9 พฤษภาคม 2563 นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่สมาคมฯได้เปิดเผยการจัดซื้อจัดจ้างรถเข็นของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) มูลค่า 152,956.21 บาท/คันและเครื่องตรวจจับแก๊สรั่ว มูลค่า 350,431 บาทซึ่งมีราคาแพงกว่าปกติทั่วไปหลายเท่า อันเป็นต้นเหตุหนึ่งนำไปสู่การกำหนดราคาค่าไฟฟ้าแพง แต่กลับมีความพยายามที่จะแก้ตัวไปแบบน้ำขุ่นเป็นพัลวันนั้น
ล่าสุดสมาคมฯยังพบว่ามีการจัดซื้อจัดหา “เครื่องตรวจสอบแก๊ส” หรือ Gas decomposition tester (ใช้ทดสอบคุณภาพแก๊ส SF6 : ซัลเฟอร์เฮกซ่าฟลูออไรด์ ในระบบไฟฟ้าแรงสูง ว่าเสื่อมสภาพหรือยังใช้งานได้อยู่) จากประเทศจีนในราคาสูงถึงเครื่องละ 1,121,379.20 บาท ในขณะที่เครื่องดังกล่าวที่มีคุณลักษณะเดียวกันผลิตขายในญี่ปุ่นราคาเพียงเครื่องละ 380,869.02 บาทเท่านั้น ซึ่งมีคุณภาพที่ดีกว่า แต่ราคาถูกกว่า ทว่า กฟผ.กลับเลือกใช้เครื่องดังกล่าวจากประเทศจีน และเมื่อตรวจสอบราคามาตรฐานที่มีการซื้อขายกันโดยทั่วไปในเวปไซด์ Alibaba ปรากฏว่ามีราคาซื้อขายเพียงเครื่องละ 6,600 -13,100 ดอลล่าห์สหรัฐหรือประมาณ 2 แสน – 4 แสนบาทเท่านั้น
นอกจากนั้นยังมีการจัดซื้อจัดหา “เครื่องวัดความชื้นแก๊ส” หรือ Moisture content measuring device จากประเทศจีนในราคาสูงถึงเครื่องละ 630,775.80 บาท ในขณะที่เครื่องดังกล่าวที่มีคุณลักษณะเดียวกันผลิตขายในญี่ปุ่นราคาเพียงเครื่องละ 291,252.78 บาทเท่านั้น ซึ่งมีคุณภาพที่ดีกว่า แต่ราคาถูกกว่า ทว่า กฟผ.กลับเลือกใช้เครื่องดังกล่าวจากประเทศจีน และเมื่อตรวจสอบราคามาตรฐานที่มีการซื้อขายกันโดยทั่วไปในเวปไซด์ Alibaba ปรากฏว่ามีราคาซื้อขายเพียงเครื่องละ 1,000 – 4,999 ดอลล่าห์สหรัฐหรือประมาณ 3.2 หมื่น – 1.6 แสนบาทเท่านั้น
นอกจากนี้ ยังมีครุภัณฑ์ที่ กฟผ. จัดซื้อจัดหามาใช้ในสถานีไฟฟ้าต่าง ๆ อีกเกือบ 20 รายการ ที่มีราคาแตกต่างจากมาตรฐานราคาที่มีการซื้อขายกันโดยทั่วไป ซึ่งเป็นข้อมูลที่สมาคมฯได้จัดส่งให้สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ไปดำเนินการตรวจสอบตามอำนาจหน้าที่ต่อไปแล้ว โดย กฟผ.จะต้องไปตอบคำถามกับ สตง. และอธิบายกับสังคมให้ได้ว่า การจัดซื้อจัดหาครุภัณฑ์ที่มีราคาแพง ๆ มาใช้ในกิจการการผลิตไฟฟ้าฟ้าเป็นวัตถุประสงค์หลักขององค์กรหรือไม่ และเมื่อซื้อมาแล้วจะทำให้ราคาค่าไฟฟ้าที่ประชาชนทุกครัวเรือนต้องร่วมกันจ่ายนั้น ถูกลงกว่าการซื้อของที่ราคาถูกกว่าใช่หรือไม่
นอกจากนั้น สมาคมฯขอฝากข้อมูลดังกล่าวไปยังศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย หรือ “Anti-Fack News Center Thailand” ด้วยว่า หากจะแก้ข่าวเพื่อมาดิสเครดิตศรีสุวรรณหรือสมาคมฯว่าเป็นข้อมูลที่บิดเบือน ก็ควรไปถามคนใกล้ชิดผู้บริหารของ กฟผ.ดูว่าเป็นข้อมูลจริงหรือไม่ สมาคมฯจะได้นำหลักฐานมาพิสูจน์เพิ่มกันให้เห็นแจ้งไปเลยว่าใครเฟคกันแน่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี