“ณัฏฐพล” ปัดยื่นลาออก กก.บห. พปชร.รับมีคนอยากให้เปลี่ยนผู้บริหารพรรคจริง ขออย่าโยงปรับครม. เชื่อ “บิ๊กตู่” มุ่งแก้โควิด ก่อนคิดเรื่องอื่น ด้าน “พุทธิพงษ์” ชี้พรรควันนี้ไม่เหมือนวันก่อตั้ง ต้องฟังเสียงสมาชิกส่วนใหญ่
เมื่อวันที่ 15 พ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกระแสข่าวยื่นใบลาออกจากคณะกรรมการบริหารพรรคว่า ยืนยันว่าตนไม่ได้ยื่นใบลาออก ดังนั้นข่าวดังกล่าวไม่ได้เป็นข้อมูลที่ถูกต้อง ส่วนกระแสที่มีการพูดคุยกันในระหว่างกลุ่มต่างๆ นั้นก็เป็นธรรมดาของพรรคการเมือง
เมื่อถามว่า แสดงว่า มีการเคลื่อนไหวให้เปลี่ยนตัวผู้บริหารพรรคจริงใช่หรือไม่ นายณัฏฐพล กล่าวว่า ก็อาจมีคนที่มีความอยากที่จะเปลี่ยนเป็นธรรมดา
เมื่อถามย้ำว่า มีการพูดคุยในเรื่องการเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรคกันหรือไม่ นายณัฏฐพล กล่าวยืนยันว่า ไม่มี ไม่ได้อยู่ในกระบวนการที่จะเปลี่ยนหัวหน้าพรรค ซึ่งนายอุตตม สาวนายน รมว.คลังและหัวหน้าพรรคฯ ก็ยังทำหน้าที่ของตัวเองไป
เมื่อถามว่า พรรคพลังประชารัฐมีกระแสข่าวเปลี่ยนเก้าอี้หัวหน้าโยกไปมาหลายรอบ ทำให้คนมองว่าเมื่อโควิดกำลังจะหมดเรื่องการเมืองเริ่มกลับมาแล้ว นายณัฏฐพล กล่าวว่า “ไม่นะ ผมมองว่าการจะเอาเรื่องตรงนี้มาผูกกับเรื่องการเปลี่ยน ครม. ผมว่า มันไม่เป็นความจริง และนายกรัฐมนตรีมีแนวทางที่ชัดเจนว่า ในวันนี้ต้องแก้ปัญหาเรื่องโควิดเป็นหลักและเรื่องพ.ร.บ.ที่ต้องเข้าสภาฯ ในช่วงอีก 2-3 อาทิตย์นี้ ดังนั้นเรื่องเหล่านี้ควรเป็นเรื่องใหญ่ที่ควรเอาความร่วมมือของทั้งพรรคพลังประชารัฐเองและพรรคร่วมรัฐบาลมาร่วมมือกันมากกว่า ดังนั้นโอกาสที่จะเปลี่ยนแปลงอะไรด้วยสถานการณ์ตอนนี้ผมว่า เป็นไปไม่ได้เลย”
เมื่อถามว่า แสดงว่า มั่นใจใช่หรือไม่ว่าขณะนี้ตำแหน่งต่างๆในพลังประชารัฐยังอยู่ที่เดิม นายณัฏฐพล กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้ออกมาระบุชัดเจนแล้วว่าขณะนี้ต้องแก้ปัญหา โควิดเป็นเรื่องแรกก่อน
เมื่อถามว่า ทำไมกระแสข่าวที่เกิดขึ้นตอนนี้ เหมือนเป็นการโยนกันไปมา เช่น บางส่วนก็บอกว่ามีการเซ็นลาออกแล้วแต่ยังไม่ยื่น นายณัฏฐพล กล่าวว่า “จริงๆ แล้วมันมีโยนฝ่ายเดียวถ้าดูตอนนี้ แต่ไม่มี ถ้ายื่นก็ยื่น”
นายณัฏฐพล กล่าวอีกว่า สำหรับปัจจัยที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างกรรมการบริหารพรรคจริงๆ นั้น หากมีความจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลง ก็ต้องเพื่อสิ่งที่เหมาะสมกว่าและเปลี่ยนแล้วจะครบถ้วนในทุกๆด้าน แต่ตอนนี้ยังไม่มีปัญหาถึงขั้นทำให้พรรคเดินหน้าไม่ได้ ขณะนี้คุยกันได้ ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่ถ้าทำให้คะแนนความนิยมของพรรคดีขึ้น ด้วยการเชื่อมต่อเขตพื้นที่ก็เป็นสิ่งที่พรรคน่าจะต้องปรับปรุง เพราะคะแนนนิยมเป็นเรื่องที่ทุกพรรคการเมืองต้องการให้คะแนนนิยมเพิ่มขึ้น ขณะนี้พวกเราทำหน้าที่กันอยู่ และยังไม่ถึงเวลาที่จะเอาเรื่องการเมืองมาเหนือเรื่องการแก้ปัญหาโควิด-19
เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ จะมาเป็นหัวหน้าพรรคมีความเป็นไปได้หรือไม่นั้น นายณัฏฐพล กล่าวว่า เวลานี้ไม่ใช่ระยะเวลาที่เหมะสม ซึ่งได้บอกแล้วนายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหา ซึ่งพล.อ.ประวิตร เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนแก้ปัญหา ดังนั้นเรื่องการเมืองคงไม่มาเหนือเรื่องการแก้ปัญหาโควิด-19
นายณัฏฐพล ยังกล่าวถึงความพร้อมในการเลือกตั้งซ่อมที่จังหวัดลำปาง ว่า ขณะนี้ยังต้องรอคณะกรรมการบริหารพรรคหารือกันก่อน
ด้านนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะแกนนำพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐ เป็นพรรคที่มี ส.ส.มาจากหลายกลุ่ม แต่สามารถพูคคุยทำงานร่วมกันได้ระดับหนึ่ง สิ่งที่ดีที่สุดของพลังประชารัฐวันนี้เราเดินมาถูกทางแล้ว แต่ต้องพูดคุยและพยายามหาความร่วมมือในหลายๆ ส่วน มาเติมเต็มในส่วนที่ยังมีปัญหาอยู่บ้าง เช่น ปัญหาความใกล้ชิดระหว่างผู้บริหารกับสมาชิก อาจต้องจูนเข้าหากันบ้าง เพราะเรามาจากหลากหลายกลุ่ม เมื่อมาอยู่กันก็ย่อมมีปัญหา เป็นเรื่องธรรมดา
เมื่อถามว่า จนถึงเวลานี้ยังให้โอกาส นายอุตตม เป็นหัวหน้าพรรคใช่หรือไม่ นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า ตนคิดว่าโดยหลักเรื่องนี้ต้องฟังเสียงสมาชิกส่วนใหญ่ของพรรค พรรคจะเดินหน้าไปได้ก็ต้องฟังเสียงสมาชิกว่าเอาอย่างไร ก็ต้องตามนั้น เพราะเราเป็นระบอบประชาธิปไตย จะไปคิดเองคนเดียวไม่ได้ ดังนั้นปัญหาที่เกิดขึ้นจะต้องถูกแก้ปัญหาจากคนส่วนใหญ่ของพรรค ทั้งสมาชิกและส.ส.ว่าจะเอาอย่างไร และยืนยันว่า ตนไม่ได้ชี้นำ แต่อะไรที่เป็นทางออกได้ก็น่าจะดี ดังนั้นการบอกว่าควรจะเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรคหรือไม่นั้น ต้องดูภาพรวมของพรรค เพราะพรรคไม่สามารถเดินไปได้ถ้าเสียงส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยพรรคก็จะเดินยาก เพราะมีองค์ประกอบจำนวนมาก
เมื่อถามว่า เวลาที่เหมาะสมในการเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรค นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า ก็เป็นไปตามที่ตนพูดคือ ถ้าผู้บริหารหรือสมาชิกพรรคส่วนใหญ่มีความต้องการเปลี่ยนแปลง ก็จะสะท้อนผ่านที่ประชุมใหญ่ของพรรค ซึ่งภายใน 2 เดือนนี้อาจจะมีการประชุมใหญ่พรรค จึงต้องไปดูเสียงส่วนใหญ่ของพรรคว่าอย่างไร เพราะตนไม่สามารถชี้นำได้ต้องฟังเสียงสะท้อน เพราะวันที่ก่อนตั้งพรรคกับวันนี้แตกต่างกัน เพราะวันที่ก่อตั้งพรรคใหม่ๆ ยังไม่มี ส.ส.และสมาชิกจำนวนมาก แต่วันนี้มี ส.ส.กว่า 100 คน และสมาชิกอีกหลายแสนคน ดังนั้นต้องฟังความคิดเห็นส่วนใหญ่ของพรรคด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี