นายกฯแจงใช้งบ
ดักคอฝ่ายการเมืองอย่าไปยุ่ง
โยน‘ฝ่ายค้าน-รบ.’คุยตั้งกมธ.
“นายกฯ” ยืนยัน ใช้งบฟื้นฟู 4 แสนล้านมาตามขั้นตอน ยึดกฎหมาย มีกลไกตรวจสอบ ดักคอฝ่ายการเมืองอย่าเข้าไปยุ่งก็แล้วกัน โยน “ฝ่ายค้าน-รัฐบาล” ไปตกลงตั้ง กมธ.วิสามัญ ตรวจสอบใช้เงินกู้ 1.9 ล้านล้านบาท หรือไม่ ขณะที่พท.ซัดบริหารผิดพลาดจนต้องกู้เงิน ด้าน ปชป.“สาทิตย์” ชงตั้งตัวแทนภาค ปชช.ตรวจสอบคอร์รัปชั่น ร่วมเป็น กก.กลั่นกรองใช้เงินระวังโครงการเดิม ปัดฝุ่นใหม่-ฮั๊วประมูล ผู้รับเหมา หนุนตั้งกมธ.วิสามัญสอบใช้เงิน ขณะ’ฝ่ายค้าน’ชิงยื่นญัตติ ตั้ง กมธ.วิสามัญสอบเงินกู้ คาใจไร้แผนงาน
เมื่อเวลา 09.30น.วันที่ 29พฤษภาคม ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชกำหนด (พรก.) กู้เงิน 3ฉบับ วงเงิน1.9ล้านล้านบาท ต่อเนื่องเป็นวันที่สาม มี นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม เวลา 09.34น.เข้าสู่การอภิปราย โดย นายนิยม เวชกามา สส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย (พท.) เป็นผู้อภิปรายคนแรกว่า เงินกู้ฉบับนี้ถือว่าเป็นการกู้ของรัฐบาลที่ผิดพลาดในการบริหารโควิด-19 ซึ่งเป็นความจำเป็นที่สส.ต้องติติง ฉะนั้นที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ออกมาขู่ตะคอกว่าที่ผู้แทนกล่าวว่าหาว่าท่านผิดทุกเรื่องมันไม่ใช่ มันคือความคิดเห็นของผู้แทน ในเมื่อประชาชนเลือกเรามาและประชาชนทั้งประเทศเป็นหนี้ร่วม ดังนั้นรัฐบาลต้องฟังความเห็นจากประชาชน
ปชป.แนะรบ.ต้องแจงใช้งบสู้โควิด
จากนั้น นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย สส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) อภิปรายการออก พรก.3 ฉบับ ว่า ขอตั้งข้อสังเกตถึงงบประมาณเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม 400,000ล้านบาท ต้องให้เกิดผลทันที โดยมีโครงการเป็นตัวชี้วัด แม้จะกำหนดกรอบแผนงานในบัญชีแนบท้ายไว้ 4ด้าน แต่ไม่มีการเขียนแยกแยะวงเงินแผนงานแต่ละด้านเอาไว้สะท้อนว่า ไม่มีการคิดหรือเตรียมการหรือไม่ เมื่อไม่มีตัวกรอบโครงการจึงตั้งข้อสังเกต 3ข้อ คือ 1.ต้องระวังไม่ให้เป็นโครงการที่ฮั๊วกับผู้รับเหมาหรือโครงการเก่ามาปัดฝุ่นเขียนใหม่ให้เข้าเงื่อนไข ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ เพราะเกี่ยวข้องกับงบประมาณฟื้นฟูที่จะได้ราวจังหวัดละ 5,000ล้านบาท2.ควรมีสัดส่วนภาคประชาสังคมที่ทำงานติดตามปราบปรามการทุจริตมาอยู่ในคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้เงินกู้ ตามที่ นายกรณ์ จาติกวณิช อดีต รมว.คลัง เสนอไว้และ3.ควรเปิดเผยข้อมูลแต่ละโครงการที่มีการเสนอมา อย่างยุคไทยเข้มแข็งสมัย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกฯ มีการทำเว็บไซต์ไทยเข้มแข็ง มีการแจกแจงโครงการที่อนุมัติ ขั้นตอนการประมูลเสนอราคา และสถานะของโครงการ รัฐบาลชุดนี้อาจจะต้องทำเว็บไซต์เผยแพร่ว่า แต่ละจังหวัดเสนอโครงการอะไรมาบ้าง อนุมัติโครงการใดบ้าง แต่ละโครงการที่มีการประมูลรับเหมาสถานะเป็นอย่างไร ให้ประชาชนสามารถติดตามได้ ซึ่งเป็นข้อเสนอที่สำคัญ เป็นการบ่งบอกว่าเงินจำนวนนี้ได้ผลต่อเมื่อใช้ได้ทันทีและโปร่งใส
หนุนตั้งกมธ.วิสามัญมุ่งโปร่งใส
นายสาทิตย์ กล่าวอีกว่า เพื่อความโปร่งใสควรตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญเพื่อติดตามการใช้จ่ายเงิน ซึ่งเป็นการทำหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติอีกทางหนึ่ง เพื่อรับประกันว่า โครงการทั้งหลายจะเกิดผลในทางการสร้างรายได้และแก้ปัญหาที่เกิดจากผลกระทบ 19 อย่างแท้จริง เพราะพรก.กำหนดเพียงว่าให้รายงานภายใน 60วัน นับแต่วันสิ้นปีงบประมาณ นั่นหมายความว่าจะติดตามได้ปีละ1ครั้งเท่านั้น แต่ถ้าตั้งคณะกมธ.วิสามัญ สามารถทำงานตรวจสอบสอดคล้องไปพร้อมกับคณะกรรมการกลั่นกรองได้ทันที
ฝ่ายค้านขู่ดึงภาคปชช.ตรวจสอบ
นายสุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน กล่าวถึงการตั้ง กมธ.วิสามัญเพื่อตรวจสอบการใช้เงินกู้ ว่า ถ้าพรรคร่วมรัฐบาลเห็นด้วย ก็สามารถตั้งได้ ซึ่งเท่าที่ฟังการอภิปรายมี นายเทพไท เสนพงศ์ สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ที่เห็นด้วย แต่ไม่แน่ใจสส.พรรคร่วมรัฐบาลคนอื่นๆจะเห็นด้วยหรือไม่ เพราะหากใช้เสียงฝ่ายค้านเพียงอย่างเดียวจะไม่พอต่อการตั้ง หากเป็นเช่นนั้นฝ่ายค้านจะเดินหน้าสร้างกระบวนการการตรวจสอบโดยภาคประชาชนแทน
จากนั้น นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้านและส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย นส.ชนก จันทาทอง ส.ส.หนองคาย พรรคเพื่อไทย ร่วมยื่นหนังสือที่สมาชิกได้ลงนาม ขอให้มีการตั้ง กมธ.วิสามัญตรวจสอบการใช้เงิน1.9ล้านล้านบาท ผ่าน นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาฯผู้แทนราษฎร
เข้าชื่อ42คนชงตั้งกมธ.วิสามัญ
นพ.ชลน่าน ในฐานะผู้เสนอญัตติ กล่าวว่า ตามที่ครม.ได้เสนอ พรก.เงินกู้ 3ฉบับนั้น ในส่วนพรรคร่วมฝ่ายค้าน คงยากที่จะไปคัดค้าน พรรคฝ่ายค้านได้ตั้งข้อสังเกต มีข้อเสนอแนะเกี่ยวกับพรก.ฉบับต่างๆไม่มีรายละเอียด แผนงานในโครงการ เราเป็นห่วงการใช้เงิน ทั้งพรรคเพื่อไทย พรรคร่วมฝ่ายค้าน ได้ติดตามตรวจสอบ เนื่องจากการกู้เงินที่เดือนมิถุนายนจะอนุมัติเงินเดือนก.ค.จะเริ่มใช้เงินและจะต้องใช้ให้แล้วเสร็จในเดือนก.ย.2564 โดยไม่เป็นงบผูกพัน การที่สส.ร่วมลงนามเสนอให้มีการตั้ง กมธ.วิสามัญตรวจสอบการใช้เงินกู้ เพื่อจะเสนอให้มีผู้เชี่ยวชาญมาร่วมตรวจสอบและมีสมาชิกลงนาม 42คน เป็นไปตามข้อบังคับสภาฯข้อที่50 และหวังว่า สภาฯจะบรรจุญัตติให้เป็นเรื่องด่วน จากการอภิปราย มีสส.พรรคร่วมรัฐบาลบางคนมีท่าทีขอร่วมตรวจสอบด้วย หวังว่าสส.ฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล จะร่วมมือในการตั้ง กมธ.ชุดดังกล่าว
ปชป.หนุนตั้งกมธ.ใช้งบสูงมาก
นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส. นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า ที่ประชุม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ส่วนใหญ่เห็นด้วยว่า ควรตั้ง กมธ.วิสามัญตรวจสอบการใช้งบประมาณ ซึ่ง นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย สส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ จะเป็นผู้ร่างญัตติเสนอ เนื่องจากงบประมาณเงินกู้ 1.9 ล้านล้านบาท เป็นงบประมาณที่สูงมากและพรรคปชป.มีธรรมเนียมปฏิบัติเช่นนี้มาแล้วในปี2542 รัฐบาล นายชวน หลีกภัย กู้เงินจากโครงการมิยาซาว่าแพลน 53,000ล้านบาท แต่พรรค ปชป.เสนอตั้งกมธ.วิสามัญติดตามตรวจสอบเรื่องนี้เอง ถ้ารัฐบาลบริสุทธิ์ใจ อยากให้งบฯโปร่งใสจริงควรเปิดโอกาสให้มีการตรวจสอบ
เชื่อมั่นนายกฯไม่ไว้ใจคนรอบข้าง
เราเชื่อมั่นในตัวนายกฯแต่รอบข้างนายกฯไม่สามารถไปการันตีได้ ดังนั้นนายกฯควรให้ กมธ.เข้าไปเป็นหูเป็นตาทำงานแทนและไม่เหมาะสมที่จะให้คณะกรรมาธิการสามัญ 35คณะตรวจสอบการใช้งบประมาณ เพราะมีข้อจำกัดเรื่องบุคลากร กรรมาธิการสามัญประจำสภา ส่วนใหญ่เป็น สส.ไม่มีผู้เชี่ยวชาญมากพอในเรื่องนี้ แต่หากเป็นกมธ.วิสามัญสามารถใช้นักวิชาการ ตัวแทนภาคประชาสังคม หรือตัวแทนสื่อมวลชน ผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ เข้ามาเป็นกรรมาธิการได้ น่าจะเป็นโอกาสดีที่จะให้ตั้ง กมธ.วิสามัญ ไม่น่าจะเกิดความเสียหายอะไร ดูเสียงตอบรับเชื่อว่า จะตั้ง กมธ.วิสามัญได้ ถ้าปฏิเสธก็ตอบคำถามสังคมได้ยาก
ด้าน นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคปชป.ในฐานะรองประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า เป็นสิทธิ์ของ สส.ที่จะเสนอญัตติตั้ง กมธ.วิสามัญตรวจสอบการใช้งบประมาณ ซึ่งที่ประชุมพรรคประชาธิปัตย์เห็นด้วยกับการตรวจสอบอย่างโปร่งใส รวมถึงการตั้ง กมธ.วิสามัญ ซึ่งเท่าที่หารือกับประธานวิปรัฐบาลโดยเบื้องต้นแล้ว ฝ่ายรัฐบาลไม่ขัดข้องและไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
‘บิ๊กตู่’โยน’ฝ่ายค้าน-รบ.’ตกลงตั้ง กมธ.
ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมให้สัมภาษณ์กรณีฝ่ายค้านระบุการใช้เงินตาม พรก.กู้เงินไม่มีแผนชัดเจนในการใช้งบฯว่า เรื่องนี้ทำไปตามปกติ ตามขั้นตอนของกฎหมาย แผนงานส่วนใหญ่ก็เป็นแบบนี้ แผนงานกลาง เขาก็ทำกันแบบนี้คือวางกรอบใหญ่มาแล้วค่อยทำเป็นโครงการก่อนจะผ่านคณะกรรมการคัดกรอง โดยจะลงไปรับฟังความคิดเห็นจากข้างล่างเหมือนกับโครงการทั่วไปว่าตรงกับความต้องการของประชาชนหรือไม่อย่างไร ส่วนกลไกการตรวจสอบก็มีอยู่ทุกตัวทั้งสำนักงานการตรวจเงินแผ่น(สตง.) คณะกรรมการป้องกันและปราบรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ก็มีหมด คณะกรรมการติดตามคณะโน้นคณะนี้ก็มีหมด แล้วโครงการที่จะเสนอขึ้นมาในวันข้างหน้าก็ต้องเสนอผ่านคณะกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ (ก.น.จ.) กลั่นกรองขึ้นมา ไม่ใช่ตนไปตั้งหน่วยงานขึ้นมาเอง ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่าข้างล่างเขาทำกันมาอย่างไร
เมื่อถามว่า แปลว่าไม่อยากให้ตั้ง กมธ.วิสามัญขึ้นมาตรวจสอบการใช้เงินกู้ตามที่ฝ่ายค้านเสนอใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า“การติดตามมีคณะนั้นคณะนี้ติดตามกันเยอะไปหมด ขอให้เข้าไปดูว่าโครงการที่จะออกมาในวันข้างหน้าต้องเสนอผ่าน ก.น.จ.ขึ้นมา ไม่ใช่ ผมไปตั้งหน่วยงานขึ้นมาเอง ดังนั้นก็อยู่ที่ท่าน ต้องไปไล่กันดูว่าข้างล่างทำกันอย่างไร ขอให้ฝ่ายการเมืองอยากเข้าไปยุ่งกับเขา ก็แล้วกัน ส่วนเรื่องการบริหารไม่เกี่ยวกับผม ฝ่ายค้าน รัฐบาลเขาไปว่ากันเอาเอง’นายกฯกล่าว ก่อนเดินไปขึ้นลิฟท์เข้าร่วมประชุมสภาฯทันที”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี