'หมอเรวัต'ชี้หมอก็รู้อยู่แก่ใจ! ปมยืด'พ.ร.ก.ฉุกเฉิน'ไม่ได้สกัดโควิดแต่สกัดม็อบ

'หมอเรวัต'ชี้หมอก็รู้อยู่แก่ใจ! ปมยืด'พ.ร.ก.ฉุกเฉิน'ไม่ได้สกัดโควิดแต่สกัดม็อบ

วันอังคาร ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2563, 14.24 น.

วันที่ 23 พฤษภาคม 2563 นพ.เรวัต วิศรุตเวช อดีตอธิบดีกรมการแพทย์ อดีตที่ปรึกษา "ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ" สมาชิกพรรคเสรีรวมไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "Rewat Wisutwet M.D." ระบุว่า  รัฐบาลใช้หมอเป็นเครื่องมือ ใช้โควิดเป็นข้ออ้าง ให้ยาไม่ตรงกับโรค

การจับกุมคุณหมอทศพร เสรีรักษ์ และเพนกวิน นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ กับอีกหลายคนที่ทำกิจกรรมครบรอบ 6 ปี รัฐประหาร ของ คสช. เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม เป็นการยืนยันอีกครั้งว่ารัฐบาลใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อสกัด ม็อบเพราะกระบอกเสียง อย่าง ศบค. ที่แถลงทุกวัน ไม่เคย ชี้แจงหรืออธิบาย ถึงความสัมพันธ์ ระหว่าง พ.ร.ก.ฉุกเฉินว่ามีผลอย่างไรกับการสกัดการระบาดของโรค อย่างเป็นวิชาการ 


นอกจากนั้นยังเห็นได้ชัดเจนว่า รัฐบาลไม่ใส่ใจที่จะวิเคราะห์ข้อมูลว่าผู้ฝ่าฝืนเคอร์ฟิว หลายหมื่นคนนั้นมีผู้ป่วยด้วยโรคโควิดแล้วนำส่งโรงพยาบาลเพื่อการรักษาและไม่แพร่เชื้อต่อ จำนวนทั้งหมดกี่ราย ซึ่งควรแถลงให้ประชาชนทราบและเชื่อว่าเคอร์ฟิวจาก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน นั้น ช่วยสกัดโควิดได้จริงๆ

อีกเรื่องที่ควรทำแต่ก็ไม่ทำคือทุกวันตะบันตรวจวัดอุณหภูมิทุกห้าง ร้านอาหาร สถานที่ทุกแห่ง วันละหลายแสนคนแล้วพบว่ามีไข้กี่คน ควรรายงาน และถ้ามีไข้ไม่อนุญาตให้เข้าแล้วต้องนำส่งโรงพยาบาลเพื่อตรวจโควิด โดยอำนาจ ตาม มาตรา 14 19 22 24 และ 28 พรบ โรคติดต่อ ถ้าพบว่าเป็นผู้ติดเชื้อก็รับไว้รักษาและกักกันโรค

วันนี้ชัดเจนแล้วว่าหมอถูกใช้เป็นเครื่องมือให้อ้างโควิดเพื่อยืดอายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉินต่อไปอีก 1 เดือน ทั้งที่หมอเองก็รู้แก่ใจว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉินไม่ได้ช่วยสกัดโควิด แต่ช่วยสกัดม็อบ หมอยอมขายกันจนหมดตัว ทั้ง วิชาความรู้ และจรรยาบรรณโดยให้ยาไม่ตรงกับโรค ใช้ยาชื่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อรักษาอำนาจ แต่ไม่รักษาโรคโควิด.

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top