‘คลัง’ย้ำช่วยลดค่าครองชีพ
8กลุ่ม66ล้านคน
ถึงคิวเด็กแรกเกิด-ผู้สูงอายุ
ชงพม.ทำโปรเจกท์ดูแลทั่วถึง
“ธนกร” เผยยอดผ่านเกณฑ์รับเงินเยียวยา 5 พัน ร่วม 15 ล้านคนจ่ายแล้ว 13.9 ล้านคน สัปดาห์หน้าจ่ายต่อจนครบ 14.5 ล้านคนแจงยอดร้องทุกข์หน้าก.คลังเกือบ 3 หมื่นคน แนะสามารถร้องทุกข์เพิ่มเติมได้ที่ธนาคารรัฐทั่วประเทศ 18-29 พฤษภาคมด้าน “ลวรณ” ยันรัฐบาลดูแลทุกกลุ่มทั่วถึง ทั้ง 8 กลุ่ม เบ็ดเสร็จ 66 ล้านคน ถึงคิวเด็กแรกเกิด ผู้สูงอายุ พร้อมเติมเงินดอกเบี้ยต่ำให้กู้เพียบ
เมื่อวันที่ นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการ รมว.คลัง กล่าวถึงความคืบหน้าจ่ายเงินเยียวยา 5000 บาทว่า หลังจากปิดรับเรื่องราวร้องทุกข์ขอรับเงินเยียวยา5,000บาทในโครงการเราไม่ทิ้งกันที่กรมประชาสัมพันธ์แล้ว มีประชาชนมายื่นร้องเรียนทั้งหมดเกือบ 3 หมื่นคน ซึ่งกระทรวงการคลังได้ดำเนินการแยกกลุ่มปัญหาและดำเนินการแก้ไขไปแล้วจำนวนหนึ่ง โดยทำควบคู่กันไป
นอกจากนั้น กระทรวงคลังได้เปิดให้มีการร้องทุกข์ต่อที่ธนาคารของรัฐคือ ธนาคารออมสิน ธกส. และธนาคารกรุงไทยทุกสาขาทั่วประเทศในวันเวลาราชการ ตั้งแต่วันที่ 18 -29 พ.ค. เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่ยังเดือดร้อน แต่ขอร้องให้ทุกคนปฏิบัติตามมาตรการของรัฐอย่างเข้มงวดด้วย
นายธนกร กล่าวอีกว่า สำหรับการจ่ายเงินเยียวยานั้น ขณะนี้มีผู้ผ่านเกณฑ์จำนวน 15 ล้านคน จ่ายเงินไปแล้ว 13.9 ล้านคน และในสัปดาห์หน้ากระทรวงการคลังจะจ่ายเงินให้ครบ 14.5 ล้านคน วันนี้ชาวบ้านทั่วประเทศฝากขอบคุณพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม และนายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง ผ่านส.ส.พรรคพลังประชารัฐมา เพราะส่วนใหญ่ได้รับเงินเยียวยา 5000 บาทแล้ว สามารถช่วยประทังความเดือดร้อนในภาวะโควิด-19 ไปได้
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาตนได้ลงไปรับเรื่องร้องทุกข์ชาวบ้านเกือบทุกวัน เข้าใจหัวอกคนที่เดือดร้อนดี ดังนั้นยืนยันว่า รัฐบาลจะช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่เดือดร้อนทุกคน
ด้านนายลวรณ แสงสนิท ผอ.สำนักงานเศรษฐกิจการคลังและโฆษกกระทรวงการคลัง แถลงถึงมาตรการช่วยเหลือเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ว่าในศบค.มีศูนย์ ปฏิบัติการช่วยเหลือเยียวยาอีกหนึ่งศูนย์ซึ่งสูตรนี้มีภารกิจสำคัญคือดูแลการเยียวยาของภาครัฐให้ครอบคลุม และทั่วถึงกับประชาชนทุกกลุ่ม ดังนั้นมาตรการเยียวยาของภาครัฐไม่ได้มีเฉพาะแค่มาตรการ 5,000 บาทเท่านั้น และมาตรการเหล่านี้จะออกมาในระยะอันใกล้คือ
กลุ่มที่ 1 กลุ่มของแรงงานในระบบซึ่งมีอยู่ประมาณ 11 ล้านคน ที่ทางสำนักงานประกันสังคมดูแลให้อยู่ กลุ่มที่ 2 กลุ่มแรงงานอิสระ ที่กระทรวงการคลังรับมาดำเนินการในโครงการ “เราไม่ทิ้งกัน”ที่เยียวยาเงิน 5,000 บาท 3 เดือน ซึ่งได้ดำเนินการมาถึงโค้งสุดท้ายแล้ว โดยมีผู้ผ่านเกณฑ์ 15 ล้าน กลุ่มที่ 3 คือกลุ่มเกษตรกร ซึ่งมีประมาณ 10 ล้านคนและกระทรวงเกษตรได้ดำเนินการแล้ว เริ่มต้นไปเมื่อวานนี้ ซึ่งจะได้รับครอบครัวละ 5,000 บาท เช่นเดียวกัน กลุ่มที่ 4 กลุ่มที่เป็นเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐ ทั้งข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจหรือจะเป็นหน่วยงานของราชการท้องถิ่น ซึ่งมีประมาณ 3 ล้านคน รัฐบาลดูแลโดยทุกวันนี้ยังไม่มีการลดวันหรือลดเงินเดือน ซึ่งทั้ง 4 กลุ่มนี้มีประมาณ 40 ล้านคน ถือเป็นกลุ่มแรงงานในประเทศไทยที่มีการดูแลอยู่แล้ว
นายลวรณ กล่าวต่อว่า ยังมีกลุ่มที่ยังเข้าไม่ถึงการช่วยเหลือมาตรการของภาครัฐคือ กลุ่มที่ 5 กลุ่มเปาะบาง ซึ่งประกอบด้วย เด็กแรกเกิด ผู้สูงอายุ และกลุ่มคนพิการ ซึ่งมีอยู่ประมาณ 13 ล้านคน และทางกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์กำลังเสนอมาตรการเพื่อการดูแลกลุ่มนี้อยู่ กลุ่มที่ 6 คือกลุ่มผู้ที่มีรายได้น้อย มีทั้งหมด 14.6 ล้านคน แต่หากหักจำนวนการเยียวยาที่ไม่ซ้ำซ้อนกับกลุ่มอื่นๆ จะเหลือกลุ่มนี้เพียง 2.4 ล้านคน ส่วนกลุ่มที่ 7 คือกลุ่มที่ลงทะเบียนไม่สำเร็จ ซึ่งมาร้องเรียนกันมากในช่วงที่ผ่านมาถือเป็นกลุ่มใหญ่ประมาณ 1.7 ล้านคน ซึ่งกระทรวงการคลังมีนโยบายชัดเจนที่จะกลับมาดูให้ใหม่ โดยสามารถไปดูได้ที่ธนาคารของรัฐทุกแห่ง เพราะที่กรมประชาสัมพันธ์ ปิดแล้ว
และกลุ่มที่ 8 เป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบทางสังคมกรณีฉุกเฉิน ประมาณ 1 ล้านคน ซึ่งทางกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์มีมาตรการรองรับไว้แล้ว ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องดูไม่ให้เกิดการซ้ำซ้อนกัน ซึ่งรวมแล้วจะมีคนที่ภาครัฐจะต้องดูแลประมาณ 66 ล้านคน ซึ่งทุกกลุ่มมีมาตรการดูแลไว้หมดแล้ว
นายลวรณ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้รัฐบาลยังช่วยลดค่าใช้จ่ายของประชาชนในช่วงวิกฤติในหลายๆด้าน ในทุกมิติ และถ้ายังไม่พอ รัฐบาลก็ได้เตรียมสินเชื่อฉุกเฉินเอาไว้ด้วย วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท สามารถกู้ได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีหลักประกัน ที่ธนาคารออมสินธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธกส.) และยังมีสินเชื่อพิเศษอีกก้อนหนึ่งก็คือวงเงินประมาณ 50,000 บาทต่อคน นอกจากนี้ ยังมีแรงจูงใจให้ผู้ประกอบการหากยังรักษาระดับการจ้างงานเอาไว้เหมือนเดิมในช่วงเมษายน พฤษภาคม มิถุนายน ก็สามารถนำค่าใช้จ่ายไปหักการเสียภาษีได้ 3 เท่า และยืดเวลาการเสียภาษีนิติบุคคลด้วย นอกจากนี้
ธนาคารแห่งประเทศไทยเตรียมเงินให้ 500 ล้านของ soft Loan ที่จะให้กลุ่มธุรกิจต่างๆ ส่วน SME ก็จะมีอีกมาตรการหนึ่งมาดูแลเร็วๆนี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี