“สมศักดิ์”ชี้ พ.ร.ก. 3 ฉบับ สอดคล้อง รธน.มาตรา 172 ไม่จำเป็นต้องตั้งกมธ.วิสามัญมาตรวจสอบ สามารถใช้กมธ.สามัญ 35 คณะที่มีอยู่แล้วตรวจสอบได้ แนะรัฐขยายเวลาเสนอโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจออกไปอีก 20-30 วัน เสนอเพิ่มวงเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐอีก 1,000 บาท
เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2563 นายสมศักดิ์ คุณเงิน ส.ส.ขอนแก่น พรรคพลังประชารัฐ อภิปรายพ พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 วงเงิน 1 ล้านล้านบาท ที่มีความจำเป็นเนื่องจากการระบาดโรคร้ายแรงทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย มีผู้ติดเชื้อทั่วโลก 5.9 ล้านคน แม้ประเทศไทยจะมีผู้ติดเชื้อน้อย แต่ไม่มีหลักประกันว่าสถานการณ์จะต่อเนื่องยาวไปมากน้อยแค่ไหน องค์การอนามัยโลกประกาศว่าเป็นโรคอุบัติใหม่ที่เกิดการระบาดใหม่ ยังไม่มียาและวัคซีนเพื่อเยียวยารักษา เกิดผลกระทบระบบเศรษฐกิจหดตัวอย่างรุนแรง มีผลกระทบต่อทุกอาชีพ
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า สิ่งต่างๆ เกิดขึ้นด้วยความรวดเร็ว ไม่อาจใช้กระบวนการงบประมาณปกติตามกระบวนการนิติบัญญัติได้ทันท่วงที จึงต้องตราพระราชกำหนดซึ่งเป็นช่องทางที่รวดเร็ว เพื่อรักษาความมั่นคงสาธารณะ ความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ปัดป้องภัยพิบัติ โดยมีวัตถุประสงค์หลัก 3 ประการ คือแผนงานด้านการแพทย์และสาธารณสุข 45,000 ล้านบาท เยียวยาช่วยเหลือประชาชน 555,000 ล้านบาท และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม 400,000 ล้านบาท โดยให้มีคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้เงินกู้ และออกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีมารองรับ ซึ่งมีขั้นตอนปฏิบัติชัดเจน มีการติดตามประเมินผลการใช้จ่ายเงินกู้ กระทรวงการคลังต้องจัดทำรายงานต่อรัฐสภาเมื่อโครงการเสร็จสิ้น และเป็นการกำหนดวงเงินซึ่งไม่เกินเพดานหนี้สาธารณะที่ร้อยละ 60
นายสมศักดิ์ กล่าวถึงประเด็นความชอบด้วยรัฐธรรมนูญของพระราชกำหนด โดยชี้ให้เห็นถึงความสอดคล้องกับสถานการณ์ ที่ต้องออกพระราชกำหนดเพื่อความจำเป็นเร่งด่วน มีเพียงสมาชิกบางคนที่มีความเห็นว่ากลไกการกลั่นกรองตรวจสอบพระราชกำหนดฉบับนี้ อาจจะผ่อนหรืออ่อนไปบ้าง และอยากจะเห็นการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญขึ้นมาเพื่อพิจารณากลั่นกรอง แต่สภาผู้แทนราษฎรมีคณะกรรมาธิการสามัญ 35 คณะอยู่แล้ว ก็น่าจะทำหน้าที่ในการกลั่นกรองตรวจสอบสิ่งต่างๆเหล่านี้ได้ น่าจะเป็นมาตรการที่เพียงพอ
นายสมศักดิ์ ยังกล่าวถึงงบประมาณเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม 400,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจ โดยให้ส่วนภูมิภาคส่งแผนงานหรือโครงการภายในวันที่ 2 มิถุนายน ซึ่งมองว่าระยะเวลาสั้นเกินไป น่าจะขยายระยะเวลาออกไป 20 ถึง 30 วัน และขอให้ใช้งบประมาณในส่วนนี้ร้อยละ 50 ไปแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ปัญหาการจัดการน้ำ เพื่อฟื้นฟูภาคเกษตร รวมถึงสร้างงานในชนบท และควรเพิ่มวงเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไปอีกบัตรละ 1,000 บาท น่าจะเพียงพอต่อการเลี้ยงปากท้องและชีวิตของประชาชน โดยสรุปว่าพระราชกำหนดทั้ง 3 ฉบับสอดคล้องตามรัฐธรรมนูญมาตรา 172 และควรอนุมัติเป็นกฎหมายถาวร บังคับใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี