นายกฯควง “16 รมต.” พร้อมแจงพ.ร.ก.เงินกู้ฯ ในสภา โดยเน้นข้อมูลให้ความกระจ่างใช้เงินกู้-ให้ความรู้ปชช.ชี้เป็นโอกาสดีที่รับฟังข้อเสนอแนะ สส. ยันใช้เงินทุกบาท ให้คุ้มค่า “เทพไท”เสนอสภาพิจารณาแยกทีละฉบับ มั่นใจพ.ร.ก.เงินกู้ผ่านฉลุย “พิธา” ผ่าตัดต้นคอวืดเข้าสภาฯ อภิปรายพรก.กู้เงิน’ชี้กระทบผูกพันถึงรุ่นลูกหลาน”เพื่อไทย”แจงเหตุสุดวิสัย ถอนตัว ไม่ชิงสส.ลำปางเขต4 ชู‘เสรีรวมไทย’ ตัวแทน”ฝ่ายค้าน”
เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีแถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ว่า ในวันที่ 27-31พ.ค.นี้ สภาผู้แทนราษฎรจะมีการพิจารณาร่างกฎหมาย 5 ฉบับ คือ 1.พระราชกำหนด (พ.ร.ก.)ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ปัญหาเยียวยาจากโควิด-19 2.พ.ร.ก.การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่วิสาหกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 3.พ.ร.ก.รักษาเสียสภาพของระบบการเงินและความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ พ.ศ. 2563 4.พ.ร.ก.ว่าด้วยการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2563 และ5. ร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) โอนงบประมาณรายจ่าย พ.ศ.2563
นายกฯคว.16รมต.แจงพรก.เงินกู้ฯ
“โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมก็ถือว่าเป็นโอกาสที่ดี ที่จะเปิดให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ได้มีการอภิปรายกันอย่างเต็มที่โดยรัฐบาลรู้สึกดีใจที่จะได้รับฟังข้อเสนอแนะต่างๆจากส.ส.ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลซึ่งรัฐมนตรีที่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับการใช้งบประมาณและกฎหมายทั้ง 5 ฉบับ มีจำนวน 16 ราย รวม นายกรัฐมนตรี เป็น 17 ราย ทุกคนยังได้เตรียมให้ข้อมูลเพื่อให้ความกระจ่างกับฝ่ายนิติบัญญัติ และประชาชนที่จะได้ติดตามการอภิปรายในครั้งนี้”รองโฆษกฯ กล่าว
น.ส.รัชดา กล่าวอีกว่านอกจากนี้ทางกรมประชาสัมพันธ์ได้เตรียมความพร้อม เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกฎหมายทั้ง 5 ฉบับนี้ โดยเฉพาะในเรื่องเกี่ยวกับการเงิน รัฐบาลจะนำไปใช้อย่างไรบ้าง เพราะเราอยากให้ประชาชนได้รับฟังข้อเสนอแนะต่างๆ จากผู้แทนราษฎรด้วย โดยกรมประชาสัมพันธ์ได้จัดเวลาในการนี้โดยเฉพาะ ผ่านการยกประเด็นและข้อมูลสำคัญของทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้านมานำเสนอให้แก่ประชาชนรับทราบ
ใช้เงินทุกบาทให้คุ้มค่าช่วยปชช.
นางนฤมล ภิญญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวนายกฯฝากตอบคำถามที่สื่อมวลชนฝากถามมา กรณีฝ่ายค้านตั้งข้อสังเกตเรื่องพ.ร.ก.เงินกู้ฯที่มีความกังวลว่าจะนำเงินไปใช้อย่างไร โดยนายกฯระบุว่า ได้กำหนดไว้อย่างชัดเจนว่าจะนำเงินไปใช้ในเรื่องใดบ้าง และทุกโครงการที่เสนอขึ้นมาต้องมีแผนงานอย่างชัดเจน มีคณะกรรมการกลั่นกรอง ทำหน้าที่พิจารณา และยังจะมีระบบตรวจสอบอีกหลายส่วนรวมถึงภาคประชาชนที่สามารถร่วมตรวจสอบการใช้เงินจาก พรก.เงินกู้ฯดังกล่าวได้ด้วย ซึ่งรัฐบาลจะนำทุกโครงการนำเข้าสู่ระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในรายละเอียด และร่วมตรวจสอบ ยืนยันว่าจะใช้เงินกู้ทุกบาท ทุกสตางค์ให้คุ้มค่า มีประสิทธิภาพช่วยเหลือประชาชนให้มากที่สุด
เทพไทเสนอพิจารณาแยกทีละฉบับ
ขณะที่นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เสนอจะให้อภิปรายไปพร้อมกันทั้ง 4 ฉบับและแยกลงมติทีละฉบับว่าส่วนตัวเห็นว่าการพิจารณา พรก.ทั้ง4ฉบับรวมกัน จะก่อให้เกิดปัญหาในการอภิปรายหลายประการเช่น1.รายละเอียด เนื้อหาของพรก.แต่ละฉบับ มีความแตกต่างกัน การพิจารณารวมกัน อาจเกิดปัญหาความลักลั่นของข้อมูล 2.ระยะเวลาการอภิปราย สส.แต่ละท่านที่มีถูกจำกัดเวลา ถ้าอภิปรายรวมกันทั้ง 4 ฉบับ อาจทำให้เวลาไม่เพียงพอได้ 3.การพิจารณารวมกันจะทำให้ข้อมูลการอภิปราย พรก.แต่ละฉบับ ไม่ต่อเนื่อง ประชาชนที่ติดตามอภิปรายอาจสับสนได้ 4.การอภิปรายทีละฉบับจะทำให้ผู้อภิปราย เตรียมตัว เตรียมข้อมูลของแต่ละฉบับได้สมบูรณ์มากกว่า ซึ่งเรื่องนี้ทั้งรัฐบาลและวิปทั้ง2ฝ่าย ควรจะปรึกษาหารือให้มีข้อสรุปที่ชัดเจน ให้มีการอภิปรายแยกทีละฉบับ เรียงลำดับกันไป จนกว่าจะมีการอภิปรายเสร็จสิ้น จึงค่อยนำมาลงมติทีละฉบับตอนสุดท้ายจะดีกว่า
เชื่อมั่นพรก.เงินกู้ผ่านแน่นอน
นายเทพไท กล่าวอีกว่า สำหรับการลงมติเห็นชอบ พ.ร.ก.ทั้ง 4 ฉบับนั้น มั่นใจว่าสามารถผ่านความเห็นชอบได้อย่างแน่นอน เพราะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรฝ่ายรัฐบาลทุกคน จะต้องลงมติเห็นชอบตามมติของวิปรัฐบาล เพราะเป็นกฎหมายสำคัญของรัฐบาล ถ้า พ.ร.ก 4 ฉบับนี้โหวตไม่ผ่าน ตามมารยาททางการเมือง รัฐบาลก็ต้องแสดงความรับผิดชอบ ไม่ยุบสภา ก็ต้องลาออก ซึ่งยังไม่มีพรรคการเมืองใดพร้อมจะรับความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในขณะนี้ แต่อาจจะมีสมาชิกหลายคนใช้สิทธิ์อภิปรายนำเสนอข้อมูล ข้อเสนอแนะ ข้อท้วงติง หรือ ตั้งข้อสังเกตในบางประเด็น เพื่อให้รัฐบาลได้นำไปปรับปรุงแก้ไขจุดบกพร่องของ พ.ร.ก.ทั้ง 4 ฉบับ เพื่อให้มีประสิทธิภาพในทางปฏิบัติต่อไป
‘พิธา’เข้าผ่าตัดวืดถกพรก.กู้เงิน
ด้าน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล โพสต์ Facebook ประกาศให้ทราบว่าปัญหาการบาดเจ็บเรื้อรังมาเป็นเวลานานที่บริเวณต้นคอ ได้ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น จากการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหลายท่านได้ลงความเห็นว่าจำเป็นต้องเตรียมตัวเข้ารับการผ่าตัดและพักฟื้นร่างกายในทันทีโดยตั้งแต่วันพุธที่ 27พฤษภาคมเป็นต้นไป จะไม่สามารถเข้าสภาฯพร้อมกับเพื่อน ส.ส.พรรคก้าวไกล ทุกคนได้
“ผมรู้สึกเสียดาย และเสียใจที่ไม่สามารถเข้าไปทำหน้าที่ผู้แทนของพี่น้องประชาชนในวาระเปิดสมัยประชุมสภานี้ได้ เมื่อผมพักฟื้นและอาการหายดีขึ้นจะกลับมาทำหน้าที่ผู้แทนราษฎรและหัวหน้าพรรคก้าวไกล อย่างเต็มที่อีกครั้ง”นายพิธา ย้ำ
ซัดกระทบผูกพันถึงรุ่นลูกหลาน
นอกจากนี้ นายพิธา ยังระบุว่า ตลอดเดือนที่ผ่านมา ตนและเพื่อน ส.ส.พรรคก้าวไกลได้เตรียมตัวกันอย่างเข้มข้นในการอภิปรายตรวจสอบการกู้เงินของรัฐบาล เพื่อพิทักษ์รักษาผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ และ เชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าแม้ตนจะไม่ได้เข้าร่วมอภิปราย แต่เพื่อน ส.ส.ทุกคนที่เป็นผู้อภิปรายในครั้งนี้ จะทำหน้าที่ได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่องและขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนร่วมกันติดตามการประชุมสภาวันที่ 27-31พฤษภาคม เป็นการอภิปรายและตรวจสอบการตรา พรก.ทั้ง4ฉบับและพรบ.อีก1ฉบับ สิ่งเหล่านี้ทั้งหมดทั้งมวลจะส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนโดยตรง ไม่เพียงแต่ในรุ่นเราเท่านั้น แต่จะส่งผลผูกพันกระทบไปถึงรุ่นลูกหลานของพวกเราอีกด้วยเพราะคือการพิจารณากู้เงินเพื่อนำไปใช้จ่ายฉุกเฉินก้อนใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย พร้อมยังขอเป็นกำลังใจให้เพื่อนผู้แทนราษฎรทุกคนในสภาได้ทำหน้าที่อย่างสุดความสามารถโดยใช้เวทีรัฐสภาในการผลักดันความต้องการของประชาชนผู้ทรงอำนาจสูงสุดของประเทศนี้ให้บังเกิดผลเป็นรูปธรรมและเป็นพลังเคียงข้างพี่น้องประชาชนที่ยังคงต่อสู้อยู่ทุกหนแห่ง และ ตนจะกลับมาเร็วๆนี้
“พท.”แจงเหตุไม่ส่งชิงสส.ลำปาง
ทางด้านนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรกล่าวถึงกรณีนายพินิจ จันทรสุรินทร์ แคนดิเดตว่าที่ ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย ไม่ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ลำปาง เขต 4 แทนตำแหน่งที่ว่างว่า พรรคเพื่อไทยได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายในการส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งครบถ้วนถูกต้อง สามารถไปยื่นสมัครได้ตั้งแต่วันแรกของการเปิดรับสมัคร นายพินิจ เองก็แสดงความพร้อมในการลงรักษาพื้นที่และดูแลพี่น้องประชาชนชาวเขต 4 ลำปาง แต่พอถึงวันสมัคร นายพินิจ รู้สึกไม่สบายใจ เพราะยังคงโศกเศร้าเสียใจ และทำใจเรื่องการสูญเสียบุตรชายยังไม่ได้ ประกอบกับประเมินว่ารัฐบาลไปต่อลำบาก อายุสภาอาจเหลือไม่มาก และต้องเผชิญกับการใช้อำนาจรัฐสารพัดรูปแบบ แต่ที่สำคัญ นายพินิจมีความประสงค์ จะลงสมัคร นายก อบจ.ซึ่งต้องลงแข่งขันในอีกไม่กี่เดือนและได้ยื่นความจำนงค์ แจ้งให้พรรคทราบไปแล้วก่อนหน้านี้จึงตัดสินใจขอเว้นวรรคการเลือกตั้งซ่อมในครั้งนี้ไปก่อน
ต้องเคารพการตัดสินใจ”พินิจ”
“โดยนายพินิจยังคงทำงานการเมืองต่อไปโดยสนใจทำงานการเมืองท้องถิ่นเพื่อรับใช้พี่น้องประชาชนชาวลำปาง เมื่อพรรคได้ทราบ ก็เข้าใจและเห็นว่าไม่มีใครที่เหมาะสมจะมาทดแทนได้ในเวลานี้ จึงไม่สามารถส่งตัวแทนของพรรคลงสมัครได้ การเลือกตั้ง มีแพ้มีชนะได้ แต่หัวใจสำคัญ คือ การอาสารับใช้พี่น้องประชาชน เราตั้งใจสู้เต็มที่ เพื่อดูแลรับใช้พี่น้องประชาชนต่อไป แต่เกิดเหตุสุดวิสัยและต้องเคารพการตัดสินใจของนายพินิจ” นายสมพงษ์ กล่าว
พท.ถอนชิงสส.ลำปาง/สร.สู้แทน
ด้าน นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย ผู้อำนวยการพรรคเพื่อไทย (พท.)ให้สัมภาษณ์เช่นกันว่านายพินิจ จันทรสุรินทร์ แคนดิเดต ผู้สมัครเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ลำปางเขต4 ของพรรค พท.ได้แจ้งมายังพรรคว่าท่านไม่ประสงค์ลงสมัคร ส.ส.ครั้งนี้ เนื่องจากท่านเพิ่งเสียลูกชายไป ประกอบกับอายุมากแล้วจึงไม่อยากลงสมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งก่อนหน้านี้ทางพรรคเสรีรวมไทย(สร.)ได้ส่งผู้สมัครเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราจึงถือว่าผู้สมัครจากทางพรรค สร.เป็นตัวแทนของพรรคฝ่ายค้าน ในการสู้ศึกเลือกตั้งซ่อม สส.ลำปาง เขต4 ในครั้งนี้
5พรรคลงชิงสส.ลำปางเขต4
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ลำปาง ว่า ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการเปิดรับสมัครเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 4 ลำปาง แทนตำแหน่งที่ว่าง ที่ศาลาประชาคม ที่ว่าการอำเภอสบปราบ ซึ่บรรยากาศค่อนข้างเงียบเหงา โดยมีผู้มาสมัครแล้ว จำนวน 5 คน คือ หมายเลข1 1 นายวัฒนา สิทธิวัง จากพรรคพลังประชารัฐ,หมายเลข2 ร.ต.ท.สมบูรณ์ กล้าผจญ จากรรคเสรีรวมไทย , หมายเลข 3 นายอำพล คำศรีวรรณ จากพรรคพลังท้องถิ่นไท ,หมายเลข 4 นายองอาจ สินอนันต์เศษฐ์ จากพรรคไทรักธรรม และหมายเลข 5 น.ส.ปทิตตา ชัยมูลชื่น จากพรรคเศรษฐกิจใหม่
ทั้งนี้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้มีมติกำหนดให้วันเลือกตั้งเป็นวันเสาร์ที่ 20 มิถุนายน 2563 โดยในเขตเลือกตั้งที่ 4 จ.ลำปาง ประกอบด้วย5 อำเภอ คือ เกาะคา เสริมงาม สบปราบ เถินและแม่พริก รวม 29 ตำบล 291 หมู่บ้าน โดยมีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทั้งหมด 163,530 คน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี