ้าก็ขยับเพิ่มขึ้นไปอีก ดังนั้นฝ่ายค้านไม่ต้องกังวลใจ ทุกอย่างโปร่งใสตรวจสอบได้และรัฐบาลก็พร้อมยินดีให้ตรวจสอบได้ทุกเรื่อง สงสัยอะไรท่านก็รอไปถามในเวทีสภาฯ
ปชป.พร้อมเคร่งครัดหากเปิดสภา
ด้าน นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)แถลงว่าการกำหนดวันเปิดประชุมสภาสมัยสามัญ วันที่ 22 พ.ค.ว่าพรรคจะมีการพูดคุยหารือถึงการปฏิบัติตนในการเข้าร่วมประชุมสภาในสมัยสามัญ โดยนายชินวรณ์ บุญยเกียรติ ในฐานะวิปรัฐบาล จะไปทำความเข้าใจกับวิปรัฐบาลในภาพรวม และจะได้นำกลับมารายงานต่อที่ประชุม ส.ส.ของพรรคฯ ต่อไป ส่วนการขอเปิดประชุมวิสามัญพิจารณา พรก.เงินกู้ 3 ฉบับเป็นสิทธิของฝ่ายค้าน และไม่ทราบว่า ส.ส.ของพรรคเข้าร่วมลงชื่อหรือไม่ นอกจากนี้พรรคได้ทำหนังสือแจ้งเลื่อนการประชุมใหญ่พรรคออกไปก่อน เนื่องจากมีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด และขณะนี้สถานการณ์ยังไม่คลี่คลายจึงไม่สามารถจัดประชุมพรรคได้ หาสถานการณ์ดีขึ้นจะจัดประชุมต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี