สนท.จับมือกลุ่มสหพันธ์ผู้ใช้แรงงาน จี้"บิ๊กตู่"ยกเลิกพรก.ฉุกเฉิน เยียวยาประชาชน-ผู้ใช้แรงงาน
เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2563 ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน นักศึกษามหาลัยธรรมศาสตร์ นักกิจกรรมทางการเมือง นำตัวแทนกลุ่มพัฒนาแรงงานสัมพันธ์ตะวันออก กลุ่มสหภาพแรงงานย่านรังสิตและใกล้เคียง สถาบันแรงงานและเศรษฐกิจที่เป็นธรรม สหพันธ์แรงงานอุตสาหกรรมสิ่งทอ การตัดเย็บเสื้อผ้า และเครื่องหนังแห่งประเทศไทย สหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษา แห่งประเทศไทย สหภาพแรงงานอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้าง ได้ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เรื่อง รัฐบาลต้องยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และแจกเงินเยียวยาให้ประชาชนอย่างทั่วหน้า
โดยแถลงการณ์ระบุว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการแผ่นดินในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ศ.2548) ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 63 จนถึงสิ้นเดือนมิถุนายน 63 ซึ่งการขยายระยะเวลา พ.ร.ก.ฉุกเฉิน สร้างความลำบากให้แก่ประชาชนจำนวนมาก ตลอดระยะเวลาสองเดือนที่มีการประกาศใช้ พรก.ฉุกเฉิน นั้นกลับมี เหตุการณ์จับกุมหรือข่มขู่ดำเนินคดีข้อหาละเมิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน กับนิสิตนักศึกษานักเคลื่อนไหวทางสังคม และแม้กระทั่งประชาชนทั่วไปที่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลเกิดขึ้นหลายครั้ง โดยแต่ละครั้งเจ้าหน้าที่มักจะกล่าวหานิสิตนักศึกษาและประชาชนเหล่านั้น กระทำการอันขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือสร้างความวุ่นวายในสังคม ไม่ได้กล่าวถึงการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แต่อย่างใด แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าที่ผ่านมารัฐบาลไม่ได้ใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อควบคุมโรคแต่ใช้เพื่อควบคุมประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล การขยายระยะเวลาการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จึงเป็นการช่วยโอกาสปิดกั้นสิทธิเสรีภาพของประชาชนโดยใช้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เป็นข้ออ้างเท่านั้น
การขยายเวลา พ.ร.ก.ฉุกเฉิน สร้างความลำบากให้กับประชาชนจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้ใช้แรงงานที่ขาดแคลนรายได้เนื่องจากถูกเลิกจ้างหรือไม่สามารถทำงานได้อย่างปกติ อีกทั้งมาตรการจำกัดการออกจากเคหะสถานในยามวิกาล (เคอร์ฟิว) ยังส่งผลให้ประชาชนและพี่น้องผู้ใช้แรงงานที่ทำงานในช่วงกลางคืนประสบความยากลำบากในการเดินทาง รัฐบาลยังไม่ให้ความสำคัญกับการเยียวยาความเดือดร้อนของประชาชนดังจะเห็นว่ามาตรการเยียวยาของรัฐบาลที่ดำเนินไปแล้วเต็มไปด้วยความล่าช้าและไร้ประสิทธิภาพ เป็นผลให้ประชาชนจำนวนมากตกหล่นจากมาตรการเยียวยาของรัฐ โดยเฉพาะแรงงานนอกระบบและแรงงานในภาคเกษตรกรรม การขยายอายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพียงเพื่อให้รัฐบาลได้รักษาอำนาจของตนไว้ จึงถือเป็นการซ้ำเติมประชาชนอย่างเลือดเย็นและยังเป็นการดูถูกประชาชนอย่างที่สุด
ในขณะนี้ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคระบาดได้ทุเลาความรุนแรงลงไปมาก ดังจะเห็นได้จากจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตลดลงจึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลหยุดใช้เชื้อโรคเป็นข้ออ้างในการเหยียบหยามประชาชน
พวกเรานิสิตนักศึกษานักเรียนและผู้ใช้แรงงานจึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งดำเนินการ ดังต่อไปนี้
1.ยกเลิกการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และนำกฎหมายที่สามารถใช้ควบคุมโรคแต่ไม่สามารถใช้จำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชน เช่น พระราชบัญญัติโรคระบาดร้ายแรง พ.ศ.2558 มาใช้แทน
2.เยียวยาประชาชนทุกคนอย่างถ้วนหน้า โดยผู้ใช้แรงงานทุกภาคส่วนเช่นแรงงานนอกระบบประกันสังคม แรงงานที่จ้างตัวเอง แรงงานในภาคเกษตรกรรม ต้องได้รับสิทธิอย่างเท่าเทียม เพื่อให้ประชาชนทุกคนเข้าถึงความช่วยเหลือจากภาครัฐอย่างทั่วถึงเท่าเทียมและทันท่วงที
หวังเป็นอย่างยิ่งว่าท่ามกลางสถานการณ์อันยากลำบากเช่นนี้ รัฐบาลจะยึดถือประโยชน์ของประชาชนมากกว่าการรักษาอำนาจตัวเอง เพราะประเทศไทยย่อมเป็นของประชาชนไทยทุกคน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี