"เทวัญ" ลงพื้นที่ร่วมกิจกรรมโรงครัวเคลื่อนที่ "ครัววัดระฆังปันสุข" แจกอาหารผู้ได้รับผลกระทบโควิด-19 และผู้ป่วยติดเตียงชุมชนวัดโพธิ์เรียง

วันที่ 14 พฤษภาคม 2563 นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายณัฏฐชัย ศรีรุ่งสุขพินิจ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมคณะ พระบวรรังษี และพระครูสมุห์วัชระ ภทฺทธมฺโม ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตาราม ในกิจกรรม "ครัววัดระฆังปันสุข" จัดโดยวัดระฆังโฆสิตาราม ร่วมกับสำนักงานเขตบางกอกน้อย และสถานีตำรวจนครบาลบางกอกน้อย  ซึ่งเป็นการจัดโรงครัวเคลื่อนที่ ช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะผู้ป่วยติดเตียง และผู้สูงอายุที่ไม่สามารถเดินทางไปรับอาหารหรือเครื่องอุปโภคบริโภคที่โรงทานของวัดระฆังโฆสิตารามได้

โดยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้พบปะประชาชนในชุมชนที่มารอรับอาหาร พร้อมกล่าวให้กำลังใจ และขอให้ประชาชนให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จากนั้น รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้ร่วมแจกอาหารและผลไม้แก่ประชาชนในชุมชน จำนวนกว่า 300 ครัวเรือน และได้เดินทางไปเยี่ยมบ้านผู้ป่วยติดเตียง 4 ราย เพื่อนำปิ่นโตอาหารไปมอบและให้กำลังใจ

นายเทวัญ กล่าวว่า วัดซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจของประชาชน ในสถานการณ์ทุกข์ยาก วัดยังเป็นที่พึ่งให้ประชาชน และตามพระดำริของสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ให้วัดที่มีศักยภาพจัดตั้งโรงทานช่วยเหลือประชาชน ซึ่งทางวัดระฆังโฆสิตารามนับเป็นโรงทานต้นแบบที่มีการบริหารจัดการที่ดี และยังได้เล็งเห็นประชาชนที่ประสบปัญหา ไม่สามารถออกมารับอาหารหรือสิ่งของเองได้ ประกอบกับการร่วมรณรงค์ให้ลดใช้พลาสติก โดยให้ประชาชนนำปิ่นโตหรือภาชนะมารับอาหารกลับบ้านเอง จึงตั้งเป็นโครงการ "ครัววัดระฆังปันสุข" นำอาหารแจกจ่ายให้ประชาชนถึงที่วันนี้เป็นครั้งแรก โดยได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บริหารจัดการรับอาหารตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข มีจุดตรวจคัดกรอง บริการแอลกอฮอร์ล้างมือ และจัดที่นั่งรอรับอาหารแบบเว้นระยะห่าง รวมถึงให้ประชาชนนำภาชนะตนเองมาใส่อาหารกลับบ้าน

รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังมีแนวคิดที่จะให้วัดเป็นศูนย์กลางช่วยเหลือผู้ให้บริการรถยนต์โดยสาร (Taxi) ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในลักษณะ Drive through ซึ่งยังต้องมีการศึกษาความเหมาะสมด้านพื้นที่และการให้บริการ รวมถึงความปลอดภัยในการป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 อีกด้วย