เก็บตกอีก1.7ล้านคน
คลังจ่อปิดจ๊อบเยียวยา5พัน
‘บิ๊กป้อม’สั่งจัดหาที่ทำกิน
ช่วยเหลือผู้เดือดร้อนตกงาน
“ธนกร” เผย รมว.คลัง พอใจเงินเยียวยา 5 พัน ถึงใกล้ครบ 15 ล้านคนรอปิดจ๊อบหลังเก็บตกลงทะเบียนไม่สำเร็จอีก 1.7 ล้านคน ด้าน รมว.เกษตรฯส่งรายชื่อเกษตรกรให้ ก.คลัง ตรวจสอบซ้ำซ้อน 700,000 ราย ในขณะที่“บิ๊กป้อม” สั่งสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน จัดหาที่ทำกินให้ผู้เดือดร้อนตกงานจากวิกฤติไวรัสโควิด-19
เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงความคืบหน้าเยียวยา 5000 บาท ตามโครงการ”เราไม่ทิ้งกัน”ว่าขณะนี้ผลการดำเนินการสำเร็จเรียบร้อยแล้ว 99 เปอร์เซ็นต์ ส่วนอีก 1 เปอร์เซ็นต์ คือ ส่วนที่ตกค้างจากการทบทวนสิทธิ์ ทั้งนี้ มีผู้ผ่านเกณฑ์รับเงินเยียวยาจำนวน 15 ล้านคน
โดยขณะนี้ กระทรวงการคลังจ่ายเงินเยียวยาครบแล้ว ทั้ง 15 ล้านคน ส่วนอีก 2.4 แสนคน อยู่ระหว่างทบทวนสิทธิ์ เนื่องบางส่วนติดต่อได้ แต่ไม่สามารถนัดพบได้ หรือ ที่อยู่จริงในปัจจุบันไม่ตรงกับที่ได้ลงทะเบียนทบทวนสิทธิ์ไว้ และบางส่วนผู้พิทักษ์สิทธิ์พยายามติดต่อไปหลายครั้ง ก็ไม่สามารถติดต่อได้ ขณะที่กลุ่มที่ไม่สามารถนัดพบได้ หรือติดต่อไม่ได้นั้น กระทรวงการคลังจะส่ง sms แจ้งให้ทราบอีกครั้ง และให้ไปติดต่อที่สาขาธนาคารกรุงไทยเพื่อยืนยันตัวตนและการประกอบอาชีพได้จนถึงวันที่ 29 พ.ค.
ปิดจ๊อบสิ้นพค./สั่งเก็บตก1.7ล้านคน
ทั้งนี้ เลขานุการ รมว.คลัง กล่าวอีกว่า นายอุตตม สาวนายน รมว.คลังได้เรียกประชุมติดตามเรื่องนี้ และเตรียมที่จะปิดโครงการภายในสิ้นเดือน พ.ค.นี้ โดยนายอุตต พอใจผลการดำเนินงานที่สามารถช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้อย่างเต็มที่
นอกจากนี้ นายอุตตม ยังได้สั่งการให้เข้าไปดูแลประชาชนที่ลงทะเบียนไม่สำเร็จอีก1.7ล้านคนด้วย ซึ่ง จากการที่ตนได้ลงพื้นที่นั้น ประชาชนต่างพอใจการทำงานของรัฐบาลในการช่วยเหลือเยียวยาประชาชน พร้อมยังฝากขอบคุณ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมรวมถึง นายอุตตมด้วย
ส่งชื่อเกษตรกรซ้ำซ้อน7แสนมีขรก.ด้วย
ด้านนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการจ่ายเงินเยียวยาเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19ว่าเกษตรกรกลุ่มแรกที่ขึ้นและปรับปรุงทะเบียนก่อนวันที่30 เม.ย. 8.33ล้านรายนั้น ทางสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)ได้ตรวจสอบความซ้ำซ้อนกับผู้ได้รับสิทธิ์ตามโครงการเราไม่ทิ้งกันของกระทรวงการคลัง ผู้ที่ได้รับสวัสดิการผ่านระบบข้าราชการบำนาญของกรมบัญชีกลางและระบบประกันสังคมของสำนักงานประกันสังคมแล้ว คงเหลือ7.77ล้านรายซึ่งกระทรวงการคลัง ส่งเรื่องกลับมายังกระทรวงเกษตรฯอนุมัติให้จ่ายเงินเยียวยาได้ 6.85ล้านรายโดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.)จ่ายเงินมาตั้งแต่วันที่15พฤษภาคม
รมว.เกษตรฯกล่าวอีกว่าล่าสุด ทางสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร(สศก.)ซึ่งเป็นนายทะเบียนได้ส่งให้ สศค.พิจารณาเพิ่ม 700,000รายโดยมีรายชื่อเกษตรกรที่รับราชการประจำอยู่ในกลุ่มนี้ด้วย แต่ส่วนตัวเห็นว่าข้าราชการประจำ เป็นกลุ่มที่ได้รับการดูแลจากรัฐอยู่แล้ว มีรายได้ประจำ แต่การพิจารณาเป็นอำนาจของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ โดยตามมติ ครม.วันที่ 28 เม.ย.ไม่ได้ระบุให้ตัดข้าราชการประจำ ออกจากโครงการจ่ายเงินเยียวยาเกษตรกร
“ขอย้ำว่ากระทรวงเกษตรฯไม่มีอำนาจพิจารณาว่า จะจ่ายเงินเยียวยาให้แก่กลุ่มใดบ้าง มีหน้าที่เพียงรวบรวมทะเบียนเกษตรกร ยืนยันการมีตัวตน ตรวจสอบว่าทำเกษตรจริงเท่านั้น เมื่อกระทรวงการคลังอนุมัติการจ่ายเงิน ทางกระทรวงเกษตรฯจะจัดส่งรายชื่อให้ ธ.ก.ส.โอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรซึ่งการจ่ายเงินต้องทำด้วยความรอบคอบและโปร่งใสเพราะเป็นภาษีของประชาชน”นายเฉลิมชัย ย้ำ
“บิ๊กป้อม”ห่วงคนตกงานถูกเลิกจ้าง
ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแล สถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน ) หรือ บจธ. มีความห่วงใยประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา หรือโควิด – 19 ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เนื่องจากบริษัท โรงงาน สถานประกอบกอบการ และร้านค้าจำนวนมาก ต้องลดการจ้าง เลิกจ้าง และปิดกิจการ เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจำนวนมากให้มีที่ดินทำกินเป็นของตัวเอง บจธ. ซึ่งมีภารกิจลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเป็นธรรมอย่างยั่งยืนมาอย่างต่อเนื่อง จึงขอให้เกษตรกรไร้ที่ดินทำกิน หรือได้รับผลกระทบต่าง ๆ ได้รวมกลุ่มกันเข้าร่วมเป็นสมาชิก บจธ. เข้ารับการอบรมการทำการเกษตรตามแนวทางศาสตร์พระราชาและยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ได้ทำอาชีพเกษตรกรรม พึ่งพาตนเอง อย่างมีศักดิ์ศรีลดรายจ่าย และมีกินโดยขอรับการจัดสรรที่ดินทำกินเป็นการถือกรรมสิทธิ์ร่วม เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการทำให้เศรษฐกิจมีฐานรากเข้มแข็ง มั่นคงและยั่งยืนต่อไป ซึ่งขณะนี้มีประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากผลกระทบโควิด-19 ยื่นขอความช่วยเหลือต่อ บจธ แล้ว จำนวน 2000 ครัวเรือน (6,000 ราย) ซึ่งจะใช้งบประมาณราว 1,850 ล้านบาท
สั่งบจธ.เร่งช่วยคนภูมิลำเนามีที่ทำกิน
ด้านพล.ต.อ เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน ฐานะประธานบอร์ด บจธ. กล่าวว่าพล.อ.ประวิตรยังสั่งการให่้ บจธ. เดินหน้าช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากพิษโควิด-19ในการทำกินมาหวังพึ่งบจธ โดยเสนอ ค.ร.ม.ลดค่าธรรมเนียม ในการโอนและจดจำนอง อสังหาริมทรัพย์โดย ได้เสนอคณะรัฐมนตรีเรื่องการลดหย่อนค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเป็นพิเศษ ตามประมวลกฎหมายที่ดิน สำหรับกรณีการโอนและการจำนองอสังหาริมทรัพย์ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 8 มิถุนายน 2563 - 7 มิถุนายน 2565 เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา หรือ โควิด-19
โดยการลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมในการโอน จากเดิมร้อยละ 2 หรือ ล้านละ 20,000 บาทเป็น ร้อยละ 0.01 หรือ ล้านละ 100 บาท และลดค่าค่าธรรมเนียมการจำนองอสังหาริมทรัพย์ จากเดิมร้อยละ 1 หรือ ล้านละ 10,000 บาท เป็นร้อยละ 0.01 หรือ ล้านละ 100 บาท ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบกับข้อเสนอดังกล่าวข้างต้น เป็นการช่วยเหลือประชาชนในการลดภาระค่าใช้จ่ายในส่วนค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมในการโอน และการจำนองอสังหาริมทรัพย์ ที่ทำกับ สถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน(บจธ) ด้วย ทั้งนี้ ประชาชนทั่วไปสามารถติดต่อ บจธ ได้ที่ เบอร์โทรศัพท์ 02-2781244 มือถือ 086-6272000
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี