“จตุพร” นำ นปช.ทำบุญ 10 ปี “พฤษภา53” ชี้ “เผด็จการทหาร” ไร้ฝีมือ ขาดคุณธรรม แก้ปัญหา ปชช.ไม่ได้ ระบุ 10 ปี ยังไม่เห็นยุติธรรมรัฐ แจงวาทกรรม “เผาบ้านเผาเมือง” แค่กลบศพที่ถูกฆ่า ขอฝ่ายบิดเบือนความจริงหยุดพูด ซ้ำเติมเจ็บปวด ท้าถ้ายังสงสัยนัดมาถกข้อเท็จจริง ลั่นพร้อมเสมอ
19 พฤษภาคม 2563 ที่วัดนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) พร้อมแกนนำ นปช. เช่น นายยศวริศ ชูกล่อม , นายอารี ไกรนรา , นายศักดิ์ระพี พรหมชาติ และนายธนาวุฒิ วิชัยดิษฐ ร่วมกันทำบุญตักบาตรพระภิกษุสงฆ์ 9 รูป พร้อมถวายสังฆทาน ผ้าบังสุกุลและกรวดน้ำให้วีรชน รวมถึงทหารที่เสียชีวิตในเหตุการณ์เมษา-พฤษภา 2553
นายจตุพร กล่าวหลังเสร็จพิธีทำบุญ ว่า ไม่ควรมีใครต้องมาตายจากการเรียกร้องเพื่อประชาธิปไตย รวมถึงวีรชนทุกเหตุการณ์ไม่ว่าจะเป็น 14 ตุลาคม 2516 กับ 6 ตุลาคม 2519 และ พฤษภาคม 2535 รวมทั้งการต่อสู้อื่นใดของภาคประชาชนด้วย ดังนั้นตนและพวกพ้องได้นัดหมายกันว่าพี่น้องเราที่ได้ร่วมการต่อสู้เมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะอยู่ ณ ที่แห่งใด สะดวกตอนเช้าก็ตักบาตร ตอนเพลก็ถวายพระเพล หรือหลังเพลก็ทำบุญสังฆทานเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับวีรชน
นายจตุพร ระบุว่า ในวาระครบรอบ 10 ปีนี้ ท่ามกลางความเห็นที่ยังดำรงอยู่ ตนในฐานะประธาน นปช.ที่ได้ร่วมต่อสู้ และเป็นผู้อภิปรายไม่ไว้วางใจ 4 ชั่วโมงเต็ม โดยได้รวบรวมพยานหลักฐาน การล้อมปราบประชาชนเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา ดังนั้นทุกสิ่งทุกอย่าง เราได้พูดไปหมดแล้ว รวมทั้งการตั้งเวทีปราศรัย เวทีแถลงข่าว ซึ่งจะได้เห็นชัดเจน ณ ขณะนั้น มีความพยายามถอนประกันตนทุกสัปดาห์ จากการสัมภาษณ์แต่ละครั้ง ในเรื่องของการแสวงหาความยุติธรรมให้กับคนที่ตาย
“ผมมักพูดเสมอว่าในช่วง 10 ปีนี้ ยิ่งตามหาความจริงมากเท่าไหร่เราจะยิ่งเจ็บปวดมากเท่านั้น ฝ่ายที่พูดความจริงจะลงท้ายด้วยคุกตะราง ลงท้ายด้วยการลงโทษ ฝ่ายที่ลงมือฆ่าไม่มีใครถูกดำเนินคดีแม้แต่เพียงรายเดียว ดังนั้น ความพยายาม ที่จะรื้อค้นหรือกล่าวใส่ร้ายกันอีกนั้น ผมขอเตือนว่า ควรจะยุติ เพราะหากไม่ยุติ ก็ประกาศท้าทายว่า ไม่ว่าใครก็ตามให้นัดหมายกันมา ที่จะพูดถึงเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ เพราะความจริงคือ มีคนตายมากที่สุด ในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยของประเทศไทย” นายจตุพร กล่าว
นายจตุพร กล่าวด้วยว่า ในเหตุการณ์พฤษภาคมปี 2553 ตายร่วมร้อยกว่าชีวิตในเหตุการณ์และมีหลายชีวิตตายภายหลัง รวมถึงมีผู้บาดเจ็บกว่า 2 พันคน ดังนั้น ตลอดระยะเวลากว่า 10 ปีนี้ คนเสื้อแดงอยู่อย่างเจียมเนื้อเจียมตัว รู้ว่าเราไม่สามารถสู้ในกระบวนการใดได้ เพียงแต่ได้ทำหน้าที่แสวงหาความยุติธรรม แม้ว่าจะไม่ได้รับความยุติธรรมก็ตาม แต่ในวาระ 10 ปีนี้เราต้องยอมรับความจริงว่า เราไม่สามารถที่จะทวงหาความยุติธรรมให้กับคนตายได้
ประธาน นปช. ระบุว่า ตนได้พยายามทำหน้าที่ตั้งแต่ฟ้องศาลอาญาระหว่างประเทศ มอบหมายให้ โรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม เป็นทนายไปฟ้องก็ฟ้องได้คนเดียว แต่ยังไม่มีความคืบหน้า ส่วนคดีที่เกิดขึ้นในประเทศไทยนั้น แน่นอนที่สุดความตายที่ผิดธรรมชาติ จะต้องมีการไต่สวนสำนวนชันสูตรพลิกศพ ซึ่งกว่า 10 คดี ศาลได้ไต่สวนระบุชัดเจนว่า ความตายเกิดจากการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่อ้างว่าได้รับคำสั่งจาก ศอฉ. และต่อมาก็ได้มีการฟ้องจำเลยในคดีนี้ 2 คนเป็นอดีตนายกรัฐมนตรี 1 คนและรองนายกรัฐมนตรี 1 คน โดยจำเลยทั้ง 2 คนได้ต่อสู้ว่า เขตอำนาจศาลนั้นไม่ได้เป็นของศาลอาญา ขึ้นศาลชั้นต้นได้วินิจฉัยโดยอธิบดีศาลอาญา ได้มีความเห็นแย้ง ซึ่งถือว่าเป็นคดีแรกๆที่ อธิบดีศาลอาญามีความเห็นแย้งกับผู้พิพากษาในบัลลังก์ แต่เรื่องนี้ก็จบลงตรงที่ ให้เป็นอำนาจของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งจะต้องผ่านคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติหรือ ป.ป.ช
“เมื่อเรื่องผ่าน ป.ป.ช. ก็ชี้มูลว่า ไม่มีความผิด ทำให้คดีนี้เรื่องไปไม่ถึงศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ส่วนที่บอกว่าศาลพิพากษา ว่า ไม่ได้กระทำความผิดนั้น เป็นความเท็จโดยสิ้นเชิง เพราะศาลไม่เคยพิพากษาจำเลยในคดีนี้ เพราะเป็นเรื่องเขตอำนาจศาล” ประธาน นปช.กล่าว
ประธาน นปช. กล่าวอีกว่า สำหรับประเด็นต่อมาที่บอกว่าในคดีที่จำคุกตน ที่ระบุว่า ตนไปกล่าวหา เรื่องการสั่งฆ่าประชาชน ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงแต่เป็นคนละข้อเท็จจริงกัน ในคดีที่ฟ้องตนนั้นไม่ใช่เหตุการณ์ในปี 2553 แต่เป็นเหตุการณ์ในปี 2552 แต่พยายามชี้แจงดูเสมือนหนึ่งว่า ในฐานฆ่าประชาชนนั้น ศาลได้พิพากษาลงโทษไปแล้ว แต่จริงๆ แล้วนั้นเป็นเหตุการณ์ปี 2552 ไม่ใช่ในปี 2553
นายจตุพร กล่าวอีกว่า ตนขอเตือนอีกครั้งไม่ว่าในส่วนการเมืองใดก็ตาม ความจริงที่หนีไม่พ้น คือมีคนตายเกิดขึ้น และตนก็ยังเรียกร้องว่าทำไมไม่มีการไต่สวนสำนวนชันสูตรพลิกศพ พลตรีขัตติยะ สวัสดิผล พลเอกร่มเกล้า ธุวธรรม เพราะเป็นเรื่องที่ค้างคาใจคน ที่ถูกนำมาใช้ในการอธิบายกันทุกปี ทั้งที่ความตายที่ผิดธรรมชาติตามประมวลวิธีพิจารณาความอาญา ตำรวจและเจ้าหน้าที่จะต้องไต่สวนให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือนและสามารถขยายได้ 2 ครั้ง ครั้งละ 1 เดือน ในขั้นตอนอัยการ 1 เดือนขยายได้ 2 ครั้ง ซึ่งหมายความว่าระหว่างตำรวจและอัยการขยายการไต่สวนเต็มที่แล้วไม่เกิน 6 เดือน ทุกครอบครัว ที่เป็นครอบครัววีรชน ก็อยู่กับความทุกข์ ไม่ได้แตกต่างกันกับกว่าร้อยชีวิตนี้ ไม่ว่าจะเป็นประชาชนหรือเจ้าหน้าที่รัฐ ดังนั้นอย่าพยายามอธิบายหาเศษหาเลยกัน เพราะหลายคนมีความเกี่ยวข้อง
“ผมขอเตือนอีกครั้งว่า ผมในฐานะประธานคนเสื้อแดง ไม่ได้ปลุกคนเสื้อแดงขึ้นมาต่อสู้ใหม่ แต่คนปลุกคนเสื้อแดงคือฝ่ายปราบปรามคนเสื้อแดง ที่พยายามประโคมข่าวในขณะนี้ ไม่ว่าคนที่อยู่ใน ศอฉ.หรือคนที่มีความเกี่ยวข้อง” นายจตุพร กล่าว
นายจตุพร กล่าวด้วยว่า ดังนั้น ที่ตนพยายามไม่ตอบเป็นรายประเด็นนั้น เนื่องจากไม่ต้องการสร้างความขัดแย้งขึ้นมาใหม่ในท่ามกลางที่ประเทศที่ต้องสู้กับโควิด-19 และภาวะเศรษฐกิจปากท้องที่แสนสาหัส แต่อย่างไรก็ตามหากต้องการพิสูจน์ความจริง ตนก็พร้อมทุกกรณี
อีกอย่างบทเรียนต่างๆในทุกเหตุการณ์เรามักจะพูดว่า ควรจะเป็นครั้งสุดท้ายในการเข่นฆ่าประชาชน และประชาชนที่ตายไม่มีเขม่าดินปืนในมือและไม่พบว่าผู้ตายมีอาวุธแม้แต่รายเดียว จึงไม่ใช่ผู้ก่อการร้าย อย่างที่ผู้ถืออำนาจรัฐกล่าวอ้าง อีกทั้งการสร้างวาทกรรมเรื่องเผาบ้านเผาเมืองนั้นเพียงเพื่อต้องการกลบศพเท่านั้นเนื่องจากผู้เสียชีวิตถูกฆ่าก่อนที่ไฟจะไหม้ แต่ 6 ศพที่ วัดปทุมฯถูกฆ่าขณะไฟไหม้
นายจตุพร กล่าวว่า ตนได้มีโอกาสพูดคุยกับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ก่อนการรัฐประหารปี 2557 ไม่กี่นาที ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นอีกในสังคมไทย แต่เห็นชัดว่า ระบอบเผด็จการทหาร ไม่สามารถแก้ไขปัญหาความยากจนและความเดือดร้อนของประชาชนได้ แม้แปลงร่างเข้ามาตั้งพรรคการเมืองก็ไม่แตกต่างจากพรรคสามัคคีธรรม ที่ตั้งขึ้นมารองรับการสืบทอดอำนาจคณะรัฐประหารเมื่อปี 2534 ก่อนจบลงที่เหตุการณ์พฤษภา 2535
“ในวันที่ 22 พฤษภาคมนี้ที่จะครบรอบการรัฐประหารปี 2557 นั้น นปช.ไม่มีกิจกรรมอะไร เพียงแต่แกนนำ นปช. จะแสดงความคิดเห็นและจุดยืนที่ไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหารผ่านช่องทางต่างๆเท่านั้น” นายจตุพร กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี